Skip to main content
sharethis

'วิษณุ' ชี้รวมได้กว่า 309 เสียง มั่นคงถาวรยิ่งกว่าเรือเหล็ก แนะ ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา เอาไมตรีแลกเสียง ส.ว. ยันโหวตไม่ผ่านรอบแรกชื่อเดิมโหวตมันทุกวันก็ยังได้

18 พ.ค.2566 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า วันนี้ (18 พ.ค.) 9.30 น. วันที่ 18 พ.ค.66 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ห่วงจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ว่า ไม่ทราบ ตนตามเรื่องเท่าที่สื่อมวลชนเสนอ ไม่รู้อะไรมากกว่านั้น

"ตอนนี้ก็ดูว่าจะรวบรวมเป็นปึกเป็นแผ่นได้ดี ก็มันมากกว่า 309 ด้วยซ้ำไป ถือว่ามั่นคงถาวร ตัวเลขเกิน 250 รัฐบาลที่แล้วผมยังบอกว่าเรือเหล็กเลย แต่นี่มันยิ่งกว่าเหล็กอีก" วิษณุ กล่าว

ต่อประเด็นที่ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกฯอีกนั้น วิษณุ กล่าวว่า อาศัยในช่วงของการโหวตนายกฯ และอาจจะต้องอาศัยอีกในตอนแก้ไขรัฐธรรมนูญ

"เชื่อเถอะว่าปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง ผมยังยืนยันอยู่ ค่อยๆ พูดค่อยๆ จา" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว พร้อมระบุว่ากว่าจะถึงเวลาเลือกนายกฯ บวกเข้าไปอีกร่วม 30 วัน รวมแล้วก็ 3 เดือน ดังนั้นต้องใช้เวลาตรงนี้ให้เป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจ ไม่ใช่ว่าไปด่าทอกัน หรือประชดประชันกัน มันต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่ เพราะต่างก็เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของรัฐสภา มันไม่ใช่แค่ทำงานฉาบฉวย สำหรับการเลือกนายกฯ อาจจะไม่ใช่ภารกิจยุ่งยากเท่าไหร่ แต่การผ่านกฎหมาย อะไรต่ออะไรยังมีมากกว่านี้ และหลายคนใน 6-7 พรรคนี้ก็พยายามประสาน เพราะเขามีพรรคพวกเพื่อนฝูงอยู่

"ใช้เวลาตอนนี้ให้เป็นประโยชน์ อย่าลงมือด่าทอ ตบตีกัน ตั้งแต่วันแรก" วิษณุ ย้ำ

เมื่อถามว่า ตอนนี้พรรคก้าวไกลสามารถรวมกับพรรคอื่นได้ 8 พรรคแล้ว วิษณุ กล่าวว่า กี่พรรคก็ช่าง แต่ตนเห็นว่ามันมั่นคงแล้ว เมื่อถามว่า ไม่เยอะเกินไปใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่แกนนำรัฐบาลจะไปคิดกัน เราจะไปวิจารณ์เขาได้อย่างไรว่าเยอะไป ถ้าเขาได้ 500 ยิ่งดีใหญ่

ต่อประเด็นคำถามว่าในทางกฎหมาย หากโหวตชื่อแคนดิเดตนายกฯคนใดคนหนึ่งไปแล้ว แต่ไม่ผ่าน จะสามารถนำชื่อเดิมกลับมาโหวตอีกได้หรือไม่นั้น วิษณุ กล่าวว่า “ได้ โหวตมันทุกวันนั่นแหละ ชื่อเดิมก็ได้”

ต่อคำถามพรรคอันดับ 2 จะสามารถเสนอชื่อแคนดิเดต นายกฯขึ้นไปก็ได้ใช่หรือไม่นั้น วิษณุ กล่าวว่า ได้ทุกอย่าง มันต้องอาศัยเสียงกึ่งหนึ่งในรอบแรก เพราะว่ามาตรา 272 วรรคหนึ่ง ระบุว่า ต้องมีความเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภาที่มีอยู่ ซึ่งคือ 376 เสียง แต่ถ้าไม่สำเร็จก็โหวตอีก โหวตไปโหวตมาจนกระทั่งในที่สุดจะเปลี่ยนไปใช้มาตรา 272 วรรคสองก็แล้วแต่ หรือจะโหวตซ้ำมาตรา 272 วรรคหนึ่งก็ได้ ไม่เป็นไร เพราะมันอาจจะมีเหตุผลใหม่ๆ ดีๆ และมีคนเปลี่ยนใจเพิ่มขึ้นก็ได้ สำคัญคือ วันแรก ด่านแรก ในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่า มาตรา 272 วรรคสอง ที่จะใช้ได้คืออะไรนั้น วิษณุ กล่าวว่า แปลว่าเลิกแล้ว ไม่เอาแล้ว หาบุคคลอื่น แม้กระนั้นพอจะใช้วรรคสองที่ระบุว่า ทั้งนี้ อาจจะเสนอรายชื่อบุคคลที่อยู่ในรายชื่อนายกฯที่แต่ละพรรคเสนอได้ ซึ่งมันก็กลับมาใช้ได้อีก เห็นไหมล่ะ ขนาดใช้วรรคสองยังกลับมาใช้ชื่อเดิมได้อีก แล้วนับประสาอะไรกับแค่วรรคหนึ่ง รอบแรกไม่ผ่าน แล้ววันหลัง อาทิตย์หน้ามาใหม่ ก็เสนอรายชื่อเดิมได้

เมื่อถามอีกว่า แบบนี้แสดงว่ามีสิทธิ์ที่จะใช้นายกฯนอกบัญชีได้ใช่หรือไม่นั้น วิษณุ กล่าวว่า “ก็ได้ทั้งนั้น แต่อันนี้เป็นกรณีของวรรคสองนะ ซึ่งผมว่ายาก เพราะกว่าจะได้วรรคสองมันต้องใช้เสียงถึง 2 ใน 3 ซึ่งมันยาก มันไม่เกิดได้ง่ายๆหรอก เนี่ยเดี๋ยวพวกคุณก็ไปลงข่าวว่าผมชี้ช่องอีก เอาแค่วรรคหนึ่งให้มันจบและผมเชื่อว่าจบด้วย”

ที่มา : เพจสรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว และมติชนออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net