Skip to main content
sharethis

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนเครดิต พ.ศ. .... กำหนดกลไกภาคบังคับเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน สอดคล้องพันธกรณีระหว่างประเทศ เปิดรับฟังถึง 22 พ.ค. 2567

28 เม.ย. 2567 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่าสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนเครดิต พ.ศ. .... ซึ่งเป็นร่างการเงิน เสนอโดยพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ

ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีหลักการสำคัญ คือ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกและคาร์บอนเครดิต เนื่องจากประเทศไทยได้ให้สัตยาบันเข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีสตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559 และได้แสดงเจตจำนงที่จะขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศให้มีความยั่งยืนโดยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นและดำเนินตามพันธกรณีระหว่างประเทศ จำเป็นที่จะต้องมีกลไกภาคบังคับและส่งเสริมที่เข้มงวดเพื่อลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด อย่างไรก็ตามกฎหมายที่มีใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันยังไม่สามารถครอบคลุมการดำเนินการดังกล่าวได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

สำหรับการขับเคลื่อนโดยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนและปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ตามร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติด้วยการสนับสนุนจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมและองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ผ่านกลไกการดำเนินการ อาทิ การกำหนดสิทธิของบุคคลและชุมชนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไม่ว่าจะเป็นสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล สิทธิที่จะได้รับแจ้งข้อมูลและการสนับสนุนจากรัฐ สิทธิในการแสดงความคิดเห็นในการจัดการปัญหา สิทธิในการได้รับการส่งเสริมการดำเนินงาน และสิทธิในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมและได้รับการเยียวยาเมื่อสิทธิเสรีภาพถูกละเมิด การกำหนดเป้าหมายการดำเนินการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของหน่วยงานรัฐทุกภาคส่วน การกำหนดแผนแม่บทรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติซึ่งต้องมีการทบทวนทุก 5 ปี การกำหนดแผนการปรับตัว และการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัว การจัดทำฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก และฐานข้อมูลด้านภูมิอากาศและข้อมูลความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของประเทศ ให้ประชาชนเข้าถึงได้ทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการกำหนดให้เอกชนรายงานข้อมูลกิจกรรมและปริมาณการปล่อย กักเก็บ และดูดซับก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้ ยังจัดตั้งกองทุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อดำเนินหรือจัดให้มีมาตรการส่งเสริมด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสนับสนุนทางการเงินแก่หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนเพื่อการได้มาซึ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่จะเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกหรือเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี การจัดเก็บภาษีคาร์บอน โดยเรียกเก็บจากผู้ประกอบอุตสาหกรรม ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้าสินค้าที่กำหนดตามปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ประเมินได้ในจุดหนึ่งจุดใดของวัฏจักรชีวิตของสินค้า และการใช้โทษปรับทางพินัยบังคับแก่ผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามร่างพระราชบัญญัติ

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้จนถึงวันที่ 22 พ.ค. 2567 ทางลิงค์นี้ 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net