Skip to main content
sharethis

หลังจากก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์คนร้ายใช้กำลังทำร้ายและชิงทรัพย์คู่รักเพศเดียวกันในรถประจำทางกรุงลอนดอน ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ที่ผ่านมามีการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นวัยรุ่น 5 คน รวมถึงมีผู้คนในอังกฤษพากันประณามการก่อเหตุในครั้งนี้

ภาพของคริสและเมลาเนียหลังถูกทำร้าย (ที่มา:CNN via Geymonat's Facebook)

9 มิ.ย. 2562 หลังเหตุการณ์โจมตีคู่รักหญิงรักหญิงเกิดขึ้นในรถประจำทางช่วงกลางคืนของวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้เสียหายคือคู่รักเพศเดียวกัน เมลาเนีย เกย์โมนัต และคู่รักของเธอชื่อคริส กำลังเดินทางกลับบ้านหลังออกเดทด้วยกันช่วงเย็น โดยที่เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วเกย์โมนัตโพสต์รูปภาพของเธอและคู่รักในสภาพเปื้อนเลือดหลังเกิดเหตุ

เกย์โมนัตเล่าว่ามีชาย 4 คนเข้ามารังควานพวกเธอหลังจากที่เห็นเธอและคนรักจูบกัน วัยรุ่นกลุ่มนี้เริ่มพูดจาในเชิงลามกใส่พวกเธอและสั่งให้พวกเธอจูบกันอีก ก่อนที่ต่อมาจะกลายเป็นเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ "พวกเขาเริ่มต้นด้วยการทำตัวเหมือนอันธพาล สั่งให้พวกเราจูบกันอีกเพื่อให้พวกเขาดูอย่างสนุกสนาน พวกเขาเรียกพวกเราว่า 'เลสเบียน' และบรรยายถึงท่วงท่าการมีเพศสัมพันธ์"

เกย์โมนัตเล่าต่อไปว่าพวกเธอเริ่มพูดอะไรตลกๆ เพื่อพยายามจะทำให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่คนเหล่านี้ก็ยังคงรังควาญพวกเธอ ขว้างเหรียญใส่พวกเธอ แล้วก็เริ่มจริงจังกับการข่มเหงพวกเธอมากขึ้น รู้ตัวอีกทีเธอก็เห็นว่าคริสไปอยู่ที่กลางรถประจำทางและกำลังต่อสู้กับพวกเขา เกย์โมนัตลุกขึ้นไปหาโดยทันทีทำให้เธอพบว่าคริสมีเลือดออกที่ใบหน้าหลังจากที่สามคนในกลุ่มคนที่รังควาญทุบตีทำร้ายเธอ ต่อมาตัวเกย์โมนัตเองก็โดนต่อยไปด้วย

เกย์โมนัตกล่าวต่อสื่อซีเอ็นเอ็นว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเธอรู้สึกถูกล่วงละเมิด ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกที่ทำให้เธอจมูกหัก เธอโกรธมากต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างน้อยมันก็ไม่แย่ไปกว่านี้

ตำรวจนครบาลลอนดอนเปิดเผยว่าพวกเขาจับกุมบุคคลอายุ 15-18 ปีที่ต้องสงสัยก่อเหตุดังกล่าวไว้แล้วในข้อหาทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสและชิงทรัพย์ แอนดี ค็อกซ์ ผู้กำกับการตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนกล่าวว่าการทำร้ายร่างกายในครั้งนี้เป็นเรื่อง "น่ารังเกียจ" และเข้าใจได้ว่าทำไมสังคมถึงแสดงความไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีลอนดอนประณามการก่อเหตุในครั้งนี้ว่าเป็นเรื่อง "น่ารังเกียจ" และเป็นการโจมตีด้วย "อคติแบบเกลียดชังผู้หญิง" (misogynistic attack) นอกจากนี้ยังระบุในทวิตเตอร์ว่า "อาชญากรรมจากความเกลียดชังอัตลักษณ์ต่อชุมชน LGBT+ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ในลอนดอน"

เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีผู้ที่เพิ่งประกาศสละตำแหน่งไปไม่นานนี้ก็ประณามการก่อเหตุในครั้งนี้เช่นกันว่าเป็นการโจมตีที่น่าขยะแขยง เธอยังประกาศตัวว่าอยู่ข้างเดียวกับคู่รักเพศเดียวกันคู่นี้และบอกอีกว่าไม่มีใครที่ควรจะต้องแอบซ่อนคนที่ตัวเองรักและพวกเขาควรจะร่วมมือกันในการกำจัดความรุนแรงต่อชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศ

เกย์โมนัตให้สัมภาษณ์ต่อซีเอ็นเอ็นอีกว่าที่เธอเล่าเรื่องลงในเฟสบุ๊คเพราะต้องการสร้างความตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น การข่มเหงรังแกด้วยฐานจากอคติต่อเพศวิธีแบบนี้เคยเกิดขึ้นกับเพื่อนของพวกเธอหลายครั้งมากไม่ว่าจะเป็นตอนที่นั่งในบาร์แล้วมีคนมารังควาญ หรือตอนที่พวกเธอกำลังออกเดทกันแล้วมีคนมาบังคับให้จูบกันให้ดูเหมือนเป็นสิ่งบันเทิงสำหรับพวกเขาโดยอ้างว่าพวกเขาจะไม่เชื่อถ้าไม่จูบกันให้ดู โพสต์ของเธอในเฟสบุ๊คมีคนแสดงความคิดเห็นว่ามันเป็นเรื่องน่าหงุดหงิดที่ "ความรุนแรงกลายเป็นเรื่องเกิดขึ้นปกติ" และผู้หญิงอย่างพวกเธอจำเป็นต้องทนต่อ "การข่มเหงรังแกด้วยวาจา และความรุนแรงในแบบที่มีอคติเกลียดชังผู้หญิง ยกตนข่มด้วยความเป็นชาย และมีความเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกัน"

เรียบเรียงจาก

Lesbian couple viciously beaten in homophobic attack on London bus, CNN, Jun. 8, 2019

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net