Skip to main content
sharethis
  • รมต.สำนักนายกฯ รุดหารือทูตจีน หลังมีกระแสภาพยนต์จีน "No More Bets" นำเสนอมุมมองไทยคลาดเคลื่อน ทูตจีนเร่งใช้สื่อให้ความมั่นใจท่องเที่ยวไทยยังปลอดภัย กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวตรุษจีนปี'67
  • ยอดนักท่องเที่ยวชาวจีนมาไทยอาจไม่ถึงเป้า 5 ล้าน หลังภาพยนตร์จีนว่าด้วยเรื่องอาชญากรรมจีนเทา ค้ามนุษย์ กาสิโน และแก๊งคอลฯ เข้าฉาย ทำให้คนจีนไม่กล้ามาเที่ยวภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ หวั่นตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ ถูกหลอกทำงาน
  • ผลสำรวจเว่ยปั๋ว ระบุ 85% จากการสอบถามชาวจีน 5.4 หมื่นคน ระบุว่าไม่กล้ามาเที่ยวประเทศอาเซียน เพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย 

 

28 พ.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานวันนี้ (28 พ.ย.) พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมหารือกับ หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กรณีที่มีกระแสข่าวหลังภาพยนตร์จีน "No More Bets" นำเสนอภาพ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย โดยมีภาพที่สื่อถึงวงจรฉ้อโกง การค้ามนุษย์ การค้าอวัยวะในตลาดมืด และแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการจับคนรวยเรียกค่าไถ่ ซึ่งอาจส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวจีนมีความกังวลในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย

(ซ้าย-ขวา) หาน จื้อเฉียง และ พวงเพ็ชร ชุนละเอียด

โดย พวงเพ็ชร กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ภาพยนตร์ดังกล่าวไม่ได้มีการถ่ายทำที่เมืองไทย แต่มีการนำบางฉากที่มี 'ภาษาไทย' ออกเผยแพร่ จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิด เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย 'เว่ยปั๋ว' (Weibo) ของจีน ซึ่งวันนี้ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับท่านทูตจีน เพื่อสื่อสารไปยังชาวจีนให้เกิดความเข้าใจว่าไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน 

 ทั้งนี้ รัฐบาลไทยยืนยันว่า ประเทศไทยมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในการดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเข้มงวด พร้อมขอให้ทางจีนประสานแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับไทยอย่างใกล้ชิด ผ่านกลไกความร่วมมือของกรมประชาสัมพันธ์ และกลุ่มสื่อแห่งชาติจีน "China Media Group" (CMG) ที่มีการลงนามความร่วมมืออย่างเป็นทางการไปแล้ว เพื่อข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว สกัดกั้นปัญหาการเกิดข่าวปลอมที่สร้างความเสียหายระหว่างทั้งสองประเทศด้วย

ด้านเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนไม่เคยเปลี่ยน ตนมั่นใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ เทศกาลตรุษจีนที่กำลังมาถึง

เว็บไซต์ "ผู้จัดการออนไลน์" และ "มติชนออนไลน์" รายงานว่า ภาพยนตร์แอ็กชัน อาชญากรรม ระทึกขวัญ สัญชาติจีน เรื่อง "No More Bets" (ทุ่มสุดตัวเดิมพันครั้งสุดท้าย) ผลงานกำกับโดย 'อ้าวเฉิน' เปิดตัวฉายโรงวันแรกในประเทศจีน เมื่อ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2566 มีรายงานว่า เมื่อ ส.ค. 2566 หนังเรื่องดังกล่าวสามารถกวาดรายได้ไปทั้งสิ้น 3.8 พันล้านหยวน หรือเป็นเงินไทยราว 18,995 ล้านบาท ขึ้นแท่นหนังทำรายได้สูงเป็นอันดับที่ 3 ของจีน

สำหรับเรื่องย่อของภาพยนตร์ ว่าด้วยโปรแกรมเมอร์และนางแบชาวจีน ถูกล่อลวงมาทำงานที่ศูนย์บงการอาชญากรรมแห่งหนึ่ง ไม่ระบุสถานที่ แต่คาดว่าอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ซึ่งในรายงานระบุว่า หากสังเกตจากอุปกรณ์ประกอบฉากจะพบภาษาเขมรหลายฉาก) ทำให้ตัวเอกเผชิญกับการทำงานธุรกิจค้ามนุษย์ ธุรกิจกาสิโน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือธุรกิจอาชญากรรมอื่นๆ รวมถึงมีการปรากฏฉากทำร้ายและทรมานร่างกาย

  นอกจากนี้ คำโปรยบนโปสเตอร์หนังเขียนว่า "More Watching, One Less Deceived" หมายถึง "หนึ่งคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้จะช่วยลดเหยื่อถูกหลอกหนึ่งคน"

หลังภาพยนตร์เข้าฉาย ได้สร้างกระแสความหวาดกลัวต่อชาวจีนในการเดินทางมาเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากกังวลว่าตนจะตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งค้ามนุษย์ หรือคอลเซ็นเตอร์เหมือนในภาพยนตร์   

ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า สื่อสังคมออนไลน์จีนยอดนิยม 'เวยปั๋ว' (Weibo) เผยผลสำรวจเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ ระบุว่า 85 เปอร์เซ็นต์ของชาวจีน 54,000 คนที่ตอบคำถาม บอกว่าจะไม่มาเที่ยวประเทศอาเซียน เพราะวิตกเรื่องความปลอดภัย และกลัวตกเป็นเหยื่อขบวนการอาชญากรรม 

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศแรกที่ออกมาท้วงติงเรื่องการนำเสนอของภาพยนตร์ "No More Bets" เ มื่อ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาได้สั่งห้ามฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในประเทศ และกระทรวงวัฒนธรรมของกัมพูชา ส่งหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐบาลจีนว่า ภาพยนตร์จีนเรื่องดังกล่าวทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของกัมพูชาอย่างมาก 

ขณะที่รัฐบาลประเทศเมียนมา เป็นอีกประเทศที่ออกมาร้องเรียนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ทำลายภาพลักษณ์ของพม่า เพราะแม้ว่าภาพยนตร์ไม่ได้เจาะจงสถานที่ว่าเป็นที่ใด แต่ว่าการออกแบบสถานที่ศูนย์บงการอาชญากรรมในเรื่องมีความคล้ายคลึงกับทางตอนเหนือของพม่าอย่างมาก 

 หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ ซึ่งเป็นสื่อทางการของเมียนมา รายงานว่า กงสุลใหญ่ของเมียนมาในเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนโดยยกประเด็นการทำลายภาพลักษณ์ของเมียนมาในภาพยนตร์ที่ถ่ายทำโดยประเทศจีน และเผยแพร่ทั้งในประเทศไปจนถึงทั่วโลก 

"เนื้อหาของภาพยนตร์มีความเกี่ยวข้องกับประ เทศเมียน มา และมีรายงานว่าชาวจีนกังวลถึงการมาเที่ยวที่ประเทศเมียนมา" กงสุลใหญ่เมียนมา เมืองหนานหนิง กล่าว 

กระทบ 'ไท ยฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน' กระตุ้นท่องเที่ยว

 ย้อนไปเมื่อ 25 ก.ย. 2566 เว็บไซต์ ไทยรัฐ ออนไลน์ รายงานว่า รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการ ฟรี VISA นักท่องเที่ยวจากแดนมังกร และคาซัคสถาน โดยทั้งสองประเทศจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว และให้อยู่ในประเทศไทยได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-กุมภาพันธ์ 2567 เป็นระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซันการท่องเที่ยวของไทย อีกทั้งยังรวมถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นปี 2567 เพื่อดึงนักท่องเที่ยวชาวจีนให้มาท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น

ตลาดนักท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566-17 กันยายน 2566 มีจำนวนสะสม 1,853,430 คน โดยนักท่องเที่ยวมีวันพักเฉลี่ย 4-10 วัน และค่าใช้จ่ายต่อทริปประมาณ 30,000-100,000 บาทต่อคน โดยเป็นเป้าหมายสำคัญจากนโยบายของประเทศไทย ที่คาดว่ามาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้เพิ่มขึ้น และเข้าสู่เป้าหมายรายได้ 2566 

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่า มาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนของรัฐบาล จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 500,000-700,000 คน โดยจำนวนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนี้ จะทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวไทยปี 2566 รวมกว่า 4.2 ล้านคน ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ส่วนรายได้เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนนี้ จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูการท่องเที่ยว และภาคเศรษฐกิจของประเทศได้จำนวนมาก "การฟรีวีซ่าถึงมีนัยสำคัญหลายๆ อย่างต่อประเทศไทย"

สื่อไทยรัฐ ออนไลน์ รายงานโดยอ้างอิงจาก South China Morning Post สื่อสัญชาติฮ่องกงว่า นอกจากปัญหาเรื่องการละชอตัวทางเศรษฐกิจ ปัญหาทางการเมืองในประเทศไทย และอื่นๆ หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้คนจีนมาเที่ยวไทยน้อยลง เป็นผลมาจากภาพยนตร์แนวอาชญากรรม และแก๊งหลอกลวงคนจีนไปทำงานอาชญากรรมซึ่งเข้าโรงประเทศจีนช่วงที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนกังวลด้านความปลอดภัยมากขึ้น และไม่ต้องการเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย เพราะกลัวตกเป็นเหยื่อ 

เรื่องนี้อาจส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในไทยอย่างมาก เพราะว่าช่วงก่อนโควิด-19 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน แต่การมาของภาพยนตร์เรื่อง No More Bets กำลังทำให้รัฐบาลไทยกังวลว่า หนังเรื่องนี้อาจทำให้ยอดนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยไม่ได้ตามยอดที่วางไว้ที่ 5 ล้านคน และอาจทำให้เศรษฐกิจไทยต้องสะดุดลง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net