6 ก.ย. 2549 - สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประเทศแคนาดาระบุว่าขณะนี้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ เอดส์ราว 150 คนที่เป็นตัวแทนจากประเทศต่างๆ เพื่อเข้าร่วมประชุมในงานเอดส์โลก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-18 ส.ค. 2549 ได้ยื่นคำร้องขออพยพมาอยู่ที่แคนาดา หลังจากที่งานประชุมสิ้นสุดลง

ผู้ยื่นคำร้องส่วนใหญ่มาจากประเทศที่มีอัตราผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ เอดส์ สูงมาก อาทิ เอริเทรีย เอลซัลวาดอร์ แอฟริกาใต้ ยูกันดา และซิมบับเว โดยผู้ติดเชื้อออกความเห็นว่าการได้เข้าร่วมการประชุมในแคนาดาเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้รู้สึกถึงอิสรภาพ และผู้คนที่แคนาดาก็เป็นมิตร

ในขณะที่นักกิจกรรมชาวเอริเทรียคนหนึ่งซึ่งทำงานช่วยเหลือผู้ติดเชื้อกว่า 6,000 คนกล่าวว่าได้ออกนอกประเทศภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดว่าพาสปอร์ตเป็นโมฆะ ซึ่งหากไม่กลับเข้าประเทศภายในเวลา 10 วัน และไม่อาจกลับเข้าประเทศได้อีก หรือกรณีที่กลับไปก็จะถูกตัดสินจำคุกฐานละเมิดข้อกำหนดเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศ

ทางด้านโฆษกประจำสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแคนาดากล่าวเพิ่มเติมว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของผู้ที่ยื่นคำร้องขออพยพมาแคนาดาเด็ดขาด เนื่องจากถือเป็นการละเมิดสิทธิ แต่รัฐสามารถระบุได้ว่าผู้ยื่นคำร้อง 150 ราย จากผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งหมด 24,000 รายภายในเดือนสิงหาคม เป็นตัวแทนผู้ติดเชื้อเอชไอวี/ เอดส์ที่มาร่วมงานประชุมเอดส์โลกทั้งสิ้น

นอกจากนี้ ฟรานซิสโก ริโก-มาร์ติเนซ ผู้ประสานงานศูนย์ผู้อพยพประจำโตรอนโต แคนาดา ได้ระบุอีกว่าตัวแทนผู้ติดเชื้อที่เข้าร่วมการประชุมวันเอดส์โลกที่ผ่านพ้นมา ส่วนใหญ่ถูกกีดกันและมักจะถูกโดดเดี่ยวจากสังคมภายในประเทศของตน เช่นเดียวกับที่ถูกดูหมิ่นหรือถูกเลือกปฏิบัติจากแพทย์บางส่วน และไม่อาจเข้าถึงยาต้านไวรัสที่จะมาบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้

อย่างไรก็ตาม โจน แอนเดอร์สัน หนึ่งในที่ปรึกษางานประชุมเอดส์โลกอธิบายเหตุผลว่า ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในแถบอเมริกาเหนือ ทำให้ความเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุมัติให้อยู่ในแคนาดามีเพียงร้อยละ 48 เท่านั้น และอาจต้องใช้เวลานานถึงหนึ่งปีกว่าที่จะได้รับคำตอบ