ทั้งนี้ ทางรัฐบาลได้ตั้งข้อสังเกตว่า ทหารพม่ากำลังกระทำการเพื่อให้เกิดการต่อต้าน ILO อยู่ โดยการปฎิเสธที่จะพิสูจน์หาข้อเท็จจริงกรณีที่มีการขู่เอาชีวิตเจ้าหน้า ILO ที่ประจำอยู่สำนักงานประสานงานในพม่า และตัดสินลงโทษจำคุกสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ไปฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในกรณีบังคับใช้แรงงาน

การกระทำดังกล่าวนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า "รัฐบาลพม่าไม่เต็มใจที่จะร่วมมือกับชุมชนนานาชาติ" ฌอน แมคคอร์แม็ค โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว

ILO กล่าวว่า รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานพม่าได้บอกกับ ILO เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลพม่าได้ตัดสินใจแล้วที่จะให้ถอนตัวออกจากองค์การแรงงานระหว่างประเทศ แต่ว่ารัฐบาลยังไม่ได้แจ้งมายัง ILO อย่างเป็นทางการ

"เราของชมเชย ILO สำหรับความพยายามที่จะเข้าไปขจัดการบังคับใช้แรงงานในพม่า และขอประณามรัฐบาลพม่าที่ยังคงมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐานอยู่" แมคคอร์แม็คกล่าว

รัฐบาลทหารพม่านั้นเป็นประเทศที่ถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชนและบรรดาประเทศตะวันตกกล่าวหาว่า มีการละเมิดในรูปแบบต่างๆ ทั้งเรื่องของการบังคับใช้แรงงาน การทรมาน วิสามัญฆาตกรรม และการบังคับย้ายถิ่นพลเรือนเป็นจำนวนมาก

ทาง ILO ได้ออกมาเตือนว่าการเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตามเพื่อการถอนตัวออกจาก ILO นั้นจะส่งผลกระทบอย่างมากและเสียหายร้ายแรงต่อมพม่า แต่ว่าได้บอกกับรัฐมนตรีไปเพียงว่า "ก็สุดแล้วแต่ย่างกุ้งก็แล้วกัน"

ถึงแม้ว่าพม่าเองมีกฎหมายห้ามบังคับใช้แรง ทว่า ILO เคยกล่าวในเดือนพฤษภาคมว่า ข้อห้ามนั้นไม่เคยถูกนำมาบังคับใช้เลย และการความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยนั้นก็มาถึงจุดยุติการใช้งาน

รัฐบาลทหารพม่าบอกกับ ILO เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า การสร้างกลไกที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเหยื่อการถูกบังคับใช้แรงงานขึ้นมานั้น เป็นเรื่อง "ยอมรับไม่ได้ในหลักการของฝ่ายบริหารของพม่า เนื่องจากว่าเป็นการรุกล้ำอำนาจอธิปไตยของพม่า"

ILO ยังคงได้รับอนุญาตให้ตั้งสำนักงานประสานงานอยู่ในย่างกุ้งต่อไปแต่ว่าทางรัฐบาลจำกัดการกระทำกิจกรรมลงไปอย่างมาก ในเดือนสิงหาคมและกันยายน สำนักงาน ILO แจ้งว่า ถูกขู่เอาชีวิตถึง 21 ครั้ง โดยเตือนว่าอย่าไปยุ่ง กับ "เรื่องภายใน"

-------------------------------------------------------

ที่มา : http://feeds.bignewsnetwork.com/redir.php?jid=9045eae49857077d&cat=303b19022816233b