Skip to main content
sharethis

7+1 คือ โฉมหน้าของการพลิกแหล่งท่องเที่ยวเชิงดอยสุเทพครั้งสำคัญ ให้เป็นโซนการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ 7 แหล่งท่องเที่ยวที่จะทั้งสร้างและปรับปรุง โดยเชื่อมโยงกันด้วยอีก 1 คือ "กระเช้าไฟฟ้า" ตามแผนงานนี้มีอะไร ? ได้มีการขายฝันหรือโยนหินถามทางไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่ต้องขอใช้คำว่า "ขายฝัน" หรือ "โยนหินถามทาง" มิได้ปรามาสว่า แผนงานทั้งหมดนี้จะไม่สามารถทำได้ ตรงกันข้าม เชื่อเหลือเกินว่าหัวหอกโครงการต้องผลักดันทำให้เกิดขึ้นให้ได้แน่ เพียงแต่เห็นว่า การนำเสนอในวันนั้นคือภาพที่ฉายซ้ำกับเหตุการณ์เริ่มต้น ณ วันที่จะให้มีโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเกิดขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อนที่มีการเสนอในหลายสิ่งที่คาดไม่ถึง เช่นข้อเสนอการสร้างลานสกีน้ำแข็ง การรื้อย้ายสวนสัตว์เชียงใหม่จากพื้นที่เดิมมาไว้รวมกับไนท์ซาฟารี ซึ่งครั้งนั้นหมายรวมถึงส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าด้วย เพื่อที่จะได้ทำพื้นที่โซนเชิงดอย รวมทั้งสวนรุกขชาติให้เป็นปอดแห่งใหม่ของชาวเชียงใหม่

ซึ่งในวันนี้แผนงานที่กล่าวไว้ ได้เห็นแล้วว่า มีอีกหลายเงื่อนไขที่ทำให้ไม่เป็นดังว่า อย่างไรก็ตาม จำเป็นที่จะต้องบันทึกไว้ว่า เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2548 มีการเสนอแผนงานใหม่ของการพลิกพื้นที่เชิงดอยสุเทพแห่งนี้ให้เป็นแหล่งดึงดูดการท่องเที่ยวอีกครั้ง เนื่องจากการนำเสนอแผนงานในวันนั้น ไม่มีเอกสารประกอบให้กับผู้เข้ารับฟัง เป็นเพียงกรอบกว้างๆ ที่นำเสนอผ่านเพาเวอร์พอยท์เท่านั้น
"พลเมืองเหนือ"จึงขอได้นำเสนอรายละเอียดแนวคิดของนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้อ่านได้พิจารณา

"สิ่งที่จะเกิดขึ้นใน " Chiangmai Nature Center" พื้นที่ 6,000 ไร่แห่งนี้ประกอบด้วย 1. เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ในพื้นที่ราว 900 ไร่ ซึ่งจะเปิดลอยกระทงนี้ 2. อุทยานช้าง ซึ่งอีก 12 เดือนจะแล้วเสร็จ...เราจะทำถนนเล็กๆ เชื่อม เราจะมีรั้วล้อมรอบ เป็นรั้วไฟฟ้าเราจะเอาสัตว์ต่างๆ ในประเทศไทยใส่ลงไป

ขณะนี้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ของกรมอุทยานและกรมป่าไม้เต็มไปด้วยสัตว์ที่เขาไม่เลี้ยง สัตว์ป่วย สัตว์ทิ้งหลายพันตัว ต่อไปนี้จะไม่มี จะมามีที่นี่แห่งเดียว ปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติ คนจะมาเที่ยวในโหมดปกติ ก็นั่งรถไป เราจะจัดรถให้ จะมีสวนนก ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ความยาว 500 เมตร จะมีนกนานาชนิด รถจะเป็นกรงเพื่อปกป้องคนที่จะนั่งอยู่บนรถ เมื่อเข้าไปในสวนนก รถจะเริ่มฉีดอาหารออกไปจากตัวรถ นกจะวิ่งเข้ามาหาอาหาร จากนั้นจะผ่านไปที่พื้นที่เสือ 1-200 ตัว รถก็จะให้อาหารเสือเช่นกัน

จากนั้นรถจะไปเจอบ่อจระเข้ขนาดใหญ่มาก น้ำจะท่วมรถระดับรองเท้า เช่นเดียวกันจะมีการให้อาหารหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้จระเข้มาอยู่ใกล้เรา เป็นวิธีที่จะทำให้คนกับสัตว์ใกล้กัน เพื่อได้เห็นพฤติกรรมของสัตว์

นอกจากนั้นจะมีสัตว์อื่นทั่วไปเช่น กระทิง ควายป่า หมี ...มันจะมีถ้ำเล็กๆ อยู่แถวนั้น เราจะไปปรับปรุงให้เป็นธรรมชาติ จะมีบ้านบนต้นไม้ที่เรียกว่า Tree top จะขึ้นไปนอนอยู่บนนั้นได้กลางคืนส่องกล้องมาดูสัตว์ที่จะมากินน้ำ มากินดินโป่ง สำคัญที่สุดจะมีหมู่บ้านช้างลักษณะหมู่บ้านกะเหรี่ยง เพื่อให้คนเข้าใจวัฒนธรรม ว่าคนกับช้างอยู่ด้วยกันได้อย่างไร จะพยายามทำให้เหมือนจริงทุกประการ แห่งแรกในโลก กลางคืนอยู่ที่ไนท์ซาฟารี กลางวันอยู่ที่อุทยานช้าง และจะมีการก่อสร้างโรงละคร ขุดหลุมลงไป ใช้หินมาเรียง มีการแสดงตั้งแต่มดยันช้าง เราจะซูมให้ดูมด ดูด้วง
จะเอาละครลิงมาให้ดู ไม่ต้องห่วงว่าจะย่ำยีศักดิ์ศรีลิง แต่ถ้าต้องการขายการท่องเที่ยว จะมีจุดขายอะไรที่โดดเด่น

3. การเป็นเจ้าภาพมหกรรมพืชสวนโลก เดือนพฤศจิกายน 2549 ก็จะเปิด มีความเป็นไปได้มากที่ผมอาจได้เข้ามาเพื่อดำเนินการสนับสนุนวิชาการและการท่องเที่ยว ที่แห่งนี้จะสวยตลอดปี สวยตลอดชาติ สวยทุกวันไม่มีวันเหี่ยว คนจะได้มาดูพืชสวนเมืองร้อนว่ามันเป็นอย่างไร

4. เราจะมีสปา ที่คิดบนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เพราะวันนี้เรารู้ว่าสปาเป็นกระบวยการรักษาโรค เราจะนำศาสตร์ 4 อย่างมาดำเนินการคือ 1. น้ำแร่ ที่นี่เราขุดเจาะพบแล้ว เราจะเจาะหลายจุดให้มีแร่เท่าที่โลกนี้จะมี จะมีท่อที่แตกต่างกันไป ในแร่แต่ละอย่าง ทางการแพทย์จะสามารถแก้โรคได้แตกต่างกัน 2. ความร้อนของน้ำที่แตกต่างกันจะแก้โรคได้ต่างกัน 3. เราจะนำสมุนไพรเข้ามา
ทั้งกินและทั้งทา อาจจะนำมาจากที่ปลูกที่พืชสวนโลกหรือรับซื้อมาจากที่อื่น แก้โรคได้แตกต่างกัน 4. เราจะมีการนวดแบบไทย แบบแขก และแบบรูมาเนีย

ทั้ง 4 อย่างนี้ เราอาจรักษาโรคได้ทุกอย่างในโลกนี้ก็ได้ และต่อไปถ้าจะต้องต่อท่อน้ำแร่ น้ำพุมาจากอำเภอฝางหรือห้วยน้ำดัง หากนักท่องเที่ยวต้องการก็ต้องทำ ที่นี้จะเป็นศูนย์กลางทางด้านการแพทย์ กึ่งโบราณ กึ่งวิทยาศาสตร์ เป็นไฮไลท์อีกอย่างหนึ่ง

5. เราจะมี THEAME PARK ไม่ได้หมายความว่าจะต้องล้งเล้ง แต่เป็นอะไรที่อยู่บนพื้นฐานที่เป็นภูเขาและวัฒนธรรม ไม่ใหญ่โต เด็กมาเข้าใจวิทยาศาสตร์และธรรมชาติ โดยจะไม่ไปไกล เราจะไม่ลงทุนสูง ไม่ใช้เทคโนโลยีสูงมิเช่นนั้นจะต้องลงทุนต่อเนื่องไม่ไหว จะเป็นธีมปาร์คที่มีดอกไม้ เพราะคนไทยชอบถ่ายรูปกับดอกไม้ ซึ่งจะทำหลังพืชสวนโลกเสร็จ (ในที่ประชุมให้รายละเอียดเพียงเท่านี้
ผู้สื่อข่าวสอบถามนายปลอดประสพภายหลัง ได้รับคำอธิบายเพิ่มเติมว่ากำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักคิดคล้ายสวนสนุก)

6. สวนสัตว์เชียงใหม่ต้องปรับปรุงใหม่ให้ดีกว่านี้ ไม่ใช่มีอะไรก็ใส่เข้าไป ที่แน่ๆ ตอนนี้มีแพนด้า และกำลังจะมีอความเรียมน้ำจืด 7. ลานครูบาศรีวิชัยเชิงดอยสุเทพ ด้วยเห็นว่าคนเชียงใหม่เป็นคนเคร่งครัดกับขนบธรรมเนียมและศาสนา มีดอยสุเทพเป็นหลัก ผู้สร้างถนนทางขึ้นคือครูบาศรีวิชัย
ท่านได้ยืนอยู่ตรงเชิงดอยนั้น ถ้าให้ผมติ บอกตรงๆ ว่าไม่สวย ไม่มีความเป็นสง่าราศี ไหนๆ สถานีรถไฟรางเดี่ยวก็มาอยู่ตรงนี้แล้ว ยอมควักอีก 150 ล้าน ถนนที่ลงมาตัดทะลุลงที่ของกรมปศุสัตว์
รื้อใหม่สร้างใหม่ให้ครูบายืนเป็นสง่าราศีองค์เดียว ด้านหลังที่เลยไปถึงน้ำตกห้วยแก้วรื้อให้หมดเพื่อจะเป็นพลาซ่าขนาดใหญ่ 50 ไร่ เป็นที่คนจะมามาตักบาตรได้ ที่นี่จะเป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้าที่ให้คนมากราบพระ แต่ต้องเปลี่ยนแนวถนน เพราะถ้าไม่เปลี่ยนแนวถนนจะขยายลานพลาซ่าไม่ได้และจะช่วยให้ไม่เกิดอุบัติเหตุ กรมปสุสัตว์ก็ให้พื้นที่แล้ว ที่นี่ก็จะเป็นสถานีที่เชื่อมกับสถานีของรถโมโนเรล หรือรถไฟรางเดี่ยว ที่มีโครงการไว้แล้ว เพียงแต่จะต้องปรับเส้นให้มาเชื่อมโยงกันและต่อเนื่องกับจุดสำคัญตามเส้นทาง

8. กระเช้าไฟฟ้า ที่จะสร้างขึ้นใหม่เพื่อเชื่อมโยง 7 จุดนี้เข้าด้วยกันวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เนื่องจากทุกอย่างมีอยู่แล้วทั้ง 7 จุด รัฐบาลลงทุนไปร่วม 7,000 ล้านบาท ถ้าเราแต่ละที่เสียเวลา
มันจะเป็นอะไรที่มาเชื่อมต่อโดยไม่เคยมีในเมืองไทย ไม่ทำลายวัฒนธรรมหรือสิ่งแวดล้อม ใช้เวลานั้นและสนุกสนานเพลิดเพลินเลยนำไปสู่ความคิดของกระเช้าไฟฟ้าหรือเคเบิลคาร์ มี 8 สถานี ตั้งเสาคล้ายเสาไฟฟ้าแรงสูง

เริ่มจากพื้นที่งานมหกรรมพืชสวน-ไนท์ซาฟารี - อุทยานช้าง - น้ำตกห้วยแก้ว-ลานครูบา- สวนสัตว์เชียงใหม่ และจะเชื่อมกับรถไฟรางเดี่ยวชมเมืองด้วย ระยะทางของเคเบิล 15 กิโลเมตร กระเช้าบรรทุกห่างกันราว 500 เมตรเพื่อให้แต่ละกระเช้ามองไม่เห็นกัน ใน 1 กระเช้าอาจมีคน 20-25 คน มีเครื่องปรับอากาศ กำลังอยู่ระหว่างออกแบบอาจใช้เทคโนโลยีร่วมจากออสเตรียแลสวิสเซอร์แลนด์อีก 3 เดือนจะแล้วเสร็จ และอีก 4-5 เดือนก็จะเริ่มสร้างที่นี่จะเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ของเมืองเชียงใหม่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net