ประชาไท-9 มิ.ย. 48 "ปัญหาเกิดขึ้นเพราะการกินรวบทางอำนาจของผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ ทำให้ไม่สามารถจัดสรรผลประโยชน์ให้คนในพรรคได้ทั่วถึง เกิดการทุจริตด้วยกลุ่มคนกลุ่มเดียว โดยไม่ได้เผื่อแผ่ให้กับมุ้งหรือคนกลุ่มอื่น เมื่อบริหารผลประโยชน์ไม่ได้ ความไม่พอใจจึงเกิดขึ้น และผลเสียทั้งหมดตกอยู่ที่ประชาชน โดยส่วนตัวเชื่อว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก เพราะการรวบอำนาจของพรรคการเมืองใหญ่ยังไม่หมดไป" น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานีกล่าว

หลังจากเหตุการณ์ท้าทายอำนาจพรรครัฐบาลของนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยรักไทย ในการประชุมร่วม 2 สภา เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญกรณีสรรหาคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ทำให้หลายฝ่ายออกวิพากษ์ วิจารณ์เรื่องดังกล่าวอย่างมาก

น.พ.นิรันดร์ กล่าวว่า กรณีของนายเสนาะนั้น น่าจะเกิดมาจากความขัดแย้งภายในพรรคการเมืองใหญ่ ที่มีการกินรวบทางอำนาจ ซึ่งมีสาเหตุมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเอื้อให้มีการกินอำนาจกันอย่างเบ็ดเสร็จของผู้นำ จึงถือเป็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ดังนั้นจึงน่าจะมีการแก้ไขเรื่องดังกล่าวใน 2 จุดนี้ คือ แก้ที่ตัวบุคคล โดยทำให้เขาเข้าใจว่าอำนาจที่มีอยู่นั้นไม่ใช่อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และสมควรต้องใช้อำนาจที่มีให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนตน อีกส่วนหนึ่งต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนที่เป็นปัจจัยให้เกิดการรวบอำนาจ

"อย่างเช่น การที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ส.ต้องสังกัดพรรคการเมือง 90 วัน ก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือสัดส่วนของการยื่นไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งหมดนี้ต้องพิจารณากันอีกครั้งว่าควรจะมีการแก้ไขอย่างไร แล้วไม่ให้เกิดการรวบอำนาจขึ้น" ส.ว. อุบลราชธานีกล่าว

สิรินภา อิ่มศิริ