Skip to main content
sharethis

ประชาไท-25 พ.ค.48 "รัฐบาลแสดงการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นหลายๆเรื่อง มีลักษณะคล้ายเผด็จการ ทั้งๆที่เป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนลงคะแนนเสียงให้มากที่สุด แต่ฟังเสียงประชาชนน้อยที่สุด" นายจอน อึ้งภากรณ์ สมาชิกวุฒิสภา กรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังผลการพิจารณาร่าง พระราชบัญญัติทางหลวง วันนี้

ทั้งนี้ สส.เสียงข้างมากกดคะแนนให้ พ.ร.บ.ทางหลวง ผ่านด้วยคะแนน 311 เสียงต่อ 53 เสียง แต่ สส. และ สว. เสียงข้างน้อย ไม่เห็นด้วย ด้วยเหตุผลว่า มาตราที่ 20 ของพ.ร.บ.ฯ ขัดรัฐธรรมนูญ หวั่นปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง พร้อมกันเข้าชื่อ 175 คน เพื่อยื่นหนังสือต่อประธานรัฐสภา ให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาด

โดยรายชื่อผู้ที่คัดค้าน พ.ร.บ. ดังกล่าว มาจาก วุฒิสมาชิก 80 คน สส.พรรคประชาธิปัตย์ 76 คน และ สส. พรรคชาติไทยอีก19 คน ซึ่งมีจำนวนเกิน 70 คน ตามที่ระเบียบสภากำหนดไว้ ทำให้สามารถยื่นรายชื่อดังกล่าวต่อประธานรัฐสภา เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้

นายจอน อึ๊งภากรณ์ สว.กรุงเทพฯ และผู้ร่วมเข้าชื่อคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.ทางหลวง ฉบับนี้ กล่าวว่า จะมีการเปิดแถลงข่าวประเด็นดังกล่าววันพรุ่งนี้ (26 พ.ค.) พร้อมอธิบายต่อว่า จะให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร่างพ.ร.บ.ทางหลวงฉบับนี้ เฉพาะมาตราที่ 20 เท่านั้น เนื่องจากมีเนื้อหา ห้ามการชุมนุมในพื้นที่ทางหลวง เว้นเสียแต่จะได้รับอนุญาตจากกรมทางหลวง หรือเป็นการจัดงานตามประเพณีพิธีกรรม หรืองานเพื่อประโยชน์สาธารณะ

แต่ลักษณะดังกล่าว นายจอนระบุว่า เป็นการจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในที่สาธารณะตามรัฐธรรมนูญมาตรา ที่44 ซึ่งมาตรา ที่ 20 จะห้ามการชุมนุมบนทางสาธารณะทั้งหมดเพราะเป็นพื้นที่ทางหลวง และจะรวมไปถึงฟุตบาท สะพานลอย หรือส่วนอื่นๆด้วย ส่วนกรณีที่ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อำนวยการเขตกรมทางหลวงนั้นเห็นว่ายากที่จะขออนุญาตได้ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ดังนั้นประชาชนจะไม่มีพื้นที่แสดงความเห็นให้รัฐหรือสังคมสนใจ

ในอีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญ นายจอน กล่าวว่า กฎหมายนี้อาจนำมาสู่การเลือกปฏิบัติและเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจในการนำมาใช้จัดการกับผู้ที่ไม่เห็นด้วย หากมีการชุมนุมเพื่อแสดงความเห็นทางการเมืองที่ขัดแย้งกับรัฐ เนื่องกฎหมายมาตรานี้จะมีอำนาจที่ชอบธรรมในการจัดการ แต่หากเป็นการชุมเพื่อต้อนรับหรือให้ดอกไม้นายกรัฐมนตรี อาจไม่เป็นไร

ส่วนการที่ฝ่ายเห็นด้วยในการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้อ้างว่า การชุมนุมอาจเป็นการกีดขวางการจราจรนั้น นายจอน เห็นว่า สามารถนำกฎหมายอื่นที่มีอยู่มาจัดการได้ เช่น พ.ร.บ .ทางหลวง พ.ศ. 2535 มาตราที่ 39 ซึ่งครอบคลุมอยู่แล้ว หากการชุมนุมนั้นมีลักษณะกีดขวาง ปิดกั้น หรือทำให้เกิดความเสียหาย

สุดท้าย นาย จอนมองว่าการผ่านร่าง พ.ร.บ.ทางหลวงดังกล่าวเป็นการตั้งใจที่จะปิดกั้นการแสดงความคิดและความเห็นของประชาชนที่ไม่เห็นด้วย

อย่างไรก็ตาม นายจอน ทิ้งท้ายว่า มีความเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญน่าจะวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ว่าน่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้หมายความว่า พ.ร.บ.ดังกล่าวจะใช้ไม่ได้เนื่องจากมีแค่มาตราที่ 20 เท่านั้นที่ขัด ส่วนมาตราอื่นนั้นสามารถนำมาบังคับใช้ได้ตามมติ และหากขาดมาตราดังกล่าวไป ก็ไม่ได้ทำให้ พ.ร.บ.ดังกล่าวมีปัญหา

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net