ศูนย์ข่าวภาคเหนือ-13 พ.ค.48 คนเชียงรายลุกค้านร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ ชี้เป็นการเอื้อให้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ได้รับผลประโยชน์ ขัดแย้งกฎหมายรัฐธรรมนูญชัดเจน โดย เฉพาะประชาชนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม

ที่ห้องก้าวคำ โรงแรมเชียงแสนริเวอร์ฮิลล์ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ร่วมกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แห่งชาติ วุฒิสภา ได้จัดเวทีสัมมนา "ชำแหละร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ" โดยมีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์พัฒนาเอกชน เครือ ข่ายภาคประชาชน นักวิชาการและประชาชนใน จ.เชียงราย เข้าร่วมการสัมมนาประมาณ 300 คน

หลังจากที่ นักกฎหมาย นักวิชาการ ได้ออกมานำเสนอกรณี ที่มีการร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ และอธิบายชี้แจงให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รู้ถึงผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวม และในมิติด้านสิทธิมนุษยชน ต่อมาในช่วงบ่าย ในเวทีได้เปิดโอกาสให้ประชาชนที่เข้าร่วมได้ออกมาแสดงความคิด
เห็นต่อประเด็นดังกล่าว

นายมิติ ยาประสิทธิ์ ประธานกลุ่มรักษ์เชียงแสนกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมี พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้น ในพื้นที่เชียงราย เนื่องจากเห็นว่า เป็นกฎหมายภาคพิสดารที่ควบคุมอำนาจทุกอย่าง โดยไม่มีการเปิดช่องว่างให้ชาวบ้านเข้าไปมีส่วนร่วมได้เลย

"ชาวบ้านในพื้นที่ไม่รู้ข้อมูลรายละเอียดมาก่อนและเห็นว่า กฎหมายฉบับนี้จะเป็นการเอื้อประ
โยชน์ให้แก่กลุ่มทุนขนาดใหญ่มากกว่าคนในชุมชน อีกทั้งจะทำให้วิถีของชุมชนได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนได้ออกมาแสดงความคิดเห็น ออกมาเรียกร้องกันเยอะๆ เพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการตัดสินใจกับอนาคตของตนเอง" นายมิติ กล่าว

นายสุเทพ ล้อสีทอง ตัวแทนชาวบ้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงรายกล่าวว่า เมื่อได้รับฟังข้อมูลจากนักกฎหมาย นักวิชาการ วุฒิสมาชิกและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้วเห็นว่า สมควรให้มีการทำแท้ง ร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับกฎหมายรัฐธรรมนูญหลายสิบมาตรา โดยเฉพาะการขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน

ทางด้านนายประเสริฐ อำไพพร รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอแม่สายกล่าวว่า รัฐบาลมีความกล้ามาก ที่มีการร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษขึ้นมา โดยใช้อำนาจเบ็ดเสร็จในเขตพื้นที่นั้นๆ เปรียบเสมือนเอาถ้วยแก้วเข้าไปครอบในพื้นที่ จำกัดควบคุมและทำให้พื้นที่รอบๆ ไม่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้

"เพราะฉะนั้น รัฐบาลจะต้องกล้าออกมาอธิบายให้ได้ และจะต้องยึดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาใช้ โดยใช้รูปแบบการจัดการที่เอื้อต่อคนในชุมชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมด้วย" รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอแม่สาย กล่าว

ในขณะที่ นายนิกร เหล่าวานิช ประธานชมรมรักเชียงแสน ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า ประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งองค์กรต่างๆ จะต้องลุกขึ้นมาพูดคุยกันว่า ทำอย่างไร ถึงจะล้ม ร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ได้ เพราะเห็นว่า เป็นกลุ่มธุรกิจซ่อนเร้น และปล่อยให้พี่น้องชาวบ้านเป็นตัวละคร เป็นตัวตลก ให้เล่นไปอย่างนั้นอย่างนี้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ นางธัญญรัชต์ สัมพันธวงศ์ มูลนิธิพัฒนาสตรีภาคเหนือ และวาย.เอ็ม.ซี.เอ เชียงราย กล่าวว่า อยากให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล มาจับมือร่วมกันเปิดเวทีเพื่อหาหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำเสนอประเด็นปัญหาเสนอให้รัฐบาลได้รับรู้ ซึ่งจะทำให้มีความชัดเจน และเชื่อว่ารัฐบาลจะรับฟังเสียงของประชาชน

องอาจ เดชา