Skip to main content
sharethis

"มันจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม" เสียงจาก 'ซากิ คุมากาอิ' นักฟุตบอลหญิงผู้ผ่านประสบการณ์ฟุตบอลโลกหญิงมาถึง 4 สมัย และเป็นแชมป์โลกเมื่อปี 2011 หลังสภาพแวดล้อมในการแข่งขันฟุตบอลหญิงดีขึ้น ซึ่งได้มาผ่านการเรียกร้อง

สหพันธ์นักฟุตบอลนานาชาติ (FIFPRO) นำเสนอเรื่องเล่าประสบการณ์จากอดีตนักฟุตบอลเพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้คนทั้งในและนอกวงการฟุตบอล

ในตอนนี้ นำเสนอเรื่องราวของ 'ซากิ คุมากาอิ' (Saki Kumagai) กองหลังหญิงทีมชาติญี่ปุ่น ผู้ผ่านประสบการณ์ฟุตบอลโลกหญิงมาถึง 4 สมัย และเป็นแชมป์โลกปี 2011


'ซากิ คุมากาอิ' (Saki Kumagai)  อดีตนักฟุตบอลหญิงญี่ปุ่นชุดแชมป์โลกปี 2011 | ที่มาภาพ: FIFPRO

ในปี 2011 เมื่อทีมชาติญี่ปุ่นชนะฟุตบอลโลกหญิง เราได้รับโบนัส 10,000 เยน ต่อคนสำหรับทุกเกมที่ชนะ

10,000 เยน ในปี 2011 ก็ประมาณ 88 ยูโร (ประมาณ 2,400 บาท) ตอนนั้นความคิดที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพดูเหมือนฝันที่ไกลโพ้น ฉันยังเป็นนักศึกษา พวกเราในทีมชาติส่วนใหญ่ทำงานในตอนกลางวันแล้วก็ฝึกซ้อมตอนกลางคืน หรือไม่ก็เหมือนฉันที่ยังคงเรียนอยู่

ในตอนนั้น เราเหมือนทีมสมัครเล่น ไม่มีอะไรต่างกันมากนัก

แท้จริงแล้ว ในฐานะนักฟุตบอล พวกเราขาดความเข้าใจเกี่ยวกับรายได้ของของพวกเรา แต่มันเกี่ยวโยงกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นของเราบางส่วน คนญี่ปุ่นไม่คุ้นเคยกับการพูดเรื่องเงิน เป็นเรื่องยากที่จะพูดถึง

ไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเงินรางวัลก่อนการแข่งขัน และเราไม่มีสภาพแวดล้อมที่เปิดรับคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ พูดตามตรง เราไม่รู้ว่าเราสามารถพูดมันออกมาได้อย่างไร

ในฐานะเด็กอายุ 20 ปี ฉันตื่นเต้นมากที่ถูกเลือกติดทีมชาติ ทำไมฉันถึงต้องเสี่ยงละ? การติดทีมชาติและปรากฏตัวในการแข่งขันระดับโลก เป็นความฝันตลอดชีวิตของฉัน

ฉันอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติตั้งแต่เด็ก ตอนที่เตะบอลกับพี่ชาย ฉันใช้ชีวิตอยู่กับฟุตบอลทั้งวันทั้งคืน ฉันคิดถึงแต่เรื่องนี้

ตอนเรียนระดับประถมและมัธยมต้น ฉันเขียนในเรียงความจบการศึกษาว่าอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ คุณเดาปฏิกิริยาของครูฉันออกใช่ไหม แม้ว่าในเวลานั้นแทบจะไม่มีนักฟุตบอลหญิงอาชีพในญี่ปุ่นเลย ฉันก็ฝันถึงอาชีพนักฟุตบอลเต็มเวลา

ฉันไม่เคยคาดเดาได้เลยว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่วันนั้น ฉันเป็นคนยิงลูกจุดโทษลูกสุดท้ายให้ญี่ปุ่นชนะเลิศฟุตบอลโลก

ฉันอยากเห็นปฏิกิริยาของตัวเองตอนเด็กจริง ๆ ตอนนี้ฉันยังไม่เชื่อเลย

ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่ถนัดยิงลูกจุดโทษเท่าไหร่ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันจะถูกเลือกให้ยิง แต่เมื่อหมดช่วงต่อเวลาพิเศษในรอบชิงชนะเลิศ เรากลับไปที่ม้านั่งสำรอง ผู้จัดการทีมของเราก็จัดลำดับเรียบร้อยแล้ว ฉันได้ยิงเป็นคนที่ 5 มันทำฉันประหลาดใจมาก

นี่คือเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น และฉันได้รับเลือกให้ยิงจุดโทษสำคัญลำดับที่ 5 ฉันประหม่ามาก

แต่ 'โฮมาเระ ซาวา' (Homare Sawa) กัปตันทีมของเราที่ได้ยิงลำดับที่ 4 บอกว่าเธอไม่อยากยิง เธอเลื่อนแม่เหล็กที่มีชื่อเธอย้ายลงไปด้านล่างของกระดาน ลำดับของพวกเราจึงขยับขึ้นไปหนึ่งตำแหน่ง

จากนั้นฉันได้ยิงจุดโทษเป็นลำดับที่ 4 ภายในปั่นป่วนไปหมด ฉันคิดวนไปวนมาอยู่แต่ว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน"

คุณต้องจำไว้ว่าฉันยังเด็กมาก ฉันไม่อยากทำให้ทีมผิดหวัง

'อายะ มิยาซา' (Aya Miyama) เพื่อนร่วมทีมเห็นว่าฉันกังวล และคนอื่นๆ อีกสองสามคนพูดว่า "การยิงจุดโทษในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นโอกาสเดียวในชีวิต มาสนุกกันเถอะ"

คำพูดเหล่านั้นช่วยฉันได้จริงๆ ฉันแน่ใจว่ามิยาซังและคนอื่นๆ ก็ประหม่าเหมือนฉัน และรู้สึกกดดันเช่นกัน แต่พวกเขาไม่แสดงออกมา ในช่วงเวลานั้น ฉันสามารถเปลี่ยนเกียร์และโฟกัสได้ เมื่อมองย้อนกลับไป นั่นคือสิ่งที่กระตุ้นให้ฉันก้าวขึ้นไปและยิงจุดโทษชี้ขาด

ความยินดีหลังจากนั้นเป็นความรู้สึกที่ฉันจะไม่มีวันลืม เราผ่านอะไรมาเยอะเพื่อจะไปถึงจุดนั้น เราชนะฟุตบอลโลกอย่างเหนือความคาดหมาย ทั้งในสนามและนอกสนาม


ที่มาภาพ: JFA

สภาพแวดล้อมตอนนั้นมีข้อจำกัดอย่างมาก อย่างน้อยที่สุดพวกเราก็ชนะการแข่งขันได้ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดก็ตาม

เราเดินทางด้วยเครื่องบินชั้นประหยัด เราพักห้องคู่ เรามีนักกายภาพบำบัดไม่เพียงพอกับขนาดทีม ส่วนอาหาร ที่พักจัดอาหารอะไรให้ก็กินไป 

ตอนนั้น เรายอมรับสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นมาตรฐาน เราไม่รู้อะไรอื่น ฉันเพิ่งรู้ความสำคัญของการ 'เรียกร้อง' ก็ต่อเมื่อเริ่มออกไปเล่นฟุตบอลยังต่างประเทศ

การเล่นฟุตบอลของฉันมุ่งเน้นที่ทีมเสมอ ฉันรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของตัวเอง ฉันไม่ใช่คนที่สามารถเลี้ยงบอลผ่านคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว หรือยิงประตูได้มากมาย ฉันทำอะไรคนเดียวไม่ได้ สิ่งที่ฉันทำได้คือดึงศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมออกมา

ความสุขจากการทำงานและได้ผลสำเร็จร่วมกัน ดีกว่าการทำเองคนเดียว ฉันให้ความสำคัญกับทีมเพราะนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการคว้าชัยชนะ ฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีม

ดังนั้น เมื่อ 3 ปีก่อน มีแนวคิดเรื่องการรวมตัวกันของนักฟุตบอลหญิงญี่ปุ่นเป็นสหภาพแรงงาน ฉันก็สมัครทันที เราพูดคุยกับพวกเขาว่าอะไรที่เราคิดว่าสามารถปรับปรุงได้ และสหภาพแรงงานก็เป็นตัวแทนของนักฟุตบอลในการประชุมกับสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA)

ฉันเชื่อมั่นว่าเราต้องทำสิ่งต่างๆ ตาม "วิถีญี่ปุ่น" ทั่วโลกมีการถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับการจ่ายค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกันระหว่างหญิงและชาย ในขณะที่เราต้องการได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรม ที่สำคัญกว่านั้น ในฐานะผู้เล่น เราต้องการให้มีเงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้สามารถเล่นได้ดีที่สุด

ขอบคุณที่สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นฟังเสียงและตอบสนองพวกเรา ในการแข่งขันเอเชียนคัพหญิง 2022 และฟุตบอลโลก 2023 เราเดินทางด้วยเครื่องบินชั้นธุรกิจ มีทีมงานที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด ในฐานะคนรักอาหาร เรามีเชฟของเราเอง ในฐานะนักฟุตบอล ร่างกายคือสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าร่างกายไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เราก็ไม่สามารถเล่นได้อย่างเต็มที่ และในเวทีระดับฟุตบอลโลก นั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ในนามของทีม ฉันยังเซ็นชื่อในข้อเรียกร้องของ FIFPRO ถึง FIFA เพื่อขอเงื่อนไขการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง เงินรางวัลที่เท่าเทียมกัน และรับประกันว่าเงินรางวัลจะมอบให้กับผู้เล่นโดยตรง เป็นการยากที่จะดูถูกดูแคลนเงินรางวัลเหล่านั้น จำนวนเงินรางวัลที่เราได้รับจากการเล่น 6 สัปดาห์ในออสเตรเลีย (การแข่งขันเอเชียนคัพหญิง 2022) และนิวซีแลนด์ (ฟุตบอลโลก 2023) นั้นมากกว่าค่าตอบแทนทั้งปีของนักฟุตบอลหญิงหลายคนในญี่ปุ่น

ดังนั้น ความก้าวหน้าจึงเกิดขึ้น ในฐานะที่เคยเล่นฟุตบอลโลกมา 4 ครั้ง สภาพแวดล้อมในปี 2023 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนๆ นั้นเหลือเชื่อมาก ฉันสามารถโฟกัสไปที่ฟุตบอลได้อย่างเต็มที่ เมื่อมองไปที่สิ่งที่เรามีในตอนนี้ เราได้รับสิทธิพิเศษและการดูแลมากกว่าในปี 2011 มาก

แต่สิ่งนี้ไม่หยุดอยู่แค่นี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เราต้องแน่ใจว่านี่คือบรรทัดฐาน เราต้องเรียกร้องต่อไป ฉันภูมิใจมากที่เห็นเด็ก ๆ จำนวนมากที่กล้าแสดงความเห็น สิ่งที่เราขออาจไม่ได้ส่งผลดีต่อเราทันที แต่แน่นอนว่ามันจะช่วยนักฟุตบอลหญิงรุ่นต่อไป

ในอีก 10 ปีข้างหน้า ฟุตบอลจะเป็นกีฬาที่เราแทบจำไม่ได้ และเราจะเห็นเด็กผู้หญิงจำนวนมากใฝ่ฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลหญิง


ที่มา:
Saki Kumagai: "There’s no going back" (FIFPRO, 6 December 2023)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net