สำนักงานประกันสังคม รายงานผลเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมปี 2566 อย่างไม่เป็นทางการ ทีมประกันสังคมก้าวหน้า คว้า 6 ที่นั่ง เครือข่ายพนักงานราชการไทยส่งคนเดียว คว้าเก้าอี้สุดท้าย พร้อมเช็กนโยบายทั้ง 2 ทีม เตรียมเสนอ รมว.แรงงาน เพื่อตั้ง คกก.ต่อไป
25 ธ.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน - Social Security Office ได้รายงานวันนี้ (25 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.45 น. ระบุว่า ผลเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ฝั่งผู้ประกันตน และฝั่งนายจ้าง ชุดใหม่ ปี 2566 อย่างไม่เป็นทางการ โดยผู้ที่ได้รับคะแนนมากสุด 7 อันดับแรก ได้แก่
ฝั่งผู้ประกันตน
- รศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี อาจารย์วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 71,917 คะแนน
- นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน ประธานกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง 69,403 คะแนน
- นายศิววงศ์ สุขทวี เครือข่ายด้านประชากรข้ามชาติ 69,264 คะแนน
- นายชลิต รัษฐปานะ สหภาพคนทำงาน 69,256 คะแนน
- นางสาวนลัทพร ไกรฤกษ์ นักรณรงค์สิทธิผู้พิการ 68,133 คะแนน
- นางลักษมี สุวรรณภักดี สหภาพ มอลลิเก้ เฮลท์ แคร์ 67,113 คะแนน
- นายปรารถนา โพธิ์ดี เครือข่ายพนักงานราชการไทย 15,080 คะแนน
ผู้แทนนายจ้าง
- ดร.มนตรี ฐิรโฆไท บริษัท กะรัต เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) 409 คะแนน
- นางวิภาพรรณ มาประเสริฐ บจก. รักษาความปลอดภัย ดูอิ้งเวล แอนด์ ฟาซิลิตี้ เซอวิสเซส 403 คะแนน
- นางสิริวัน ร่มฉัตรทอง บจก.อีคอท ดีเวลลอปเม้นท์ เซ็นเตอร์ 368 คะแนน
- นายสมพงศ์ นครศรี บจก.สายไฟฟ้าบางกอกเคเบิ้ล 319 คะแนน
- นายสุวิทย์ ศรีเพียร บจก.ไทยจิระพัฒน์ 315 คะแนน
- นายทวีเกียรติ รองสวัสดิ์ บจก.นำคนต่างด้าวมาทำงานในประเทศไทยอินเตอร์ซิตี้ 258 คะแนน
- นางสาวเพชรรัตน์ เอกแสงกุล บมจ.อีซึ่น แอนด์ โค 252 คะแนน
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้แถลงตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งประกันสังคมโดยฝั่งนายจ้างมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งกว่า 1,460 คน หรือ 46.8 เปอร์เซ็นต์ และมีผู้ประกันตน มาตรา 33 39 และ 40 รวมจำนวน 156,870 ราย หรือคิดเป็น 18.36 เปอร์เซ็นต์ จากผู้ลงทะเบียน และผ่านคุณสมบัติใช้สิทธิเลือกตั้ง 854,414 แสนคน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับสัดส่วนผู้ประกันตนที่อยู่ระบบประกันสังคมกว่า 20 ล้านคน
สำหรับขั้นตอนต่อจากนี้ บุญสงค์
ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ระบุว่า คณะกรรมการดำเนินการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดและกรุงเทพมหานคร (กดต.) จะรายงานผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการมายังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และคณะกรรมการเลือกตั้งจะได้ประชุมเพื่อประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยสำนักงานประกันสังคมจะได้เสนอชื่อผู้ได้รับเลือกตั้งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการประกันสังคมฝ่ายนายจ้างและฝ่ายผู้ประกันตนต่อไปข่าวที่เกี่ยวข้อง
นโยบายของทีมประกันสังคมก้าวหน้า-เครือข่ายพนักงานราชการไทย
ในช่วงการแถลงข่าวขอบคุณของทีมประกันสังคมก่าวหน้า นำโดย รศ.ดร. ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งหมายเลข 27 ได้ยืนยันว่าถ้าได้เข้าไปเป็นบอร์ดประกันสังคมแล้ว จะทำนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ ซึ่งมีทั้งหมด 14 นโยบาย ประกอบด้วย
- เพิ่มค่าคลอดบุตร 20,000 บาทต่อครั้ง และเพิ่มสิทธิลาคลอดรวม 180 วัน
- เพิ่มเงินสงเคราะห์เด็ก 0-6 ปี เป็น 1,000 บาทต่อเดือน
- เพิ่มเงินดูแลเด็กอายุ 7-12 ปี เป็น 7,200 บาทต่อปี
- ชดเชยการลาเพื่อดูแลคนในครอบครัว วันละ 300 บาท
- เพิ่มประกันว่างงาน สูงสุด 9 เดือน
- สูตรคำนวณบำนาญใหม่ เพื่อบำนาญที่เป็นธรรม
- สินเชื่อที่อยู่อาศัย เพิ่มวงเงินเป็น 5 ล้านบาท ดอกเบี้ย 1.99 เปอร์เซ็นต์
- ขยายสิทธิคนพิการ ไม่ตัดสิทธิการเข้าร่วมสวัสดิการอื่นๆ รักษาพยาบาลได้ทุกที่
- ประกันสังคมถ้วนหน้าพื้นฐานสำหรับแรงงานอิสระทั้งระบบ วางระบบระยะยาว 2 ปี
- พัฒนาบัญชียาเดียวกัน ไม่น้อยกว่าราชการและบัตรทอง ไม่ต้องสำรองจ่ายทุกกรณี
- สิทธิทันตกรรม รักษารากฟันเทียม เชื่อมโยงกับ สปสช. เหมาจ่าย 17,500 บาท ตลอดการรักษา
- ปรับเงื่อนไขการรับบำนาญ บำเหน็จ แรงงานข้ามชาติให้เข้ากับสภาพการทำงาน
- วางเงื่อนไขการลงทุน และบริษัทคู่สัญญา มีธรรมาภิบาล การลงทุนขนาดใหญ่ต้องตรวจสอบได้ยึดโยงกับผู้ประกันตน
- มุ่งหน้าสู่การเป็นองค์กรอิสระ ตรวจสอบได้ โดยมีส่วนร่วมทุกระดับ
นโยบายเครือข่ายพนักงานราชการไทย มีทั้งหมด 9 นโยบาย ประกอบด้วย
- ผู้ประกันตน สามารถเลือกรับเงินสะสมชราภาพได้ เลือกรับบำนาญชราภาพ หรือเงินบำเหน็จชราภาพ (รับเงินเพียงครั้งเดียว)
- ผู้ประกันตนสามารถรับเงินสะสมคืนโดยไม่ต้องรอให้ถึงอายุ 55 ปี กรณีส่งเงินสมทบติดต่อกันเกิน 3 ปี
- ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาได้ ทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน โดยไม่ต้องเลือกโรงพยาบาล
- ผู้ประกันตน สามารถใช้สิทธิประโยชน์ กรณีทันตกรรม รวมปีละ 2,000 บาท และสามารถสะสมได้ หากไม่ได้ใช้ในปีนั้น แต่สะสมได้ไม่เกิน 5,000 บาท
- เพิ่มเบี้ยบำนาญชราภาพไม่น้อยกว่า 10,000 บาท
- ส่งเงินสมทบตามความสมัครใจ (จัดให้มีเรทส่งสมทบ 3 ระดับ ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเรทได้ โดยไม่ต้องบังคับตามเงินเดือนของผู้ประกันตน สะดวกเท่าไรจ่ายในเรทนั้น)
- ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิประกันตนได้ต่อเนื่อง หลังจากได้รับเงินสะสมชราภาพแล้ว (กรณีส่งสมทบมาเกิน 300 งวด ให้มีรับสิทธิรักษาพยาบาลตลอดชีวิต แต่ผู้ประกันตนต้องได้รับบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน)
- เร่งรัดหนี้ที่รัฐบาลค้างจ่ายสมทบ
- จัดให้มีการลิงก์ระบบข้อมูลระหว่างระบบประกันสังคม และระบบทะเบียนราษฎร์ ในแจ้งเรื่องบุคคลผู้เสียชีวิตให้ สปส. เพื่อให้ สปส. แจ้งญาติของผู้เสียชีวิตให้มารับเงินสะสมบำนาญชราภาพคืน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)