'ภูมิใจไทย' ยันถ้ายังมี 'ก้าวไกล' อยู่เราเข้าร่วมไม่ได้ 'พลังประชารัฐ' ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่ยังมุ่งแก้ไข ม.112 'รวมไทยสร้างชาติ' ย้ำไม่ร่วมเป็นรัฐบาล-ไม่โหวตหนุนชื่อนายกฯ หากมาจากการร่วมจัดตั้งกับ 'ก้าวไกล' ขณะที่ 'ประชาธิปัตย์' ไม่ปฏิเสธ 'ก้าวไกล' แต่รับไม่ได้ถ้ายังแก้ ม.112

21 ก.ค.2566 ภายหลังจากพรรคก้าวไกลแถลงเปิดทางให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย ต่อมาพรรคเพื่อไทยออกแถลง 4 ข้อ ขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ส่งมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น

ปฏิกิริยาจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติและพรรคประชาธิปัตย์ มีดังนี้

'ภูมิใจไทย' ยันถ้ายังมี 'ก้าวไกล' อยู่เราเข้าร่วมไม่ได้

อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทย จึงไม่ทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางอย่างไร ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยมีจุดยืนที่ได้แถลงการณ์และพูดหลายครั้งแล้วว่าเราจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112  

“พูดให้ชัดเจน ก็คือ พรรคก้าวไกล พรรคเดียวที่มีนโยบายเรื่องนี้ และไม่มีท่าทีที่จะลดระดับ มีแต่จะเพิ่มความแข็งกร้าวขึ้น ทั้งแกนนำพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล มีการผลักดันที่จะให้แก้ไขมาตรา 112 อย่างแข็งกร้าว ไม่รับฟังเสียงทักท้วง คำร้องขอของใครทั้งนั้น ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าประเด็นนี้จะทำให้เกิดความขัดแย้งของคนในชาติ” อนุทิน กล่าว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถ้าเราได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทยให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลอยู่เราเข้าร่วมไม่ได้

'พลังประชารัฐ' ไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคที่ยังมุ่งแก้ไข ม.112

ไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐเปิดเผยในนามของพรรคพลังประชารัฐถึงจุดยืนต่อความเคลื่อนไหวในการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการทาบทามพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วม พรรคจึงขอแสดงจุดยืนที่จะไม่เข้าร่วมสนับสนุนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 และไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย หากพรรคร่วมรัฐบาลยังมีพรรคที่มีนโยบายมุ่งแก้ไข ม.112 อยู่ ทั้งนี้พรรคเคยแถลงการณ์ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่สนับสนุนการแก้ไข ม.112 และไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคที่มีนโยบายดังกล่าว เนื่องจากพรรค พปชร. เป็นพรรคการเมืองที่อยู่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

'รวมไทยสร้างชาติ' ย้ำไม่ร่วมเป็นรัฐบาล-ไม่โหวตหนุนชื่อนายกฯ หากมาจากการร่วมจัดตั้งกับ 'ก้าวไกล'

ขณะที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงแนวทางของพรรคในการโหวตเลือกนายกฯ ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติเห็นความสำคัญของการจัดตั้งรัฐบาล แต่ความมั่นคงของชาติบ้านเมืองและสถาบันหลักทั้งสามของชาติสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด พรรคยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงไม่เห็นชอบกับบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ ที่ผ่านมาทั้งสองครั้ง เพราะไม่เชื่อว่า พรรคก้าวไกลจะมีแนวทางเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ สำหรับการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งต่อไปหากยังมีพรรคก้าวไกลร่วมเป็นรัฐบาล พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่เห็นชอบกับบุคคลใดจากพรรคใดก็ตามที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ เพราะจากการดำเนินการทางการเมืองที่ผ่านมาของพรรคก้าวไกลทำให้ไม่เชื่อว่าพรรคดังกล่าวจะเปลี่ยนแนวทางและอุดมการณ์ของพรรคได้ รวมทั้งพรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่ร่วมเป็นรัฐบาลกับพรรคการเมืองใดก็ตามที่นำพรรคก้าวไกลมาร่วมเป็นรัฐบาลด้วยอย่างเด็ดขาด

'ประชาธิปัตย์' ไม่ปฏิเสธ 'ก้าวไกล' แต่รับไม่ได้ถ้ายังแก้ ม.112

เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการประชาธิปัตย์ กล่าวถึง สถานการณ์การเมือง ที่แกนนำจัดตั้งรัฐบาลเปลี่ยนจากพรรคก้าวไกลมาเป็นพรรคเพื่อไทย และประกาศว่าจะไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภา ว่า ยังไม่มีการติดต่อมาที่พรรคประชาธิปัตย์

ส่วนถ้าพรรคเพื่อไทยติดต่อมาแล้วจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นอย่างไร เฉลิมชัยกล่าวว่า “ถ้าติดต่อมาจะแจ้งให้รู้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อมา และถ้ายังมีพรรคก้าวไกลอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์พูดชัดไปแล้ว ว่าเราไม่ได้ปฏิเสธพรรคก้าวไกล แต่เราปฏิเสธแนวทาง นโยบายและแนวความคิดเรื่องแก้มาตรา 112 ดังนั้นตราบใดที่มาตรา 112 ยังอยู่ในกระบวนการ ของพรรคก้าวไกลเราก็รับไม่ได้

เมื่อถามว่า พอเปลี่ยนแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคก้าวไกล มาเป็นพรรคเพื่อไทยแล้ว มีโอกาสที่จะได้ทำงานร่วมรัฐบาล มีมากขึ้นหรือไม่นั้น เฉลิมชัย บอกว่า ต้องให้ถึงเวลาก่อน ตนยังไม่รู้ ซึ่งเคยบอกแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องฟังเสียง ส.ส. ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร จะตอบคำถามนี้ คงตอบไม่ได้ และบอกไว้เลยว่าใครก็ตามที่เสนอข่าวว่า ตนไปติดต่อพรรคการเมืองอื่น ช่วยลงข่าวให้ด้วยว่าเป็นการใส่ร้ายและเป็นการลงข่าวเท็จทั้งหมด

ที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา และ สำนักข่าวไทย