Skip to main content
sharethis

'ไอทีวี' แจงบันทึกการประชุมเป็นการสรุปจากคำตอบทั้งหมด ไม่ได้ต้องการสื่อสารว่า "ยังประกอบกิจการสื่อ" ส่วนงบการเงินไตรมาส 1/2566 เป็นแบบร่างที่นำไปอ้างอิงไม่ได้ เนื่องจากยังไม่สอบทาน และเป็นเอกสารใช้ภายใน

 

15 มิ.ย. 2566 ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้ชื่อข่าว The Reporters รายงานวันนี้ (15 มิ.ย. 66) ระบุว่า คณะกรรมการบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือชี้แจงผู้ถือหุ้นบนหน้าเว็บไซต์ itv.co.th ใจความว่า จากเหตุการณ์ที่เผยแพร่ในสื่อเกี่ยวกับการบันทึกรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 ("รายงานการประชุม") แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ปี 2565 และงบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัท นั้นบริษัทขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้

1.ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ("การประชุมฯ") บริษัทได้จัดประชุม เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 โดยในการประชุมฯ ดังกล่าวมีทั้งหมด 9 วาระ วาระที่ 1 ถึงวาระที่ 8 เป็นวาระรายงาน/อนุมัติและพิจารณาการดำเนินการทางธุรกิจตามการค้าปกติของบริษัท ส่วนวาระที่ 9 เป็นวาระอื่น ๆ ซึ่งไม่ได้มีผู้ถือหุ้นเสนอวาระเพื่อพิจารณาและอนุมัติเพิ่มเติม บริษัทจึงเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นชักถามในเรื่องอื่น ๆ

ในการประชุมฯ ดังกล่าว มีคำถามที่ซ้ำซ้อนจากผู้ถือหุ้นหรือเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัท ดังนั้น การจัดทำบันทึกคำถามและคำตอบในรายงานการประชุม บริษัทจึงได้สรุปสาระสำคัญของคำถามและคำตอบในระหว่างการประชุมฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัทเท่านั้น เพื่อให้มีความกระชับและชัดเจนโดยมิได้จดบันทึกการประชุมฯ เป็นคำต่อคำ

ทั้งนี้ การบันทึกรายงานการประชุมที่เป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ เป็นการสรุปคำตอบจากคำถามหลายข้อที่ผู้ถือหุ้นส่งเข้ามา ในส่วนที่เกี่ยวช้องกับข้อพิพาทเรื่องสิทธิตามสัญญาเข้าร่วมงานและดำเนินการสถานีวิทยุโทรทัศน์ฯ นั้น บริษัทได้บันทึกราขงานการประชุมไว้แล้วในวาระ 9 หน้า 14 ว่า "ผลคดีเป็นจุดสำคัญที่สุด หากผลคดีขังไม่ออก เป็นไปได้ยากมากที่บริษัทจะดำเนินการใด ๆ ในขณะนี้..." สำหรับในส่วนที่มีการบันทึกรายงานการประชุมว่า "ปัจจุบัน บริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท และมีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ" นั้น บริษัทไม่ได้ต้องการจะสื่อสารว่าบริษัทยังประกอบกิจการสื่ออยู่ แต่หมายถึงบริษัทยังคงดำเนินการอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทได้จดทะเบียนไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าโดยมิได้มีการเลิกกิจการแต่อย่างใด

2. ในส่วนของแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัทประจำปี 2565 ที่บริษัทยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 บริษัทขอเรียนว่า รายได้จากการประกอบธุรกิจของบริษัทได้แสดงอยู่ในงบการเงินของบริษัท ประจำปี 2565 ซึ่งได้มีการตรวจสอบ และลงนามรับรองโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และได้ยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในงบการเงินดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า รายได้ของบริษัทมาจากผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับเท่านั้น ซึ่งงบการเงินฉบับดังกล่าว บริษัทได้ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2566 เช่นกัน

3. ในส่วนของงบการเงินไตรมาส 1 ประจำปี 2566 ของบริษัทที่มีการโพสต์ในเว็บไซต์ www.itv.co.th ตามที่มีข่าวอยู่ในขณะนี้นั้น บริษัทขอเรียนให้ทราบว่างบดังกล่าวเป็นเพียงร่างงบการเงินที่ใช้ภายในบริษัทและยังไม่ได้มีการสอบทานหรือตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบบัญชี จึงยังไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานภายนอกบริษัทได้ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายใดๆ

บริษัทขอเรียนย้ำว่า การดำเนินการประชุมฯ การจัดทำรายงานการประชุม การนำส่งแบบนำส่งงบการเงินงบการ เงิน และการดำเนินการต่าง ๆ ของบริษัทเป็นการดำเนินการทางธุรกิจตามปกติและเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ

ที่มา: เว็บไซต์ itv.co.th

ด้านสฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านการเงิน โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ให้ความเห็นหลัง ไอทีวี ออกแถลงการณ์ชี้แจงจำนวน 3 ข้อ 1. แบบประชุมประจำปี 2566 เมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมาที่เป็นประเด็นนั้น ไม่ได้เป็นการถอดความแบบคำต่อคำ และใจความสำคัญในรายงานการประชุมฯ ไม่ต่างจากในคลิป บริษัท ไอทีวี ไม่ได้ต้องการสื่อสารว่า 'ยังประกอบกิจการสื่อ' 

2. ในส่วนของแบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ของบริษัทประจำปี 2565 ที่บริษัทยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2566 ยืนยันว่ารายได้ของบริษัทในปี 2565 มีเพียง “ผลตอบแทนจากการลงทุนและดอกเบี้ยรับ” เท่านั้น อย่างไรก็ตาม สฤณี แสดงความเห็นว่า ทางไอทีวี ไม่ได้ชี้แจงว่า ทำไมถึงใส่ในช่อง "สินค้าและบริการ" ว่า "สื่อโฆษณา" และระบุ "ช่อง ‘ร้อยละของรายได้รวม’" ระบุ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เมื่อปี 2565 ไม่มีรายได้จากการธุรกิจนี้เลย

ภาพประกอบจาก The Reporters

สฤณี ระบุต่อว่า การชี้แจงของไอทีวี ยืนยัน งบการเงินไตรมาส 1 ปี 2566 เป็นเพียงฉบับร่าง  และเป็นเอกสารภายในเท่านั้น "จึงไม่สามารถนำไปอ้างอิงหรือใช้งานนอกบริษัทได้" ซึ่งแปลว่า เอกสารที่เรืองไกรนำไปยื่น กกต. นั้นน่าจะใช้ไม่ได้ ถ้าเป็นเอกสารชุดเดียวกัน อย่างไรก็ดี ไอทีวีไม่ได้อธิบายว่า ในเมื่อเป็นร่างเอกสารภายใน แล้วทำไมถึงเอาขึ้นเว็บบริษัทให้คนทั่วไปเข้าถึงได้


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net