Skip to main content
sharethis

บันทึกถ่ายทอดสดการสนทนากับธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ รองศาสตราจารย์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต หลังล่าสุดเผยแพร่ผลสำรวจทั้งคะแนนนิยมของพรรคฝ่ายประชาธิปไตยทั้งภาคใต้และบัญชีรายชื่อ มองมองของนักศึกษา Gen Z รวมทั้งประเด็นเชิงนโยบายอย่างเลือกตั้งผู้ว่าฯ และยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร

จากกรณีที่ วิษณุ ออกมาบอกแสดท่าทีไม่ปิดประตูโอกาสเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย พร้อมยกกรณีปี 18 ครั้งรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยโดยหวังว่าเมื่อตั้งขึ้นเสร็จแล้วอีกหน่อยก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้พรรคเล็กตามเข้ามานั้น ธำรงศักดิ์ กล่าวว่า เป็นประวัติศาสตร์ที่เพิ่งแต่ง หากคนไม่ทราบก็จะคล้อยตาม จากเหตุการณ์ทางการเมืองในการเลือกตั้งปี 2518 ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ที่มี ม.ร.ว.เสนีย์ เป็นผู้นำ ได้ ส.ส.72 คน ซึ่งเป็นพรรคที่ได้มากเป็นอันดับ 1 จากทั้งหมด 269 คน เขาจึงได้สิทธิทที่จะรวมจัดตั้งรัฐบาล แต่ที่กล่าวอ้างปัจจุบันนี้อาจจะให้พรรคที่ได้ ส.ส. 40-50 คน มารวมเสียงหรอ นี่เป็นสิ่งที่ผิดจริยธรรมผิดกติกาประชาธิปไตยตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว

ย้อนไปกรณีพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาลปี 2518 นั้น มีเงื่อนไขไม่เอาพรรคทหาร เพราะเพิ่งเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 พรรคสหประชาไทยของ จอมพล ถนอม  กิตติขจร ซึ่งยังคงอยู่นั้นพรรคประชาธิปัตย์จับมือกับพรรคนี้ไม่ได้เพราะมันคือพรรคการเมืองของคณะรัฐประหาร สอง พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่อยากเล่นบทที่ก้าวร้าวจึงไม่อยากจับมือกับพรรคที่เป็นปีซ้ายกว่าทำให้เหลือเพียงพรรคกลางๆ เหลือพรรคเดียวคือพรรคเกษตรสังคมทำให้รวมกันได้ 91 เสียง ซึ่งขาดอีก 45 เสียงจึงเกินกึ่งหนึ่งของ ส.ส.ทั้งหมด จากนั้น 91 เสียง เสนอชื่อตัวเองเป็นนายกฯ แต่ในรัฐธรรมนูญปี 2517 ระบุว่า เมื่อเป็นนายกฯและตั้งคณะรัฐมนตรีแล้วต้องแถลงนโยบายต่อสภา และในการแถลงนโยบายนั้นต้องได้รับความไว้วางใจจากสภาด้วย กระบวนการเกิดขึ้นภายใน 1 เดือน สภาก็ไม่ไว้วางใจในนโยบายจึงไม่ได้บริหารประเทศ ดังนั้นไม่มีหรอกเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยเพราะคุณจะจบตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น

"เรื่องนี้ (รัฐบาลเสียงข้างน้อย) ไม่ได้เล่าเรื่องว่าพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลเป็นพรรคอันดับ 1 ไม่ใช่พรรคอันดับบ้วยหรือพรรคอันดับกลาง เขาปิดตรงนี้ไว้เพื่อทำให้คุณเห็นว่ามันเคยมีตัวอย่างมาแล้ว นี่เขาเรียกว่าเป็นประวัติศาสตร์ซ่อนเร้นเล่นแง่มุม" ธำรงศักดิ์ กล่าว

ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ค.) วิษณุ ออกมาชี้แจงประเด็นที่กล่าวถึงรัฐบาลเสียงข้างน้อยว่า ไม่ใช่การส่งสัญญาณใดๆ ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว จะต้องหานายกฯให้ได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา270 และมีช่องทางอยู่ ย้ำว่า ความเป็นจริงการจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากเพื่อให้ยุ่งยาก ไม่ต้องเสียวสันหลัง คอยหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นจะบริหารราชการไม่ได้เสียสมาธิ พร้อมย้ำอีกครั้งว่า นี่ไม่ใช่การส่งสัญญาณใดๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net