โฆษกพรรคอนาคตใหม่​ระบุพรรคน้อมรับคำวิจารณ์กรณี พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ยังพักบ้านหลวง​ ยืนยันพรรคไม่นิ่งนอนใจ​ พร้อมเดินหน้าปฏิรูปกองทัพ​ต่อไป ส่วน พล.ท.พงศกร ยังไม่ชี้แจงเพราะตอนนี้ติดดูงานต่างประเทศ

พรรณิการ์​ วานิช​ โฆษกพรรคอนาคตใหม่​ (แฟ้มภาพ)

กรณี พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพรรคอนาคตใหม่ ยอมรับกลางรายการ "ยุคล ขยี้ข่าวทอล์ค" ออกอากาศเมื่อ 14 ก.พ. 63 ว่าเกษียณมาแล้ว 4 ปีทุกวันนี้ยังอยู่บ้านหลวง จ่ายค่าบำรุงเดือนละ 2,000 บาท บวกค่าน้ำค่าไฟ ที่ยังไม่ออกเพราะรอเก็บเงินดาวน์บ้านนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ล่าสุดวันนี้ (16​ ก.พ. 63)​ ทีมสื่อพรรคอนาคตใหม่แจ้งข่าวว่า ​พรรณิการ์​ วานิช​ โฆษกพรรคชี้แจงกรณี พล.ท.พงศกร​ยังอาศัยอยู่ในบ้านพักข้าราชการทหารว่าหลังทราบเรื่องพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องดังกล่าว​แต่ในขณะนี้ พล.ท.พงศกรอยู่ระหว่างเดินทางไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ แต่จะแถลงต่อสาธารณะในกรณีนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน​ นอกจากนี้โฆษกพรรคอนาตใหม่ยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่เดินหน้าเรียกร้องการปฏิรูปกองทัพอย่างจริงจังตามนโยบายที่พรรคเคยหาเสียงไว้และพรรคยืนยันว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่สุดในรอบ 100 ปี ที่จะเกิดการปฏิรูปกองทัพอย่างเป็นระบบ เพราะประชาชน รัฐบาล และ ผบ.ทบ. ต่างเห็นตรงกันถึงความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปกองทัพ

"ทั้งนี้พรรคอนาคตใหม่ขอน้อมรับคำวิจารณ์จากกรณีดังกล่าวและขอโทษสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรคทุกคนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจต่อจุดยืนของพรรคในการปฏิรูปกองทัพ ขอย้ำว่าจุดยืนของพรรคในเรื่องนี้ว่าเราไม่เคยคลอนแคลน และต้องการความร่วมมือร่วมใจจากทุกคน ผลักดันให้การปฏิรูปกองทัพเกิดขึ้นในเร็ววัน​จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง แต่ก็ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าทุกฝ่าย ทั้งที่สนับสนุนและต่อต้านรัฐบาล ต่างก็เห็นว่าสิทธิพิเศษของบุคคลระดับสูงเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขขอขอบคุณทุกคำวิพากษ์วิจารณ์เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงแก้ไขตนเองให้ดียิ่งขึ้นต่อไป"​ พรรณิการ์กล่าว

คำกล่าวยอมรับว่ามีบ้านพักอยู่ในค่ายทหารของ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนที่เมื่อวานนี้ (15 ก.พ. 63) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ได้กล่าวเสนอมาตรการ “3 เปิด” เพื่อปฏิรูปกองทัพที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว หนึ่งในข้อเสนอคือ "1. เปิดชื่อ เรียกร้องให้เปิดชื่อทหารกษียณที่ยังใช้สวัสดิการบ้านว่ามีกี่คน เปิดเผยรายชื่อคนในกองทัพที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ สนามกอล์ฟ-โรงแรม ฯลฯ ว่ามีจำนวนเท่าไหร่"

สำหรับข้อเสนออื่นๆ ได้แก่ "2.เปิดงบฯ เรียกร้องให้เปิดงบฯ ที่ใช้ในการบริหารธุรกิจของกองทัพ เช่น สนามกอล์ฟ จัดมวย หรือปฏิบัติการอื่นๆ เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้" และ "3.เปิดทาง เพราะกองทัพปฏิรูปกองทัพเองไม่ได้ นี่คือการโยนโอกาสที่จะปฏิรูปที่ดีสุดทิ้งไป ดังนั้นต้องเปิดทางให้ประชาชน สื่อ นักการเมือง ฯลฯ เข้าไปร่วมตรวจสอบติดตามและเสนอแนะ"

"ถ้าท่านต้องการปฏิรูปอย่างจริงใจ ท่านจะเจอแรงเสียดทานมหาศาล เพราะมีคนเสียบ้านพัก เสียทหารรับใช้ เสียธุรกิจมวยม้า ท่านจะสู้แรงเสียดทานอย่างไร ดังนั้นให้เราช่วยตรวจสอบ ช่วยกดดันนายพลที่จะเสียประโยชน์สิ" ธนาธรกล่าว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

พล.ท.พงศกร เผยบัญชีทรัพย์สิน ป.ป.ช. มีทรัพย์สิน 8.7 ล้านบาท มีหนี้ 22 ล้านบาท

อนึ่งในการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีเข้ารับตำแหน่ง โดยสำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อปีที่แล้ว พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 6 พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งแจ้งสถานะว่าหย่า พล.ท.พงศกรมีรายได้ 2.3 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินเดือน ส.ส. รวม 1.36 ล้านบาท เบี้ยประชุม 7.2 หมื่นบาท เงินบำนาญ 9.12 แสนบาท มีรายจ่าย 1.5 ล้านบาทเศษ รวมทรัพย์สินทั้งหมด 8.7 ล้านบาท แต่มีหนี้สินอีกเกือบ 22 ล้านบาท (อ่านรายงานในสำนักข่าวอิศรา)

รายงานของ สำนักข่าวอิศรา เมื่อ 24 มิ.ย. 62 พบว่า พล.ท.พงศกร มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง เสร็จชำระบัญชีแล้ว 2 แห่ง เหลืออีก 1 แห่งชื่อ บริษัท ชายนิ่งสตาร์ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าเปิดดำเนินการทำธุรกิจรับเหมาสร้างโรงงานและติดตั้งเครื่องจักร จดทะเบียนวันที่ 30 ส.ค. 59 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เป็นบริษัทร่วมทุนกับบุคคลสัญชาติเกาหลี โดย พล.ท.พงศกร ถือหุ้น 10,200 หุ้น หรือ 51%

โดยในหนังสือรับรองบริษัทยังแจ้งวัตถุที่ประสงค์เกี่ยวข้องกับกิจการสื่อด้วย โดย พล.ท.พงศกรชี้แจงว่า เรื่องที่มีวัตถุประสงค์บริษัทส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับสื่อเพราะเป็นแบบฟอร์มสำเร็จรูปของกระทรวงพาณิชย์ แต่ความจริงแล้วบริษัทยังไม่ได้เริ่มประกอบธุรกิจอะไรในช่วงระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา ส่วนเงินในบัญชีบริษัทก็มีไว้จำนวนหนึ่งเพื่อใช้ประคองธุรกิจไว้เท่านั้น สำหรับสถานะของบริษัทเป็นการร่วมลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทต่างชาติยังไม่ได้มาร่วมลงทุน ดังนั้น จนถึงตอนนี้บริษัท ไชน์นิ่ง สตาร์ กรุ๊ป ก็ยังไม่ได้ทำกิจการหรือมีรายได้อะไร