Skip to main content
sharethis

ศาลอาญาพิพากษาว่ามีความผิดจากการโพสต์เฟสบุ๊คชักชวนคนเสื้อเหลือง-แดงร่วมรณรงค์ต่อต้านเผด็จการ เรียกร้องระบอบสาธารณรัฐ-สหพันธรัฐ ผิดตาม ม.116 จำคุกรวม 15 เดือน ไม่เซ็นชื่อชั้นสอบสวนจำคุก 1 เดือน แต่ไม่ลงโทษตาม ม.112 ที่ถูกฟ้องไว้ถึง 10 กรรมโดยไม่ได้บรรยายเหตุผลประกอบ จำเลยอยู่ในเรือนจำมาแล้ว 14 เดือน อีกสองเดือนปล่อยตัว


ภาพจาก เพจ Banrasdr Photo

27 มิ.ย.2561 เวลา 9.45 น. ที่ศาลอาญา รัชดา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีประเวศ ประภานุกูล ซึ่งอัยการฟ้องในข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จำนวน 10 กรรม มาตรา116 จำนวน 3 กรรม และ มาตรา14 (3) พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 โดยศาลตัดสินว่า จำเลยไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมเท่ากับปฏิเสธสิทธิที่จะสู้คดี การโพสต์เฟสบุ๊คของจำเลยตั้งค่าเป็นสาธารณะ ข้อความดังกล่าวมีความผิดตามมาตรา 116 และมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษในบทหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 จึงให้ลงโทษจำคุกในความผิดมาตรา 116 จำนวน 3 กรรม กรรมละ 5 เดือน รวม 15 เดือน นอกจากนี้ให้ลงโทษจำคุกฐานไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือในชั้นสอบสวนตามประกาศ คปค.ที่ 25/2549 อีก 1 เดือน รวมโทษจำคุกทั้งหมด16 เดือน ข้อหาอื่นให้ยกฟ้อง อย่างไรก็ตามในคำพิพากษาที่อ่านในวันนี้มิได้บรรยายการวินิจฉัยมาตรา 112 แต่อย่างใด

สำหรับข้อความที่เป็นความผิดตามมาตรา 116 นั้น ศาลอ่านสรุปความได้ว่าเป็นการชักชวนให้คนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงร่วมกันถือป้ายรณรงค์ต่อต้านเผด็จการ และร่วมเรียกร้องระบอบสาธารณรัฐ สหพันธรัฐ โดยยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ จำเลยอยู่ในเรือนจำมาแล้วราว 14 เดือน เหลืออีก 2 เดือนจะครบกำหนดโทษได้ออกจากเรือนจำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนอ่านคำพิพากษาศาลให้ทุกคนที่มาฟังคดีนี้ยืนขึ้นเพื่อรับฟังคำพิพากษาพร้อมจำเลย หลังฟังคำพิพากษาญาติและผู้มาสังเกตการณ์คดีต่างแสดงความดีใจ รวมทั้งมีผู้เผลอปรบมือหลังศาลอ่านคำพิพากษาจบด้วย จากนั้นก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวประเวศออกไป เขาได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้มาให้กำลังใจว่า อย่างไรก็ไม่อาจยอมรับกระบวนการเช่นนี้ว่าเป็นกระบวนการยุติธรรม หากแต่เป็นการไล่ล่าคนเห็นต่างจาก คสช.

"วันหนึ่งข้างหน้าประวัติศาสตร์โลกจะตัดสินพวกเขาเอง" ประเวศกล่าว

อนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 หรือข้อหา “ยุยงปลุกปั่น” บัญญัติไว้ว่า

"มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันไม่ใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือไม่ใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต

(1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย

(2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ

(3) เพื่อให้ประชาชน ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี”

 

ลำดับความเป็นมาของคดี ประเวศ ประภานุกูล ก่อนจะถึงวันพิพากษา 

14 เม.ย.60 มีรายงานข่าวว่าหมุดคณะราษฎรบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าหายไป แล้วถูกแทนที่ด้วยหมุดใหม่ที่มีข้อความใหม่ ไม่มีใครทราบว่ามันหายไปนานแค่ไหนแต่เป็นข่าวดังในช่วงนั้น จากนั้น สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้โพสต์วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ในเฟสบุ๊คของเขา มีผู้แชร์เป็นจำนวนมาก

29 เม.ย.60 ทหารบุกคุมตัวประเวศ และคนอื่นๆ หลากหลายอาชีพที่บ้านของพวกเขาอีก 5 คน รวมเป็น 6 คนในวันเดียวกันแล้วนำไปควบคุมตัวที่ค่ายทหาร มทบ.11 ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ติดต่อทางบ้าน มิตรสหายของประเวศเริ่มต้นตามหาประเวศและเริ่มมีข่าวว่าคนนั้นคนนี้หายไป

1 พ.ค.60 หลังประเวศประท้วงโดยการอดอาหาร 1 วัน เขาก็ได้รับอนุญาตให้ติดต่อเพื่อน โลกจึงได้รู้ว่าพวกเขาอยู่ไหน แต่ก็ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมได้

3 - 4 พ.ค.60 ทหารทยอยนำตัวทั้งหมดผู้ถูกควบคุมตัวทั้ง 6 คน ส่งให้ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาและยื่นคำร้องฝากขังต่อศาล ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ประกันตัวรวมถึงประเวศ ผู้ต้องหา 5 คนถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 จากการแชร์สเตตัสของสมศักดิ์ เจียมฯ ที่วิจารณ์เรื่องหมุดคณะราษฎร พวกเขาถูกคุมขังอยู่หลายผัดในเรือนจำ แต่ท้ายที่สุดก็ได้รับการปล่อยตัวและไม่มีการสั่งฟ้อง ขณะที่กรณีประเวศไม่เป็นเช่นนั้น เขาถูกแยกฟ้องในข้อหาหนักมาก ทั้งหมดมาจากการแสดงความคิดเห็นในเฟสบุ๊คส่วนตัวของเขา โดยแบ่งเป็น

มาตรา 112 หมิ่นประมาทกษัตริย์ จำนวน 10 กรรม
มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น จำนวน 3 กรรม
พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (3)

โดยที่สื่อต่างประเทศหลายสำนักพาดหัวว่าทนายความสิทธิฯ เผชิญกับข้อหาที่อาจถูกจำคุกถึง 150 ปี อันเป็นการคำนวณจากโทษสูงสุดของมาตรานี้ นั่นคือ 15 ปีคูณด้วย 10 กรรม แต่ในความเป็นจริงแม้ศาลลงโทษสูงสุดดังนั้น กฎหมายอาญามาตรา 91 ก็ระบุให้จำคุกโทษฐานนี้ได้สูงสุด 50 ปี

18 ก.ย. 60 เมื่อศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐาน ประเวศตัดสินใจถอนทนายความของเขาทั้ง 3 คนและประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการในห้องพิจารณาคดี อัยการลงไปที่ศูนย์นัดความเพื่อกำหนดวันสืบพยานโจทก์เพียงฝ่ายเดียว พวกเขาเปิดสมุดจดงาน แล้วนัดสืบพยานห่างออกไปถึง 8 เดือน นั่นคือ 8-11 พ.ค.2561

ในครั้งนั้นมีคนอยู่ร่วมสังเกตการณ์คดีในห้องรวมๆ แล้วน่าจะไม่เกิน 10 คน และต่อมาสื่อไทยก็พาดหัวข่าวว่า

ทนายหมิ่นเบื้องสูงหัวแข็ง แถลงรัวไม่รับระบบศาลไทย  (เดลินิวส์)
ทนายแดงหมิ่นเบื้องสูงหัวแข็ง ไม่รับระบบศาลไทย/นัดสืบพยาน8พ.ค.ปีหน้า (แนวหน้า)
ทนายเสื้อแดงจำเลย ม.112 อวดดีเปล่งวาจากลางศาลไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย(MRG Online)
ราคาที่"ลิเบอร่าน"ต้องจ่าย! แฉลึกขัง"ประเวศ" ทนายแดงต้าน112 เหตุ10วันโพสต์หมิ่น10 ครั้ง ที่แท้ก๊วนเดียวกับแดงหมิ่นสุดแสบ"ดา ตอร์ปิโด-อ.หวาน" (ทีนิวส์)

8 พ.ค.61 นัดสืบพยานทนายประเวศ แย้งศาลกรณีขาดความชอบธรรมในการทำหน้าที่ตัดสิน สุดท้ายศาลมีคำสั่งให้เป็นการพิจารณาคดีลับ

23 พ.ค.61 ศาลเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษา โดยให้เหตุผลว่ายังประชุมจัดทำคำพิพากษาตามระเบียบไม่แล้วเสร็จ โดยให้นัดใหม่วันที่ 27 มิ.ย.นี้ 9.00 น. ในวันนั้นศาลตำหนิผู้สื่อข่าวว่ารายงานการสนทนาระหว่างศาลและจำเลยในนัดสืบพยานละเอียดราวกับบันทึกเสียง อาจเข้าข่ายประพฤติตนไม่เรียบร้อยในศาล

27 มิ.ย.61 ศาลพิพากษาคดีประเวศจำคุก 16 เดือน ตามความผิด ม.116 และการไม่เซ็นลายมือชื่อในเอกสารชั้นสอบสวน ประเวศอยู่ในเรือนจำมาแล้วราว 14 เดือน คาดว่าจะได้รับการปล่อยตัวในช่วงปลายเดือนสิงหาคม

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net