Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 6 ก.ย. 49 เวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 5 ก.ย. กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีประมาณ 150 คนพร้อมแกนนำ 5  คนได้แก่ นางละเอียด อ่อนสะอาด อายุ 39 ปี นายบัณฑิต อ่อนสะอาด อายุ 44 ปี น..เนาวรัตน์ ดาวเรือน อายุ 27 ปี นายปัญญา คำลาภ อายุ 31 ปี และนายบุญเลิศ เหล็กเขียว อายุ 55  ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์  มารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานอัยการ  ต่อมาเวลาประมาณ 11.00  น.  พนักงานอัยการได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 เข้าห้องควบคุมตัวระหว่างทำเรื่องขอประกันตัว เวลาประมาณ 13.30 น. จึงดำเนินการขอประกันตัวแล้วเสร็จ ทำให้แกนนำทั้ง 5 ของกลุ่มอนุรักษ์ถูกควบคุมตัวในให้ควบคุมตัวนานกว่า 3 ชั่วโมง


                       


นางละเอียด  อ่อนสะอาด  ผู้ต้องหาแม่ลูกอ่อนแฝดสอง  กล่าวทั้งน้ำตาว่า  ถูกแจ้งความดำเนินคดีทั้งครอบครัว จึงต้องนำลูกอ่อนที่ต้องให้นมมาด้วยทุกครั้ง  ในใจไม่นึกว่าจะถูกคุมตัวเลย  แต่วันนี้ถูกคุมตัวนานถึง 2-3 ชั่วโมง 


 


"ไม่รู้สึกอะไรมากรู้แต่ว่าจะสู้  แต่สงสารขวัญของลูกน้อยทั้งสองที่เหมือนโดนคุมตัวไปกับพ่อแม่ด้วย อดนม  ร้องโยเยอยู่นานหัวอกคนเป็นแม่มันแทบจะขาด  และเหตุการณ์ในวันนี้ทำให้เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีที่เราหวังพึ่งมาโดยตลอดก็ไม่ได้ยืนมือเข้ามาช่วยเหลือ"


 


นางละเอียด กล่าวอีกว่า ตลอดมามีหนังสือแจ้งถึงผู้ว่าฯทุกขั้นตอน แต่กลับไม่มีความกระตือรือร้นใด ๆ   สิ่งที่เห็นกลับเป็นการที่ผู้ว่าฯ ออกมาให้ข่าวหลังจากบริษัทอิตาเลียนไทยเข้าพบและบอกว่า กลุ่มอนุรักษ์ยอมอ่อนลงและเห็นด้วยกับบริษัท ซึ่งเป็นการจับมือบริษัทมาแถลงข่าวสร้างภาพว่าบริษัทใหม่รับช่วงต่อจาก บริษัท เอพีพีซี ไม่ติดใจเอาความชาวบ้าน  อีกทั้งจะเรียกประชุมคณะกรรมการจังหวัดเพื่อให้บริษัทแนะนำตัวในวันที่ 12 ก.ย. นี้


 


นางละเอียดกล่าวเพิ่มเติมว่า  ผลของการทำงานของผู้ว่าฯทำให้ต้องมานั่งในห้องขัง ขณะที่นั่งอยู่ในห้องขังจึงเข้าใจแล้วว่าเสรีภาพไม่มีอยู่ในประเทศนี้   ต่อไปนี้กลุ่มอนุรักษ์ฯ จะต้องต่อสู้ทุกทางเพื่อรักษาสิทธิในการแสดงความคิดเห็นเสรีภาพที่จะยืนอยู่อย่างคนที่มีศักศรีความเป็นมนุษย์  ไม่ใช่จะให้ใครมีเงินมากมายมาจับขังไว้ในกรงได้  


 


"พร้อมแล้วที่จะประกาศว่าหากมีเราอยู่ในฐานะประชาชนคนอุดรธานีก็จะไม่มีเหมืองแร่โปแตช  และถ้าจะมีเหมืองแร่โปแตชก็มาฆ่าพวกเราให้ตายหมดก่อน" นางละเอียดย้ำในที่สุด


 


ด้านนายอภิสิทธิ์  แสนณรงค์  ทนายจากสภาทนายความจังหวัดอุดรธานี  เปิดเผยว่า  ภาพที่เห็นในวันนี้ทำให้รู้สึกสลดใจ  และผิดหวังต่อขบวนการแก้ไขปัญญาเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตชของจังหวัดอุดรธานี  ซึ่งความจริงฝ่ายรัฐไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้เสมอมา ทำให้กลุ่มชาวบ้านที่เคลื่อนไหวด้วยสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญต้องถูกกระทำซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายเท่านั้น แม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ อายุเพียง 2 เดือนเหมือนต้องมารับโทษด้วย


 


นอกจากนี้ ที่ผ่านทางกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เคลื่อนไหวคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชจนทำให้คนรับรู้ข้อมูลโครงการนี้มากขึ้นจากที่แทบไม่รู้เลย  นอกจากนี้ คดีนี้ก็เป็นเรื่องสาธารณะไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งนับตั้งแต่มีคดีความ กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้ร้องเรียนให้มีการแก้ไขปัญหามาโดยตลอดแต่ไม่มีความชัดเจนใด ๆ เลย  ไม่มีการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ  เป็นเหตุให้ชาวบ้านทั้ง 5 คนและเด็กสองเดือนที่ไม่รู้อะไรด้วยต้องถูกจำกัดเสรีภาพโดยการควบคุมตัวในวันนิ้  นายอภิสิทธิ์  กล่าว


 


ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า  ทางด้านบริษัทอิตาเลียนไทย  ส่งตัวแทนให้สัมภาษณ์ทางคลื่นมวลชลสัมพันธ์   เอฟเอ็ม 97.25 เม็กเฮิร์ตว่า บริษัทได้มีความพยายามดำเนินการถอนฟ้องแต่ทำไม่ได้เพราะเป็นคดีอาญา  และได้แจกแถลงการณ์การชี้แจงต่อสื่อมวลชนว่าบริษัทจะส่งตัวแทนมาแถลงต่อศาลในวันนี้เพื่อยืนยันเจตนาไม่ติดใจเอาความ  พร้อมทั้งยินดีอย่างยิ่งที่จะเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมทุกขั้นตอนในการพัฒนาเหมืองแร่โปแตชเพื่อพัฒนาจังหวัดอุดรธานี


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net