ประชาไท - 6 ก.ค.2549 เมื่อเวลา 14.00 น.คณะทำงานพิจารณาคดียุบพรรคการเมืองนำโดยนายอรรถพล ใหญ่สว่าง อธิบดีอัยการฝ่ายสำนักงานคณะกรรมการอัยการและคณะได้นำเอกสารคำร้องและสำนวนคดีทั้งหมดในคดีดังกล่าวมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเอกสารหลักฐานมีเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อ และรถตู้อีก 1 คน ขนเอกสารหลักฐานต่างๆ โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยดูแลเอกสารดังกล่าวมาด้วย

โดยการส่งมอบและรับเอกสารครั้งนี้ได้มีการตรวจรับและส่งมอบกันอย่างรัดกุม โดยตรวจเอกสารกันทีละแผ่นและลงรายมือชื่อทุกคน ทุกแฟ้ม และถึงขั้นตำรวจคอยมาคุ้มกันตั้งแต่บริเวณที่รถบรรทุกหกล้อมาจอดจนถึงขั้นหน้าห้องเก็บเอกสาร รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญถ่ายรูปและเก็บภาพไว้ทุกขั้นตอนเพื่อไม่ให้เอกสารสูญหายระหว่างการส่งมอบ

นายอรรถพล กล่าวว่า สำหรับกรณีคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 นั้น ทางอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งให้นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด โดยเอกสารที่ได้นำมามอบให้กับศาลรัฐธรรมนูญมีทั้งหมด 142,860 แผ่น จำนวน 20 ชุด โดยจะมอบให้กับตุลาการทุกคนและเลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญตามข้อกำหนดวิธีพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยทุกขั้นตอน ทั้งนี้เอกสารเกี่ยวกับคำขอให้ยุบพรรคไทยรักไทยมีจำนวนมากที่สุด คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญที่มีกำหนดจะพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่ในวันที่ 13 ก.ค.นี้น่าจะพิจารณารับคำร้องดังกล่าวดำเนินการต่อไป

นายอรรคพล กล่าวว่า สำหรับ คำร้องขอให้ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรคนี้ ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้แยกสำนวนออกเป็น 5 พรรคโดยชี้มูลความผิดตามที่อนุกรรมการของกกต.และความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองส่งมา โดยจะบรรยายถึงที่มาของคำร้อง ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นของคดี ประเด็นที่เกี่ยวข้องในข้อกฎหมาย การตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ความคิดเห็นของกกต.ถ้ามี ความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง รวมทั้งความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานอัยการสูงสุดและความเห็นของอัยการสูงสุด ซึ่งเชื่อว่าข้อมูลทั้งหมดเพียงพอที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาได้ แม้ว่าในกรณีดังกล่าวจะเป็นกรณีแรกที่เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 66 และให้ดำเนินการตามมาตรา 67 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง ก็ตาม

นายอรรคพล กล่าวว่า สำหรับแนวทางการพิจารณาของคดีของศาล ที่หลายฝ่ายต้องการให้ศาลออกนั่งพิจารณาคดีโดยเปิดเผยนั้น ตนขอให้เป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาโดยอิสระ ซึ่งตามข้อกำหนดของศาลระบุว่าหากศาลเห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะต้องออกนั่งบัลลังก์ ก็ได้ แต่หากคู่ความต้องการให้ออกนั่งพิจารณา ศาลก็สามารถมีคำสั่งเรียกพยานของแต่ละฝ่ายมาให้ถ้อยคำต่อศาลได้ ทั้งนี้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้เตรียมบัญชีพยานในส่วนของเราไว้แล้ว มีจำนวนไม่มากนัก โดยจะยึดตามบุคคลที่เกี่ยวข้องตามผลสอบของอนุกรรมการ และความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองเท่านั้น ไม่ได้มีพยานรายใหม่ขึ้นมาแต่อย่างใด แต่หากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าควรเรียกพยานปากใดเพิ่มเติมก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ส่วนที่หลายฝ่ายต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีให้เสร็จก่อนวันที่ 15 ต.ค.ที่เป็นวันกำหนดการเลือกตั้งนั้น ตนไม่ขอให้ความเห็นเพราะถือว่าหน้าที่ของอัยการสูงสุดเสร็จสิ้นแล้ว และต่อไปจะเป็นอำนาจของศาลพิจารณาอย่างอิสระต่อไป

นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้นำเอกสารคำขอให้ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 ประกอบด้วย พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า มีคำขอและเอกสารประกอบประมาณ 500 แผ่น พรรคพัฒนาชาติไทย ประมาณ 1,000 แผ่น พรรคแผ่นดินไทย ประมาณ 1,000 แผ่น พรรคไทยรักไทย ประมาณ 1,900 แผ่น และพรรคประชาธิปัตย์ ประมาณ 1,500 แผ่น รวมแล้วเอกสาร 1 ชุดจะประกอบด้วยเอกสารประมาณ 5,900 แผ่น ซึ่งจะแจกจ่ายให้ตุลาการทุกคนไปศึกษาล่วงหน้าภายในวันนี้ โดยตุลาการที่ไม่ได้เดินทางมาที่สำนักงานทางสำนักงานจะจัดส่งไปยังบ้านพักของตุลาการฯ และจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่าจะรับคำร้องหรือไม่ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ นายไพบูลย์ กล่าวถึงการเก็บรักษาเอกสารสำนวนคดี ว่า เป็นมาตรการที่ทางสำนักงานเตรียมไว้อยู่แล้ว คงไม่มีเหตุอันใดน่าเป็นห่วง

สำหรับการรักษาความปลอดภัยด้านเอกสารมีรายงานว่าสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญได้มีการเปิดห้องพิเศษขึ้นมาหนึ่งห้องโดยเฉพาะ โดยใช้ห้องพิพิธภัณฑ์ศาลรัฐธรรมนูญที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นหนึ่งของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อทำเป็นห้องเก็บเอกสาร สำนวนคำร้อง สำนวนพยานหลักฐานทั้งหมดในคดีนี้ที่สำนักงานอัยการสูงสุดส่งมากว่า 70 ลัง โดยมีการวางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และยังมีการประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อขอให้ส่งกำลังมาคุ้มกันเป็นพิเศษในวันที่มีการพิจารณาคดีดังกล่าว เพราะเคยเกิดเหตุลอบวางเพลิงศาลรัฐธรรมนูญเมื่อช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

 นายผัน จันทรปาน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญผู้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการพิจารณาคำร้องยุบ 5 พรรคการเมืองว่า คาดว่าที่ประชุมคณะตุลาการจะสามารถพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้ดำเนินการตามข้อกำหนดและวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ในการประชุมวันที่ 13 ก.ค.นี้ และตุลาการฯคงจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการพิจารณาว่าจะรับคำร้องดังกล่าวไว้วินิจฉัยหรือไม่ หากมีมติให้รับคำร้องก็จะถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาโดยเร่งด่วน และน่าจะพิจารณาคำร้องอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีการหยิบเฉพาะคำร้องยุบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคไทยรักไทยขึ้นมาพิจารณาก่อนหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุมฯจะพิจารณา

ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายฝ่ายห่วงว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคำร้องนี้จะกระทบต่อผลการเลือกตั้ง 15 ต.ค. นายผัน กล่าวว่า อยากให้แยกเป็นคนละส่วนเพราะในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาอยู่ ทั้ง 5 พรรคการเมืองยังสามารถส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์