นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร ขึ้นเวทีปราศรัย ณ ที่ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2549
นายแพทย์
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 มีนาคม 2549 ที่ห้องทองจันทร์หงส์ลดารมภ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ สภาอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดเวทีสนทนาประสา มอ. เรื่อง วิเคราะห์สถานการณ์ต้านระบบทักษิณ มีนาย
นายเจิมศักดิ์ ได้บรรยายเกี่ยวกับการครอบงำและแทรกแซงวุฒิสภาและองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) การขายบริษัท ชินคอร์
ปอเรชั่น ในแก่กลุ่มเทมาเสกของสิงคโปร์ รวมทั้งการใช้ช่องว่างของกฎหมายหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี การใช้อำนาจในทางที่ไม่ชอบ มีผลประโยชน์ทับซ้อน เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้ชี้ให้เห็นถึงอันตรายของระบอบทักษิณ เพราะฉะนั้นจะต้องจะทำลายระบบทักษิณให้ออกไปจากการเมืองไทยด้วย
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นกรรมการตรวจสอบการทุจริตของวุฒิสภา พบว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้มีความผิดหลายประการ ประการแรก มีการขึ้นเงินเดือนให้ตัวเองโดยมิชอบ เมื่อตนตรวจพบ เขาจึงคืนเงินทั้งหมดทันที แต่แม้จะคืนเงินไปแล้ว ก็ต้องได้รับโทษเพราะได้กระทำผิดไปแล้ว
ประการที่สอง คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้ได้มีการจัดสรรงบลับขึ้นมา โดยให้ประธานและกรรมการสามารถเบิกได้คนละ 500,000 บาท ต่อครั้ง เลขานุการเบิกได้คนละ 300,000 บาทต่อครั้ง รองเลขานุการ เบิกได้คนละ 200,000 บาทต่อครั้ง ตลอดจนผู้อำนวยการกอง 5 กอง เบิกได้คนละ 50,000 บาท ต่อครั้ง ทำให้สูญเสียงบประมาณไปถึง 40 ล้านบาท ประการต่อมา ปกติการให้ใบแดงแก่ผู้ได้รับเลือกตั้ง ต้องให้กรรมการทั้ง 5 คนลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ แต่ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา เมื่อมีการลงมติเป็นเอกฉันท์แล้ว ปรากฏว่าในวันรุ่งขึ้น กลับกลายเป็นการให้ใบเหลือง อีกทั้งเมื่อให้ใบแดงแล้วจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว ทำให้กรรมการบางคนไม่ยอมลงนามในราชกิจจนุเบกษา จึงประกาศทำให้มีเรื่องค้างอยู่เป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้ทำงานชุ่ยมาก
นายเจิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า คงไม่สามารถที่จะหยุดการเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 ได้ทัน เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดนี้มีข้อบกพร่องมาก ตนจึงเป็นห่วงกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดต่างๆ ว่าอาจจะปล่อยให้เกิดการทุจริตได้ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อปี 2548 ปรากฏว่ามีการซื้อหน่วยเลือกตั้งบางหน่วยด้วยราคา 20,000 บาท ซึ่งราคาถูกกว่า สุนัขพันธุ์ต่างชาติเสียอีก ให้กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 7 นำไปแบ่งกัน เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนต้องช่วยกันตรวจสอบและช่วยเป็นพยานหากมีการทุจริตเกิดขึ้น
นายเจิมศักดิ์ กล่าวถึงศาลปกครองสูงสุดด้วยว่า ดูเหมือนว่าศาลปกครองเป็นองค์กรอิสระที่มีความอิสระมากที่สุดขณะนี้ เนื่องจากกระบวนการสรรหาตุลาการมีความแตกต่างจากกระบวนการสรรหาบุคคลากรขององค์กรอิสระอื่นๆ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง กระบวนการสรรหาตุลาการศาลปกครองน่านสนใจ คือ จะใช้วิธีการสอบข้อเขียน การศึกษาจากประวัติและการสอบสัมภาษณ์ เป็นต้น ส่วนองค์กรอิสระอื่นๆนั้น จะต้องรื้อและปฏิรูปการสรรหาบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการหรือตุลาการทั้งหมด แต่ในขั้นแรกจะต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจาการเมืองไปก่อน แล้วจึงมาพิจารณากัน
ต่อมาเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน นายเจิมศักดิ์ ได้ไปปราศรัยต่อในที่ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่หน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีประชานมาร่วมฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน
นายเจิมศักดิ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าว "ประชาไท" ว่า การปฏิรูปการสรรหาบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการหรือตุลาการ ขององค์กรอิสระ ไม่จำเป็นต้องยึดวิธีการของศาลปกครอง แต่จะใช้วิธีการใดนั้นก็ต้องมาพิจารณากันว่าจะป้องกันการแทรกแซงได้อย่างไร ซึ่งเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งหลังจากขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปแล้ว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)