Skip to main content
sharethis


ประชาไท - 1 มี.ค.49        เวลา 12.00 น. นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดแถลงข่าวร่วมกับนายไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) รศ.ดร.ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศ.น.พ.วันชัย วัฒนศักดิ์ สถาบันพระปกเกล้า(ไม่ได้ร่วมแถลงข่าว)เสนอใช้แนวทางสันติวิธีกับวิกฤตทางการเมืองและแก้ไขความขัดแย้ง


        


นายโคทม กล่าวว่า ขณะนี้สังคมไทยแตกแยกเป็น 3 ฝ่าย ทุกฝ่ายต่างมีเหตุผลที่แตกต่างกัน ฝ่ายค้านก็ประกาศจะไม่ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส่วนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็เรียกร้องให้นายกฯ ลาออก ส่วนรัฐบาลก็ยังยืนยันจะไม่ปฏิบัติตามคำเรียกร้อง ซึ่งต่างฝ่ายก็มีต่างมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน


 


เครือข่ายสันติวิธีมีข้อเสนอ 4 ข้อ เพื่อให้ทุกฝ่ายนำไปพิจารณา คือ 1.นายกฯ ควรขอลาออกจากตำแหน่ง และหากต้องการยุติบทบาททางการเมืองด้วยการวางมือก็ถือเป็นการเสียสละเพื่อแก้ไขสถานการณ์


 


2.ระหว่างการเลือกตั้งต้องมีคนเข้ามารักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจเป็นรองนายกฯ ที่ไม่เป็นสมาชิกพรรคขึ้นมาทำหน้าที่แทน เพื่อทำหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งให้เกิดความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองทุกพรรค หากเป็นความประสงค์ร่วมของพรรคการเมืองที่ต้องการให้เลื่อนวันเลือกตั้งออกไปก็สามารถออกพระราชกฤษฎีกาเลื่อนวันเลือกตั้งได้ และพรรคฝ่ายค้านควรทบทวนมติที่จะไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งใหม่


 


3.ควรมีการปฏิรูปการเมือง โดยทุกองค์กรและภาคประชาชนควรเข้ามามีบทบาท และ


 


4.หากมีการชุมนุมต่อควรให้เป็นไปอย่างสันติวิธี ปราศจากอาวุธ


 


นายโคทมกล่าวด้วยว่า วันนี้ต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเปลี่ยนเป็นความรุนแรง ซึ่งต้องหาทางออกที่เป็นทางเลือกแบบ win win solution ที่ทั้งสามฝ่ายต้องร่วมกันคิดและหาจุดร่วมที่พอจะเป็นไปได้ เพราะคงไม่มีฝ่ายใดชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ ควรมีคนกลางเข้ามาทำหน้าที่ดำเนินการเจรจาอย่างที่ทุกฝ่ายต้องการ และควรทำให้เร็วที่สุดยิ่งเร็วยิ่งดี ซึ่งอาจเกิดขึ้นในรูปแบบสานเสวนา แต่ปัญหาขณะนี้เกิดจากการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ ทางเลือกที่ดีควรยกหูโทรศัพท์คุยกันหรือตั้งโต๊ะเจรจากันอย่างเร็วที่สุด


 


นายไพบูลย์ กล่าวว่า บรรยากาศของความเกลียดชังมักจะนำสังคมไปสู่ความรุนแรง โดยเฉพาะสถานการณ์ที่มุ่งการเอาชนะเช่นนี้ ยิ่งจะทำให้เกิดการทำลาย ถึงขั้นเสียเลือดเสียเนื้อ หากเปรียบเทียบการทะเลาะกันในครอบครัวคงไม่มีใครอยากเห็นคนหนึ่งคนใดชนะ เพราะถ้ามุ่งชนะกันด้วยวิธีใดก็ตาม ฝ่ายชนะก็ต้องพังยับเยินเหมือนกัน หากเราสามารถทำให้ทุกฝ่ายแพ้ทั้งหมดได้ก็จะเป็นการดี แต่ต้องมีการเจรจากัน เพราะใจลึกๆ ก็เชื่อว่าทั้งสามฝ่ายก็ต้องการคุยกัน แต่ต้องมีคนกลางมาช่วยให้การเจรจาเกิดความเข้าใจกัน


 


"การลาออกของนายกฯ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้เหตุการณ์ผ่อนคลายความตึงเครียดได้ และเป็นสัญลักษณ์ของการถอยออกมาอีกหนึ่งก้าว อยากให้นายกฯ รับข้อเสนอนี้ไว้พิจารณาเพราะเป็นการถอยอย่างมีท่า มีศักดิ์ศรี สร้างคุณประโยชน์ต่อทุกฝ่าย อีกทั้งยังถือเป็นการเสียสละเพื่อแสดงความใจกว้างและเป็นการเปิดทางให้คนอื่นขึ้นมาทำหน้าที่แทน และหากนายกฯ ขอเว้นวรรคทางการเมืองไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งก็จะเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้พรรคไทยรักไทยที่จะนำไปสู่การเป็นสถาบันการเมืองอย่างที่นายกฯ ต้องการ ส่วนนายกฯ เองอาจจะเลือกทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติแทน ในฐานะประธานสภาที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายบริหารอีก" นายไพบูลย์ เสนอ


 


ประธานกรรมการศูนย์คุณธรรม กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลควรเจรจากับฝ่ายที่ประท้วง เพราะฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ออกมาเคลื่อนไหวประท้วงก็มีเหตุผลคล้ายกับกลุ่มผู้มาชุมนุมในกรณีต่างๆ ที่ต้องการให้นายกฯ รับข้อเสนอ ซึ่งที่ผ่านมานายกฯ ก็ไปร่วมพูดคุยและรับข้อเสนอตลอด ดังนั้นการรับข้อเสนอครั้งนี้ก็เหมือนกับการคุยกับกลุ่มม็อบเกษตร หรือกลุ่มม็อบปากมูล


 


เมื่อถามว่า สาเหตุหนึ่งที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกเป็นเพราะความไม่ชอบธรรมจากการขายหุ้นของบริษัทชินคอร์ปที่ไม่ต้องเสียภาษี ควรจะมีกระบวนการอย่างไรเพื่อทำให้กรณีดังกล่าวเกิดการแก้ไข นายไพบูลย์ กล่าวว่า ควรตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าวต้องปลอดจากการเมืองและเป็นอิสระจริงๆ เพื่อผลของการตรวจสอบจะได้ไขความกระจ่างให้กับทุกฝ่าย ซึ่งต้องใช้เวลาและนายกฯ เองจะต้องไม่กลัวการตรวจสอบ


 


รศ.ดร.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า แนวทางสันติวิธีจะเป็นแนวทางที่ทำให้ทุกฝ่ายสร้างความเข้าใจกันได้ ดังนั้นต้องมองทุกฝ่ายที่เกิดความขัดแย้งเป็นเหมือนญาติมิตรกันจึงควรหาทางอยู่ร่วมกันเพื่อลดความขัดแย้งที่จะเป็นสาเหตุแห่งความเกลียดชังที่เป็นบ่อเกิดแห่งความแตกแยกและความรุนแรง ซึ่งเชื่อว่าวิธีที่นำเสนอสามารถทำให้สังคมที่มีความสุขได้ และสังคมไทยมีคนที่มีความสามารถในการคิดค้นทางเลือกให้สังคมได้อยู่แล้ว ดังนั้นควรผลักดันให้แนวทางดังกล่าวได้รับการยอมรับเพื่อแก้ไขให้สังคมเกิดความสงบสุขต่อไป


 


........................................................... 



จาก เว็บไซต์คมชัดลึก,เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ


         


         

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net