ประชาไท—1 ก.พ. 2549 นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสภาตอบคำถามประชาชนในเว็บไซต์ www.meechaithailand.com ระบุ ยังไม่เห็นทางออกการเมืองไทย แต่ก็ไม่ควรใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 ในการแก้ปัญหา เพราะไม่วิกฤติถึงขนาดที่จะไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นในทางการเมือง ยังแตกแยกกันอยู่เช่นนี้ จึงต้องระมัดระวังมิให้ไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท เพราะทรงอยู่เหนือการเมือง

โดยนายมีชัยอธิบายความหมายของรัฐธรรมนูญมาตรา 7 ว่า ความหมายของผู้ร่างก็คงจะมุ่งหมายว่า ในกรณีที่รัฐธรรมนูญนี้ไม่ได้บัญญัติเรื่องใดไว้ แต่ในรัฐธรรมนูญเดิมๆ เคยบัญญัติไว้ว่าอย่างไร ก็ให้สามารถทำไปตามรัฐธรรมนูญเดิมๆ ได้ หรือในกรณีที่แม้ไม่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเดิมๆ แต่เป็นประเพณีที่เคยทำกันมา หรือยอมรับนับถือกันว่าเป็นการกระทำที่ชอบ ก็ให้ทำได้ ถ้าถามว่าแล้วเคยทำอะไรที่ไม่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แล้วถือว่าเป็นการชอบแล้วบ้าง ตัวอย่างที่พอนึกออก ก็คือ ในกรณีที่เกิดวิกฤติของบ้านเมืองอย่างร้ายแรง จนความสงบสุข ความปลอดภัย และความมั่นคงของประเทศ และประชาชนจะเสียหาย พระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทรงเป็นพระประมุข ก็อาจลงมาแก้ไขปัญหานั้น เพื่อให้ประเทศชาติและประชาชน กลับคืนสู่ความสงบได้ แต่การที่จะไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาทนั้น ต้องมีวิกฤติที่ถึงขนาดจริง ๆ และทุกฝ่ายหมดหนทางจะแก้ไขได้ตามกรอบที่มีอยู่

"สถานการณ์ในปัจจุบัน ยังเป็นเรื่องของการชิงไหวชิงพริบในทางการเมือง การโต้แย้งในทางการเมือง ซึ่งอาจยังไม่วิกฤติถึงขนาดที่จะไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นในทางการเมือง ยังแตกแยกกันอยู่เช่นนี้ จึงต้องระมัดระวังมิให้ไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท เพราะทรงอยู่เหนือการเมือง "นายมีชัยระบุ

เมื่อมีผู้ถามว่านายกรักษาการณ์ลาออก หรือ ถูกบังคับให้ออก มีผลต่อรัฐบาลรักษาการณ์อย่างไร นายมีชัยตอบคำถามนี้เมื่อวันที่ 27 ก.พ.ว่า รัฐบาลรักษาการก็ยังอยู่ โดยคณะรัฐมนตรี ก็ต้องมีมติให้รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง รักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ

นายมีชัยได้ตอบคำถามของผู้ที่แสดงความผิดหวังที่นายกฯ เลือกวิธีการยุบสภาว่า "เมื่อรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจยุบสภา ก็ย่อมต้องแปลว่าในท่ามกลางทางเลือกอันจำกัดนั้น รัฐบาลคิดไตร่ตรองแล้วว่า ทางเลือกนี้ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของรัฐบาล และเมื่อเลือกทางนี้รัฐบาลก็ต้องคิดว่าเป็นผลดีต่อรัฐบาล เป็นของธรรมดา คนเก่งที่ไม่สุจริตนั้น ย่อมเป็นอันตราย ถ้ายิ่งมีอำนาจด้วยก็ยิ่งอันตรายมากยิ่งขึ้น และถ้ายิ่งมีเงินมากมาย ก็ยิ่งอันตรายเป็นทวีคูณ เพราะคนเก่งย่อมมีขีดความสามารถในการทำอะไรให้ไร้ร่องรอย แม้ในที่สุดจะจับได้ไล่ทัน แต่ก็ต้องใช้เวลายาวนาน และผลเสียหายที่เกิดขึ้น ก็จะกระจายวงกว้าง กว่าจะเยียวยาได้ ก็ต้องเดือดร้อนกันไปทั่วหน้า เหมือนตำรวจที่พฤติกรรมเป็นโจร แม้จะจับได้ในที่สุด แต่ก็คงต้องใช้เวลานานและสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนเคราะห์ร้ายได้มากมาย

"สิ่งที่คุณอยากเห็นนั้น คนสุจริตทั่วไปก็คงอยากเห็นเช่นเดียวกัน แต่คงเป็นไปได้ยาก เพราะฝืนธรรมชาติของมนุษย์ และยิ่งด้วยอารมณ์ของสังคมในปัจจุบัน ย่อมไม่มีทางที่ใครจะไว้วางใจใคร คนที่รักและเห็นดีเห็นงามด้วยนั้น แม้จะไม่ผ่านกระบวนการอย่างที่คุณอยากเห็น เขาก็เชื่อและไว้วางใจ และถึงแม้จะผ่านกระบวนการดังกล่าว และผู้ถูกกล่าวหาถูกวินิจฉัยว่าผิด เขาก็จะยังเชื่อว่า ถูกกลั่นแกล้ง ส่วนคนที่ไม่รักไม่ไว้วางใจนั้น ถึงไม่ผ่านกระบวนการนั้น เขาก็ปักใจเชื่อเสียแล้ว และหากเมื่อผ่านกระบวนการนั้นแล้ว ถูกวินิจฉัยว่าไม่ได้กระทำผิด เขาก็ไม่เชื่อ แถมยังจะกล่าวหาเพิ่มเติมว่าองค์กรอิสระถูกซื้อตัวไปแล้ว

"รวมความว่า ในท่ามกลางอารมณ์อันแปรปรวนของสังคม อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จะคิดอ่านทำอะไรก็ลำบาก อย่าถามว่าแล้วใครเป็นคนสร้างอารมณ์เช่นนั้น ให้เกิดขึ้นแก่สังคม เพราะขึ้นอยู่กับว่าไปถามใคร คำตอบที่ได้รับจะตรงกันข้าม ในระหว่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ก็คงต้องหันเข้าหาหลักคำสอนของพระพุทธองค์ ที่บอกว่า ผลใด ๆ ย่อมเกิดจากเหตุ ถ้าปัจจัยอันเป็นต้นเหตุ เป็นความสุจริตและดีงาม ผลที่ได้รับย่อมเป็นเรื่องดีงาม มีแต่ความสุขสงบและร่มเย็น หากปัจจัยอันเป็นต้นเหตุ เป็นเรื่องไม่สุจริต และไม่ดีงาม ผลที่ได้รับย่อมเป็นเรื่องเลวร้าย มีแต่ความทุกข์และเร่าร้อน ส่วนจะเลวร้ายและรุ่มร้อนเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับความหนักเบาแห่งเหตุอันเป็นปัจจัย"

คำตอบจากนายมีชัย ซึ่งไม่สนับสนุนให้ใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 7 นั้นเป็นคำตอบไปในทางเดียวกับนายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ ว่าบ้านเมืองขณะนี้ยังไม่อยู่ในภาวะวิกฤติถึงขนาดที่ต้องใช้มาตรา 7

ทั้งนี้ นายวิษณุ เครืองาม รักษาการรองนายกรัฐมนตรีก็ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในแนวทางเดียวกันโดย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรา 7 ว่า หากมีมาตราอื่น ๆที่ใช้บังคับได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะไปหยิบมาตรา 7 มาใช้

นายวิษณุกล่าวตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยว่า หากรักษาการนายกรัฐมนตรีลาออก ก็จะต้องมีการแต่งตั้งรักษาการรองนายกฯ ขึ้นมาทำหน้าที่นายกรักษาการ แทน

โดยนายวิษณุได้ยกตัวอย่าง ในช่วงที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกฯ ลาออก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่เป็นรองนายกฯ คนที่ 1 ก็รักษาการแทน และก็เป็นผู้ยุบสภา โดยทำหนังสือแจ้งว่าไม่ประสงค์จะรักษาการ