บีบีซี-- 21 ม.ค. 2549 แม้ว่าผลการศึกษาจากคณะกรรมาธิการติดตามข้อเท็จจริงที่ออกมาอาจส่งผลสะเทือนให้เกิดกับรัฐบาลอินโดนีเซียได้แต่ ซานานา กุสเมา ประธานาธิบดีติมอร์ตะวันออกจำเป็นที่จะส่งรายงานงานนี้ให้แก่องค์กรสหประชาชาติในวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวเป็นการสืบค้นข้อมูลคณะกรรมาธิการเพื่อการยอมรับ, ความจริง, และการปรองดองของชาวติมอร์ตะวันออกถึงการกระทำของกองทัพอินโดนีเซียที่ปฎิบัติต่อชาวติมอร์ ตะวันออก ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่อินโดนีเซียยึดครองติมอร์
ผลการศึกษาในดังกล่าวนี้ อาจสร้างความอับอายให้กับรัฐบาลอินโดนีเซียและยังเป็นปลุกกระแสการถกเถียงในประเด็นนี้ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ประธานาธิบดี ซานานา กุสเมา กล่าวว่า ติมอร์ตะวันออกจำเป็นที่จะต้องสร้างความสัมพันธ์ในการทำงานที่เป็นบวกกับประเทศเพื่อนบ้านที่ใหญ่กว่า
คณะกรรมาธิการเพื่อการยอมรับ เพื่อความจริง และเพื่อการปรองดองของชาวติมอร์ตะวันออกตั้งขึ้นมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากองค์ผู้บริจาคนานาชาติ ได้ทำการสืบค้นลงไปถึงการปฎิบัติต่อชาวติมอร์ ตะวันออก ในช่วงระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียเข้าปกครอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนยุติเป็นเวลาเกือบ 1 ใน 4 ศตวรรษ โดยมีรายออกมาเป็นความยาวถึง 2,500หน้า
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีติมอร์ ตะวันออกได้รับรายงานฉบับนี้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแต่ไม่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ทว่า ในปีนี้ เขากำลังจะนำไปยื่นให้กับองค์การสหประชาชาติ ( UN) ตามเงื่อนไขทางกฎหมายติมอร์ตะวันออก และสัญญาว่าจะเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้ต่อจากนั้น
หนังสือพิมพ์ออสเตรเลียซึ่งอ้างว่าได้เห็นรายงานนั้นแล้ว รายงานว่า ในรายละเอียดนั้นระบุว่ามีชาวอีสต์ ติมอร์ต้องตายไปนับแสนคน โดยส่วนใหญ่ต้องตายไปเพราะความอดยากหิวโหย และเจ็บป่วยอันเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลอินโดนีเซีย
นอกจากนั้นในเอกสารยังกล่าวว่ามีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พลเรือน และมีการกระทำชั่วร้ายอื่นๆอีก และเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบในการกระทำเหล่านั้น
ทั้งหมดนี้อาจจะส่งผลให้เกิดความตึงเครียดครั้งใหม่ในปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างอินโดนีเซีย กับติมอร์ตะวันออกได้ และสามารถที่จะสร้างความอับอายให้กับรัฐบาลทั้งสอง ที่ประสงค์ที่จะลืมอดีตไป
ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ ประธานาธิบดี กุสเมาได้เรียกร้องให้ชาวติมอร์ ตะวันออก เคลื่อนไหวในเรื่องการสร้างความปรองดองในชาติและไม่กระทำการแก้แค้น
เขาเคยแย้งว่าในฐานะของดินแดนเล็กๆที่ถูกครอบงำโดยประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นยักษ์ใหญ่ ติมอร์ตะวันออกจำเป็นต้องมีการเชื่อมโยงการทำงานที่ดีกับอินโดนีเซีย แต่คนอื่นๆต่างรู้สึกผิดหวังว่า ความพยายามต่างๆนานาที่ดำเนินมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันเพื่อให้มีการดำเนิคดีกับผู้ที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบในการทำร้ายชาวชาวติมอร์ ตะวันออก นั้นยังคงไม่คืบหน้าไปไหน
นักวิจารณ์ในเรื่องของวิธีการทำงานของรัฐบาลกล่าวว่า ติมอร์ ตะวันออก จำเป็นจะต้องได้เห็นความเป็นยุติธรรมเสียก่อนที่จะสามารถลืมอดีตได้อย่างสนิทใจ
----------------------------------
http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/asia-pacific/4630122.stm
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)