Skip to main content
sharethis


 



 


ประชาไท- 2 พ.ย.2548 ที่ห้องประชุม โรงแรมนครพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตัวแทนกลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้มีการตรวจสอบการดำเนินงานโครงการเชียงใหม่เวิลด์ของรัฐ พร้อมจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเปิดเวทีสาธารณะชี้แจงประชาชนโดยเร็ว  


 


ศ.เฉลิมพล แซมเพชร ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากมีโครงการรัฐต่างๆ จำนวนมากกว่า 14 โครงการที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งทุกคนวิตกกังวลกันเป็นอย่างมากต่อแนวทางการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งภาคประชาชนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วม และไม่ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงการทั้งหมด โดยเฉพาะโครงการเชียงใหม่เวิลด์ ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งขึ้นบริเวณเชิงดอยสุเทพ แต่จนบัดนี้ ประชาชนชาวเชียงใหม่ยังไม่เคยทราบรายละเอียดการดำเนินการที่แท้จริง มีเพียงข่าวบางชิ้นผ่านสื่อมวลชน ซึ่งไม่มีรายละเอียด ก่อให้เกิดความกังวลกันอย่างยิ่ง


 


"ดังนั้น ทางภาคีคนฮักเจียงใหม่ จึงขอให้ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ตรวจสอบกรณีโครงการพัฒนาเมืองเชียงใหม่ที่รัฐกำลังจะดำเนินการ ไม่ว่า โครงการเชียงใหม่เวิลด์ โครงการเกี่ยวกับการจัดการต่อปัญหาน้ำท่วม การขยายรันเวย์สนามบินเชียงใหม่ รวมไปถึงโครงการตามแนวคิดที่จะให้เชียงใหม่เป็นนครแห่งชีวิตและความมั่งคั่ง และขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้เร่งจัดเวทีสาธารณะเพื่อชี้แจงรายละเอียดต่อสาธารณชนโดยเร็ว" ศ.เฉลิมพล กล่าว


 


ในขณะที่นางชมพูนุท โทสินธิติ นักธุรกิจ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับโครงการทั้งหลาย หลังจากได้ยินข่าวแล้ว รู้สึกตกใจ เพราะคิดว่าคงส่งผลกระทบอย่างหนัก และผลกระทบครั้งนี้ มันไม่ได้มาจ่อเพียงแค่ประตูบ้าน แต่มันได้จ่อเข้ามาถึงห้องนอนของคนเชียงใหม่กันเลย ที่เห็นได้ชัดเจนอย่างแรก ก็คือ การเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเมืองเชียงใหม่หลายระลอกที่ผ่านมา ล้วนเกิดจากการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ไปกีดขวางทางน้ำ ซึ่งหนึ่งในโครงการที่รัฐในขณะนี้ก็คือ จะมีการสร้างถนนตัดผ่านจากด้านหลังกองพันสัตว์ต่าง วกมาทางเชิงดอยสุเทพ ไปยังเขต ต.แม่เหียะ แน่นอนว่า โครงการดังกล่าวจะต้องส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของทางระบายน้ำ และจะต้องเกิดปัญหาน้ำท่วมตามมาย่างแน่นอน


 


"ดังนั้น จึงขอให้มีการทบทวนโครงการต่างๆ อย่างรอบคอบ และขอให้ใช้มาตรฐานเดียวกับกรณีการสร้างรถไฟไฟฟ้าบีทีเอส ที่ทางรัฐบาลเสนอให้ นายอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ให้มีการศึกษา EIA ว่าความเป็นได้หรือความคุ้มค่าหรือไม่อย่างไร แต่โครงการในเชียงใหม่ กลับไม่ได้มีการศึกษาในเรื่องเหล่านี้เลย อยากทำอะไรก็ตัดสินใจกันเองหมด ในนามของตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ จึงขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของประเทศได้ใช้บรรทัดฐานเดียวกันด้วย


 


ด้าน พ.ญ.กนกวรรณ อุโฆษกิจ อาจารย์พิเศษ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าวว่า โครงการต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น มันไม่ใช่เป็นอย่างที่รัฐกำลังพูด เพราะที่เขาอ้างว่า เพื่อเป็นการท่องเที่ยว แต่อยากจะบอกว่า นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เขาไม่ได้อยากมาเที่ยวโครงการเชียงใหม่เวิลด์ แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เขาต้องการมาเที่ยวชมธรรมชาติ ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ไม่มีสารเคมี ไม่มีอะไรที่แปลกปลอม


 


แต่โครงการท่องเที่ยวต่างๆ ที่รัฐกำลังทำอยู่ขณะนี้ เป็นการส่งเสริมทางด้านวัตถุ ให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนไทยต้องมาจ่ายเงินแพงๆ เป็นส่งเสริมให้เกิดภาวะหนี้สินเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น ก็จะเกิดผลกระทบอื่นๆ ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่น การนำสัตว์ต่างๆ เข้ามาโชว์ในสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ก็อาจส่งผลต่อการเกิดโรคระบาด โดยเฉพาะไข้หวัดนกที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วในขณะนี้ได้


 


"เพราะฉะนั้น เราจะหวังอะไรมากมายจากการท่องเที่ยว อีกทั้ง ยังเป็นการนำเงินภาษีงบประมาณของประชาชนทั่วประเทศไปลงทุนในโครงการเหล่านี้ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะต้องขาดทุน มันถูกต้องหรือไม่ และที่สำคัญ ประชาชนทั่วไปไม่ได้รับรู้ข้อมูลโครงการทั้งหมดเลย ดังนั้น ในนามของตัวแทนของภาคีคนฮักเจียงใหม่ จึงขอมีส่วนร่วมที่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และขอมีส่วนร่วมตัดสินใจกันเองบ้าง เพราะว่าบ้านเมืองเราเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่หรือ" พ.ญ.กนกวรรณ กล่าว


 


ทางด้าน นายสืบสวัสดิ์ สนิทวงศ์ ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่อีกคนหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนหน้านั้น รัฐบาลได้ออกมาแถลงว่า จะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง แต่จริงแล้วไม่ใช่ จะเห็นว่า รัฐจะทำอะไรก็มักจะปกปิดซ่อนเร้นอยู่ตลอดเวลา และมีผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังในแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะพวกพ้องเดียวกัน เมื่อมีโครงการ ก็จะมีบริษัทรับเหมาในกลุ่มพวกเดียวกันชงขึ้นมา ถ้าทำได้ก็ลงมือทำทันที โดยไม่ได้คำนึงประชาชนจะได้ประโยชน์หรือได้รับผลกระทบหรือไม่


 


"ถ้ามองดูรัฐบาลชุดนี้ ถือว่ายิ่งกว่ารัฐบาลเผด็จการสมัยจอมพลสฤษดิ์ด้วยซ้ำ เพราะว่าตอนนี้เขากำลังครอบงำไปแล้วทั้งประเทศไทย โดยอาศัยข้ออ้างของกฎหมายที่มีช่องโหว่ทำให้สามารถยึดประเทศได้ เพราะฉะนั้น ในส่วนของภาคีคนฮักเจียงใหม่ จึงพยายามที่จะทำอย่างไร จึงจะขยายข้อมูลความรู้ที่มีอยู่ ให้ประชาชนทั่วไปได้รู้ทันให้มากยิ่งขึ้น เผื่อว่าจะมีปฏิหารย์เกิดขึ้นได้" นายสืบสวัสดิ์ กล่าว


 


ด้าน นายวสันต์ พานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสช.) กล่าวภายหลังจากรับหนังสือร้องเรียนว่า ในส่วนของ กสช. จะนำเรื่องนี้ไปประชุมหารือกับคณะ หลังจากนั้น ก็จะได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่างๆ เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานโครงการทั้งหมดต่อไป


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net