ประชาไท- 25 ส.ค. 48      "หลังจับกุมผู้ต้องหา  จับไว้ 7 วันเขาไม่ยอมรับ  และได้ขอหมายศาลอีก  จากความยากในการสอบสวนของภาคใต้มีมากกว่าที่อื่น  เพราะมีระบบการสาบานกับพระเจ้า  เขามั่นใจว่าไม่มีพยาน  เราสอบสวนอยู่ทั้งหมด 21 วันจึงยอมสารภาพว่าใครฆ่าตัดคอตำรวจ  นั่นแสดงถึง พ.ร.ก. ใช้ได้ผลแล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการอภิปรายยกตัวอย่างกรณีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จ.ยะลา

ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรได้เปิดอภิปรายลงมติ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โดยในช่วง 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ได้เข้ามาร่วมประชุมและวิพากษ์วิจารณ์การอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านในวันนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า  ต้องการเรียกร้องความสามัคคี โดยรัฐบาลกำลังหาแนวทางทุกอย่างแต่มันไม่ง่ายอย่างที่พูด ซึ่งถ้าทำจริงมันซับซ้อนมาก  และตอนนี้พี่น้อง 3 จังหวัดภาคใต้ก็มีความสมดุลแล้วจากการที่มีส.ส.ฝ่ายค้านอยู่ในพื้นที่โดยให้รัฐบาลทำงาน  จึงน่าจะเป็นหนทางที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อประเทศ  แต่ถ้าพูดมากไม่สร้างสรรค์ ก็เหมือนใช้สภาเป็นเวที  โดยอยากเรียกร้องว่าถ้าเป็นเรื่องอื่นฟัดกันให้เต็มที่  แต่เรื่องนี้ต้องขอเพราะเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติ

"ผมทำทุกอย่างเพื่อช่วยพี่น้องประชาชน  ไม่ใช่การพูดเอามันปากเอาอารมณ์เป็นตัวตั้ง  ผมขอให้พูดด้วยสติ  สำนึกถึงความเป็นชาติบ้าง  อะไรที่เป็นหนทางสันติสุขบอกมาเลยอะไรก็ได้  ผมห่วงคนหาเช้ากินค่ำและผมก็เข้าใจศาสนาพอสมควร  เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความเรียบง่าย และ พ.ร.ก.นี้ไม่ได้ทำเพื่ออารมณ์หรือเพื่อตัวผมเองแต่ พ.ร.ก.นี้เป็นประโยชน์จริงๆ" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

ทั้งนี้  นายกรัฐมนตรี  กล่าวอีกว่า การลงพื้นที่ไม่ได้ไปสร้างภาพ  แต่ไปเพื่อเก็บข้อมูล  โดยไม่ต้องเป็นห่วงด้านความปลอดภัยเพราะเป็นนายกต้องห่วงใยประชาชน  และต้องไปได้ทุกที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลมาแก้ปัญหาได้  และอยากคุยกับนักการเมืองฝ่ายค้านที่ภาคใต้  แต่ยังไม่มีโอกาส  เพราะหัวใจสำคัญคือการนึกถึงส่วนรวม เพื่อสร้างสรรค์บ้านเมืองให้ได้ประโยชน์  จึงจำเป็นต้องหันหน้าเข้าหากัน 

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท. ทักษิณ  กล่าวอีกว่า  ได้ยินข่าวแต่กรือเซะ  ตากใบ  ทนายสมชาย  แต่สังคมไม่เคยคิดถึงข้าราชการที่ถูกฆ่า  ปล้นโรงพัก  ปล้นอำเภอ  สังคมไม่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้ อีกทั้งบางคนวิจารณ์พ.ร.ก. โดยไม่ได้อ่าน  ทั้งๆ ที่ พ.ร.ก.นี้ตั้งใจใช้แทนกฎอัยการศึก  เพราะเห็นว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยใช้กฎอัยการศึกแล้วดูไม่ดี  ก็มี พ.ร.ก.มาใช้แทน 

"เรื่องของบ้านเมืองเราสู้ทั้งกายและใจ 377 เสียงในสภา  มีสมอง  สติปัญญา  ต้องพูดให้เข้าใจ  ท่านพูดเราก็ฟัง  แต่หลายท่านไม่รู้จะพูดยังไง  ก็ต้องขอขอบคุณทั้ง 2 ฝ่ายที่ให้คำแนะนำที่ดี"  นายกรัฐมนตรี  กล่าว

นอกจากนี้  นายกรัฐมนตรียังได้เชิญส.ส.และส.ว. ใน 3 จังหวัดภาคใต้มาตั้งวงคุยกัน  เพราะอยากได้ข้อมูลรวมเพื่อให้ได้รู้ในแต่ละมุมมองที่แตกต่างกันอีกด้วย