Skip to main content
sharethis

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2548 ซึ่งเป็นวันศุกร์ ในเขตเทศบาลนครยะลา ประชาชนต่างพากันปิดบ้านและร้านค้ากันเป็นแถว หลังจากมีแผ่นปลิวข่มขู่ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ห้ามทำงานหรือทำการค้าขายในวันศุกร์ หากไม่เชื่อฟังจะถูกตัดหู ทำให้เกิดบรรยากาศเงียบเหงาผิดปกติ โดยเฉพาะร้านอาหารไม่มีใครกล้าเปิดขาย จึงมีลักษณะเป็นเมืองร้าง ส่วนปั๊มน้ำมันก็ปิดบริการเช่นกัน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนประชาชนมาก ส่วนรอบนอกเขตตัวเมืองยะลา พบว่า ประชาชนต่างก็ปิดบ้านและร้านค้าจำนวนมากเช่นกัน บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปอย่างเงียบเหงา

 

 


ส่วนที่จังหวัดปัตตานี ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดเช่นกัน และประชาชนไม่กล้าไปจับจ่ายซื้อของด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีใบปลิวข่มขู่ทั่วพื้นที่ต่อเนื่องมากว่า 1 เดือนแล้ว เช่นที่ตลาดนัดเทศบาลตำบลยะหริ่ง อำเภอยะหริ่ง มีพ่อค้าไม่ถึง 20 ราย เช่นเดียวกับตลาดนัดเทศบาลตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก ซึ่งอยู่ห่างจากค่ายอิงคยุทธบริหารเพียง 300 เมตร ก็มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายผักและผลไม้ไม่ถึง 20 ราย ท่านั้น ส่วนผู้ที่มาจับจ่ายซื้อของยิ่งน้อยลงไปด้วย

 

 


อย่างไรก็ตาม ในจังหวัดยะลา มีหน่วยกำลังทหาร ตำรวจ และฝ่ายพลเรือนของ กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดยะลา ออกไปพบปะสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในย่านต่างๆ ว่า อย่าวิตก กับข่าวลือของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และให้ประชาชนดำเนินชีวิตไปตามปกติ เพราะผู้นำศาสนาได้ออกมาแถลงแล้วว่า การประกอบอาชีพในวันศุกร์ไม่ขัดหลักศาสนาอิสลาม มีรายงานว่า ผู้ประกอบการเดินรถแท็กซี่และรถตู้ปรับอากาศ สายยะลา - เบตง บางสายได้หยุดเดินรถ

 

 


นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เปิดเผยว่า ทางจังหวัดได้ออกประกาศให้รางวัลนำจับผู้เผยแพร่ใบปลิวดังกล่าวแล้ว หากประชาชนแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจัดกุมได้ จะให้เงินรางวัลหัวละ 1 หมื่นบาท โดยจะไม่เปิดเผยข้อมูลผู้แจ้ง

 

 


นายเชิดพันธ์ กล่าวอีกว่า ร้านค้าใดที่รู้สึกไม่ปลอดภัย ให้แจ้งมายังศูนย์รับเรื่องของจังหวัดปัตตานี หมายเลขโทรศัพท์ 1881 หรือ 073-345000  เพื่อให้ตำรวจ ทหารและ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ไปดูแลทันที นอกจากนี้จะร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี และโต๊ะอิหม่ามทุกมัสยิด เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนทุกพื้นที่แล้วว่า การค้าขายในวันศุกร์ไม่ผิดหลักศาสนา

 

 


ด้านนายนิเดร์ วาบา รองประธานกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยและตัวแทนจุฬาราชมนตรี กล่าวถึงข่าวลือห้ามทำงานในวันศุกร์ว่า ศาสนาอิสลามไม่ได้มีบทบัญญัติระบุไว้ในคัมภีร์อัลกุรอาน จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารญาณก่อนที่จะหลงเชื่อ ขณะนี้ผู้นำศาสนาทุกคนได้ช่วยกันสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว  

 

 

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net