ประชาไท - 12 ธ.ค.2549 หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า พบเบาะแสของ นายมะแซ อุเซ็ง ผู้ต้องสงสัยว่าก่อความไม่สงบ ได้เข้ามาในพื้นที่บ้านบริจ๊ะ หมู่ 7 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และเรียกประชุมแกนนำในแต่ละพื้นที่ประมาณ 6 คน โดยให้แกนนำแต่ละพื้นที่นำเงินที่ได้รับมอบ นำไปให้แก่กลุ่มแนวร่วมเพื่อเป็นค่าจ้างในการก่อเหตุในวันที่ 27 ธ.ค.49 และวันที่ 3 ม.ค.50

หน่วยข่าวด้านความมั่นคง ยังได้รับรายงานอีกว่า กลุ่มของนายมะแอ อภิบาลแบ แกนนำกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีค่าหัว 2,000,000 บาท และเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการในพื้นที่ อ.บันนังสตา ธารโต และ เบตง จ.ยะลา กับพวกได้หลบซ่อนตัวอยู่ตามบ้านแนวร่วมในพื้นที่ ต.เชิงคีรี อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่เขตรอยต่อกับ อ.บันนังสตา และพื้นที่ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรอแนวร่วมที่จะเดินทางเข้ามาสมทบจากประเทศมาเลเซียเพื่อเตรียมก่อเหตุใหญ่ในห้วงวันเวลาดังกล่าวพร้อมกันหลายจุด

นอกจากนี้ มีรายงานว่า อุสตาซ โซ๊ะ หรือนายอิสมาแอล ระยะหลง ครูสอนศาสนาที่เป็นแกนนำในการปลุกระดมกลุ่มวัยรุ่น ชวนเชื่อให้หลงผิดในเรื่องการบิดเบือนคำสอนของศาสนาอิสลามและยุยงปลุกปั่นให้ออกมาร่วมก่อเหตุ ขณะนี้หลบหนีไปอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเขตรัฐโกตาบารู ประเทศมาเลเซีย และกำลังปลุกระดมและฝึกอาวุธให้กลุ่มวัยรุ่นหัวรุนแรงกว่า 100 คนที่เข้าร่วมขบวนการแล้ว โดยมีบางส่วนที่ได้รับการฝึกเสร็จแล้วได้ลักลอบเข้ามาทางชายแดนด้าน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ก่อนกระจายกันหลบซ่อนตัวใน 3 จังหวัดชายแดนใต้เพื่อเตรียมการก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ก่อน ม.ค.50 ซึ่งเป็นเดือนที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากและเมื่อก่อเหตุร้ายแล้วจะมีผลกระทบมากในหลายๆ ด้าน

ส่วนความคืบหน้าในการสืบสวนคดีลอบวางระเบิด 2 จุด บนถนนสายฮูลูปาเร๊ะ-ตันหยงลิมอ ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา ร.อ.นินนาท นินภูผา รอง ผบ.ฉก.34 อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส นำกำลังสนธิตำรวจ สภ.อ.ระแงะ และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่เป้าหมายพื้นที่บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ หมู่ที่ 2 ต.กาลีซา หลังรับแจ้งมีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว หลังจากใช้เวลาตรวจสอบนานกว่า 4 ชั่วโมง สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 ราย เป็นชายอายุ 30 ปี มีรายชื่ออยู่ในแฟ้มประวัติที่ทางการต้องการตัว จึงส่งตัวไปสอบขยายผลที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี

ด้าน พ.ต.อ.จีรวัฒน์ อุดมสุด ผกก.สภ.อ.เมืองสงขลา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันปัญหาความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ มีการตั้งจุดตรวจสกัดตลอด 24 ชั่วโมง และให้ผู้ประกอบการมาร่วมดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ โดยอบรมความรู้เบื้องต้นทางด้านวัตถุระเบิด วัตถุต้องสงสัย เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันสอดส่องดูแลความสงบเรียบร้อย เชื่อว่าทุกมาตรการที่ดำเนินการจะสามารถป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้