Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 8 ธ.ค. 49       ในเวทีสัมมนาวิชาการ "ชายแดนใต้หลังรัฐบาลใหม่ อะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ" เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ณ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจัดโดยความร่วมมือระหว่างสถาบันข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ศูนย์เฝ้าระวังเชิงองค์ความรู้สถานการณ์ภาคใต้(www.deepsouthwatch.org) ศูนย์ข่าวสารสันติภาพ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมูลนิธิสาธารณะสุขแห่งชาติ


 


เวทีวิชาการครั้งนี้มีการพูดถึงความเห็นใจต่อเหยื่อจากความรุนแรงใน 3 จังหวัดภาคใต้และมีการถกถึงประเด็นการ "ขอโทษ" ของพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ที่พูดแทนรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลายครั้ง โดยมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณมาร่วมฟังอย่างเกาะติด ทำให้นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความนักสิทธิมนุษยชนที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐ "อุ้ม" ด้วยสาเหตุที่คาดว่าน่าจะมาจากการเป็นทนายความให้จำเลยในคดีที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ 3 จังหวัดภาคใต้ ต้องออกมาตั้งคำถามว่า มีการพูดถึงความเห็นใจมากมายแต่ไม่เห็นมีใครให้ความยุติธรรม พร้อมทั้งถามอีกว่า ตัวแทนของรัฐบาลก่อนได้ขอโทษประชาชนต่อเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดภาคใต้แล้วหรือยัง เพราะมันไม่มีประโยชน์ถ้าจะให้ใครมาพูดอะไรแทน


 


นายจาตุรนต์ จึงได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า ตอนที่พล.อ.สุรยุทธ์ ขอโทษต่อประชาชนในกรณี 3 จังหวัดภาคใต้นั้นได้แสดงความเห็นไปแล้วว่าเป็นสิ่งดี เพราะรัฐบาลที่แล้วได้ทำในบางส่วนผิดพลาด การที่รัฐบาลขอโทษแทนรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้เป็นสิ่งที่ควรทำและเป็นประโยชน์


 


อย่างไรก็ตาม นายจาตุรนต์ ยืนยันว่า หากจะขอโทษแทนรัฐบาลก่อนไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีน้ำหนัก


 


"ผมจะขอโทษแทนก็ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ได้ชี้แจงในที่ผ่านมา ถ้าจะให้ขอโทษในนามพรรคก็รอให้มีคณะกรรมการที่ชัดเจน แต่ผมไม่สามารถเป็นตัวแทนรัฐบาลก่อนได้ และผมได้แสดงความเห็นที่ต่างไปในรัฐบาลก่อนหลายครั้ง" อดีตรัฐมนตรีกล่าว


 


จากนั้น นายจาตุรนต์ได้แสดงความเห็นต่อสถานการณ์ภาคใต้ว่า ปัญหาภาคใต้เป็นเรื่องใหญ่ แม้จะต้องสู้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) รวมทั้งสู้เรื่องประชาธิปไตย แต่จะขอยกเว้นในเรื่องภาคใต้ ถ้ามีเวทีที่ไหนก็พร้อมจะเข้าร่วมเพราะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก แต่สังคมไม่เข้าใจ ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่ไม่เข้าใจและไม่เข้าใจมาตลอด ปัจจุบันก็ไม่เข้าใจอยู่ดี


 


นาจาตุรนต์กล่าวอีกว่า หลายคนพูดว่าเมื่อมีรัฐบาลใหม่ มีกฎอัยการศึกที่ขยายตัวคิดว่าจะปราบผู้ก่อการในพื้นที่ให้สิ้นไปได้ แสดงว่าไม่ได้เข้าใจปัญหาพื้นฐาน ดังนั้นสังคมไทยและผู้มีอำนาจต้องอาศัยปัญญาชนในการทำความเข้าใจ หากจะพูดโดยสรุปคือ สังคมไทยจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างสังคมใหญ่คือคนไทยส่วนใหญ่กับสังคมเล็กซึ่งก็คือใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่มีความแตกต่างอย่างยิ่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้โดยที่สังคมเล็กก็รู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าของไม่เพียง 3 จังหวัดเท่านั้น แต่เป็นเจ้าของทั้งประเทศ


 


การรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่จริงจะทำให้เขาเปลี่ยนแปลงปัญหาได้ เพราะเขามีสิทธิมีเสียงจริงๆ และประชาชนใน 3 จังหวัดเองจะเป็นกำลังสำคัญในการแก้ปัญหา


 


อดีตรัฐมนตรีย้ำด้วยว่าต้องทำความเข้าใจตรงนี้ให้ชัดเพื่อให้สามารถกำหนดเป็นนโยบายที่ชัดเจนได้ หากไม่จัดความสัมพันธ์และทำความเข้าใจปัญหานี้ก็จะทำให้ปัญหาขยายตัวอย่างต่อเนื่อง


 


"แม้ตอนนี้จะมีทิศทางที่ดีแต่ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจน และไม่มีการสื่อสารให้ทำความเข้าใจกับนโยบายใหม่ที่เกิด ขอโทษแปลว่าอะไร จะไม่ปราบใช่หรือไม่ จากนี้จะสมานฉันท์ใช่หรือไม่ ตอนนี้สังคมยังไม่เข้าใจ"


 


นายจาตุรนต์ยังทิ้งท้ายไว้ว่า พูดไปอย่างนี้ คมช.คงมีคนเข้าใจไม่กี่คนหรือคนเดียว ส่วนรัฐบาลก็ไม่แน่ว่าจะเข้าใจ พยายามพูดว่าต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนและต้องต่อสู้ทางความคิด แต่เวลาพูดแบบนี้สื่อก็ไม่เสนอให้เหมือนกัน เพราะสื่อก็ไม่เข้าใจและยังทำข่าวการเมืองแบบตามปกติ


 


"ถ้าไม่รีบแก้ต่อไปปัญหาจะใหญ่โตกว่านี้ ที่พูดไม่ได้ต้องการสมน้ำหน้าถ้ามันเกิดขึ้นจริง แต่พูดด้วยความเป็นห่วงจริงๆและไม่ใช่การหวังผลทางการเมือง" อดีตรัฐมนตรีกล่าว  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net