Skip to main content
sharethis

สปสช. จัดกิจกรรมอบรมค่ายเรียนรู้หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า “UHC YOUNG CAMP 2024” ระดมเด็กนักเรียนมัธยมปลายกว่า 170 คน จากโรงเรียน 30 แห่งทั่วประเทศ ร่วมเรียนรู้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ณ โรงเรียนชุมแพศึกษา จ.ขอนแก่น

 

13 พ.ค.2567 ทีมสื่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)รายงานต่อสื่อมวลชนว่า  สปสช. ร่วมกับ มูลนิธิครอบครัวพอเพียง จัดกิจกรรมอบรมค่ายเรียนรู้หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปี 2567 หรือ “UHC YOUNG CAMP 2024” ระดับประเทศ ณ โรงเรียนชุมแพศึกษา อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนนักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4-6 เข้าร่วม 170 คน จากโรงเรียนทั่วประเทศ 30 แห่ง

ภก.ณรงค์ อาสายุทธ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเขต 7 ขอนแก่น กล่าวว่า การจัดค่ายอบรมครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนการรับรู้เรื่องสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เนื่องจากกลุ่มเด็กนักเรียนเป็นกลุ่มมีอิทธิพลต่อทั้งเพื่อน ครอบครัว และชุมชน เป้าหมายของ สปสช. จึงอยากให้เด็กเหล่านี้ ได้รับทราบเรื่องสิทธิและหน้าที่เกี่ยวกับระบบหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้สามารถดูแลตัวเอง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ถ่ายทอดความรู้ไปยังครอบครัวหรือเพื่อนในการใช้สิทธิเข้ารับบริการได้ ขณะเดียวกันเด็กกลุ่มนี้เมื่อเติบโตขึ้นก็จะเข้าสู่การเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งก็จะมีส่วนหนึ่งที่สนใจศึกษาต่อในสาขาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและจะได้นำองค์ความรู้จากการอบรมครั้งนี้ไปต่อยอดได้

"ครั้งนี้เราจัดกิจกรรมในภาคอีสาน และในปีถัดไปก็จะหมุนเวียนไปจัดในภูมิภาคต่างๆ และต้องขอขอบคุณโรงเรียนชุมแพศึกษาในการสนับสนุนสถานที่ที่มีความสะดวกปลอดภัย สร้างความมั่นใจแก่ผู้ปกครองเป็นอย่างดี" ผอ.สปสช.เขต 7 ขอนแก่น  กล่าว

นิภาพรรณ สุขศิริ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กลุ่มภารกิจสื่อสารหลักประกันสุขภาพ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สปสช. เริ่มจัดกิจกรรม UHC YOUNG CAMP มาตั้งแต่ปี 2556 โดยมองว่าเด็กๆ ชอบความสนุกสนาน อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเป็นช่วงวัยที่จดจำสิ่งดีๆ ดังนั้นจึงอยากให้รู้จักว่า มี สปสช. หน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลเรื่องหลักประกันสุขภาพให้กับคนไทยทุกคนและเกิดความประทับใจ ภูมิใจที่ไทยเป็นประเทศที่มีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ตลอดจนรู้จักขั้นตอนการใช้สิทธิ รู้จักเรื่องหน่วยบริการในแต่ละระดับ และกลไกสำคัญอีกประการคือครู ซึ่งบางคนไม่เคยรู้เรื่องระบบหลักประกันสุขภาพเลย แต่เมื่อรู้แล้วก็สามารถแนะนำการใช้สิทธิเพื่อให้เด็กนักเรียนสามารถรับบริการได้ทั้งด้านการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและการรักษาพยาบาล

"ทางมูลนิธิครอบครัวพอเพียงมีเครือข่ายโรงเรียนจำนวนมาก เราจึงทำงานร่วมกันเพื่อสร้างกิจกรรมแก่นักเรียนชั้นมัธยมปลายซึ่งเป็นช่วงรอยต่อในการหาเส้นทางอาชีพในอนาคต เราจึงอยากให้เด็กๆมีส่วนร่วมในเรื่องสุขภาพ หรือบางคนไปเรียนต่อทางด้านสายสาธารณสุขก็จะรู้สึกผูกพันธ์กับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ กลุ่มภารกิจสื่อสารหลักประกันสุขภาพ กล่าว

ทั้งนี้ นอกจากกิจกรรมอบรมให้ความรู้แล้ว สปสช. ยังใช้เวทีนี้ในการรับฟังความคิดเห็นมุมมองของเยาวชนต่อทิศทางการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพในอนาคตว่าอยากเห็นการพัฒนาหรือการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในเรื่องใดบ้าง

ด้าน ร.ท.รณชัย วงศ์ชะอุ่ม เลขาธิการมูลนิธิครอบครัวพอเพียง กล่าวว่า มูลนิธิครอบครัวพอเพียงมีเครือข่ายโรงเรียน 700-800 แห่ง ซึ่งจะช่วยเป็นสื่อกลางในการนำความรู้ของ สปสช. มาเจอกับนักเรียนในเครือข่ายครอบครัวพอเพียง ในรูปแบบการจัดกิจกรรมที่มีความสนุกสนานในการเรียนรู้ เพื่อให้เข้าใจสิทธิของตนเองและเมื่อจำเป็นก็สามารถเข้าไปใช้สิทธิในการรับบริการด้านสุขภาพได้ รวมทั้งส่งต่อองค์ความรู้ไปยังครอบครัวและชุมชน นอกจากรู้เรื่องสิทธิแล้วตนยังเน้นย้ำเรื่องหน้าที่ความรับผิดชอบที่มาพร้อมกับสิทธิ นั่นคือการสร้างเสริมสุขภาพของตนเองให้แข็งแรง ไม่นำสิ่งที่เป็นโทษมาสู่ร่างกายตัวเองและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย

ขณะที่ รัชนี หล้าจาด รองผู้อำนวยการโรงเรียนชุมแพศึกษา ฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน กล่าวว่า ทางโรงเรียนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการร่วมจัดอบรมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าครั้งนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็กๆ จะได้ความรู้และนำไปขยายผลแก่นักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียน เพื่อให้รู้บทบาทหน้าที่และสิทธิด้านสุขภาพว่าตนเองมีสิทธิได้รับบริการอะไรบ้าง

สำหรับเนื้อหาที่เด็กรักเรียนจะได้รับการถ่ายทอดความรู้ในการอบรมครั้งนี้ เริ่มตั้งแต่การทำความรู้จักกับระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติว่ามีบทบาทหน้าที่อย่างไร รวมทั้งได้เรียนรู้ขั้นตอนการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพ การคุ้มครองสิทธิ เรียนรู้วิธีการเข้ารับบริการการรักษาพยาบาลตามสิทธิให้ถูกต้อง ตั้งแต่สายด่วน สปสช.  1330 ไปจนถึงการเข้ารับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิ หน่วยบริการทุติยภูมิ และหน่วยบริการตติยภูมิ การเรียนรู้เรื่องการเข้ารับบริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในกลุ่มวัยรุ่น เรียนรู้ทักษะการดูแลผู้สูงอายุและสิทธิการรับบริการการส่งเสริมสุขภาพของผู้สูงอายุ การสร้างสื่อรณรงค์เรื่องสิทธิหลักประกันสุขภาพในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมทั้งนำเสนอความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพในอนาคต

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net