ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก เผยสถานการณ์สู้รบฝั่งเมียวดีมีการปะทะต่อเนื่องตั้งแต่ 19-20 เม.ย. 67 มีรายงานกระสุนจากฝั่งพม่าตกลงที่บ้านเรือนคนไทยตามแนวชายแดน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่มีผู้ลี้ภัยเข้ามาฝั่งไทยกว่า 3 พันราย 

20 เม.ย. 2567 เพจเฟซบุ๊ก สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ตาก โพสต์วันนี้ (20 เม.ย.) แถลงการณ์ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก เรื่อง "สถานการณ์ชายแดนพื้นที่ จังหวัดตาก ฉบับที่ 292 ประจำวันที่ 20 เม.ย. 2567 เวลา 18.00 น." 

สืบเนื่องจากตลอดวันที่ผ่านมา กองกำลังชาติพันธุ์ KNLA กองพล 6 ได้บุกโจมตี กองทัพพม่า กองพัน 275 ที่ตั้งหลักอยู่บริเวณด่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ฝั่งเมียวดี และมีประชาชนชาวเมียนมาจำนวนมากหนีภัยสงครามเข้ามายังฝั่งไทย

แถลงระบุว่า สถานการณ์บริเวณพื้นที่แนวชายแดนจังหวัดตากตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงวันที่ 20 เม.ย. 2567 เวลา 18.00 น. มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ 1. วันที่ 19 เม.ย. 2567 เวลา 19.00 น. ถึงวันที่ 20 เม.ย. 2567 เวลา 00.25 น. ปรากฏการปะทะในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากแนวชายแดนไทย เป็นระยะทางประมาณ 2-3 กม. ระหว่างทหารเมียนมา และกองกำลังชาติพันธุ์ มีการปะทะอย่างต่อเนื่อง และมีการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และเครื่องบินทหารเมียนมาไม่ทราบชนิด ทิ้งระเบิด พื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บริเวณบ้านเยปู่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี ด้านตรงข้าม บ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด จ.ตาก

ต่อมา วันที่ 20 เม.ย. 2567 เวลา 4.25-18.00 น. ปรากฏการปะทะในพื้นที่ตอนในฝั่งเมียนมา ห่างจากแนวชายแดนไทยประมาณ 2-3 กม. ระหว่างทหารเมียนมาและกองกำลังชาติพันธุ์ หรือกลุ่มต่อต้านทหารเมียนมา มีการใช้ปืนกลเล็ก, ปืนกล, เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และเครื่องบินทหารเมียนมาไม่ทราบชนิด ปะทะต่อเนื่อง พื้นที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 บริเวณบ้านเยปู่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี ด้านตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก  

นอกจากนี้ มีรายงานว่า มีกระสุนตกที่บ้านประชาชนใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย แต่ไม่มีผู้ได้รับอันตราย

ด้านสถานการณ์สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 มีการเปิดตามปกติ ประชาชนสัญจรเข้า-ออกปกติ ขณะที่สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ในพื้นที่แม่สอด จ.ตาก มีการปิดทำการชั่วคราว

มีผู้หนีภัยกว่า 3,000 รายแล้ว

ขณะที่สถานการณ์ผู้หนีภัยสงคราม หรือผู้ลี้ภัย ได้เดินทางเข้ามาฝั่งไทย เนื่องจากกังวลสถานการณ์ในพื้นที่เมียวดี โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จ.ตาก จำนวน 6 พื้นที่ จำนวน 3,027 ราย อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ดังนี้

1. ท่าทรายรุจิรา อ.แม่สอด มีประชาชนเมียนมาเข้ามากว่า 1,726 ราย 
    
2. สำนักสงฆ์วังข่า อ.แม่สอด มีประชาชนเมียนมาเข้ามากว่า 172 ราย 
    
3. บ.วังตะเคียนใต้ อ.แม่สอด มีประชาชนเมียนมาเข้ามากว่า 74 ราย
    
4. ท่าข้ามสินค้า 35 อ.แม่สอด มีประชาชนเมียนมาเข้ามากว่า 197 ราย
    
5. ท่าข้ามสินค้า 33 อ.แม่สอด มีประชาชนเมียนมาเข้ามากว่า 781 ราย
    
6. บ.หนองหลวง อ.อุ้มผาง ยอดเดิม 77ราย เป็นชาย 16 ราย หญิง 22 ราย เด็กชาย 14 ราย และเด็กหญิง 25 ราย

เจ้าหน้าที่กำลังดูแลผู้ลี้ภัยจากฝั่งเมียวดี ที่หนีการสู้รบเข้ามาในตาก เมื่อ 20 เม.ย. 2567 (ภาพจาก ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก)

โดยกองกำลังนเรศวร ดำเนินการดังนี้

1. กองกำลังนเรศวร ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน เตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย
2. หน่วยงานเฉพาะกิจราชมนู วางกำลังติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน และลาดตระเวนเฝ้าตรวจ พร้อมนำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย ในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย
3. หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 34 โดย กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 สนธิกำลังให้กับ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และสถานีตำรวจภูธรอำเภอแม่สอด ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ให้กับผู้หนีภัยความไม่สงบ (ผู้ลี้ภัย) 
4. กองกำลังอากาศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมขึ้นบินลาดตระเวนรบ หากมีอากาศยานรุกล้ำน่านฟ้าไทย
5. กิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด เปิดรับสิ่งของบริจาคสิ่งของที่จำเป็น ให้กับ ผภสม. เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ณ สำนักงานทำบัตรผ่านแดน อ.แม่สอด จ.ตาก 
    

การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก (ที่มา: ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดตาก)

ยันไม่เป็นคู่ขัดแย้งของฝ่ายใด-ไม่อนุญาตใช้พื้นที่ไทยสนับสนุนผลประโยชน์กลุ่มของตนเอง

ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ขอแจ้งให้ ทุกภาคส่วนได้รับทราบว่าสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ด้านตรงข้ามพื้นที่จังหวัดตากนั้น ประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของทั้ง 2 ฝ่าย และไม่สนับสนุนให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งใช้พื้นที่ของประเทศไทยเป็นพื้นที่สนับสนุนผลประโยชน์ของกลุ่มตนเอง

ในการนี้จังหวัดตาก ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ สื่อมวลชน และทุกภาคส่วนพิจารณาข่าวสารข้อเท็จจริงก่อนที่จะนำไปเผยแพร่ให้กับประชาชน เพราะข่าวสารที่ไม่เป็นความจริงนั้น จะสร้างความแตกตื่น และความหวาดกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยสื่อมวลชน และประชาชนสามารถรับฟังข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงได้จากการแถลงข่าวประจำวันของศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก