Skip to main content
sharethis

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยออกแถลงโต้ “ทนายษิทรา” ไม่มีคนในสมาคมเกี่ยวของส่วยเว็บพนัน และตรวจสอบแล้วไม่มี “สมาคมนักข่าว นสพ. แห่งประเทศไทย” ในระบบจดทะเบียนของสื่อมวลชน และไม่เกี่ยวกับ “สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย” แต่อย่างใด

26 มี.ค.2567 เว็บไซต์ของสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยลงแถลงการณ์ตอบโต้กรณีที่ ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน แถลงข่าวเปิดโปงขบวนการส่วยเว็บพนันที่เกี่ยวพันกับตำรวจระดับสูงและยังพาดพิงถึงองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน 2 แห่งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย  

แถลงของสมาคมนักข่าวฯ ระบุว่า ได้เร่งตรวจสอบข้อมูลกับษิทราภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นและได้รับการยืนยันจากทีมงานของษิทราว่า ข้อมูลที่นำมาแถลงนั้นอ้างถึง “สมาคมนักข่าว นสพ. แห่งประเทศไทย” ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ "สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย" แต่อย่างใด

“ทั้งนี้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ตรวจสอบเบื้องต้น ในระบบการจดทะเบียนของสื่อมวลชนไม่พบชื่อองค์กรที่ทีมงานนายษิทรา กล่าวอ้างแต่อย่างใด จึงขอเรียกร้องให้นายษิทรา ออกมาระบุยืนยันให้ชัดว่า เป็นสมาคมใดกันแน่ เพราะถ้าแถลงด้วยข้อมูลคลุมเครือเช่นนี้จะสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน ทำให้สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยเสียหาย”

ในแถลงการณ์ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ทางสมาคมนักข่าวฯ เคยออกแถลงการณ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยยืนยันไม่เคยได้รับการบริจาค หรือสนับสนุนเงินจากองค์กรหรือบุคคลที่มีการกล่าวอ้างในการแถลงข่าวของทีมทนายความแต่อย่างใด และขอยึดมั่นในหลักจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัดพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายในการตรวจสอบข้อเท็จจริง

“ไม่เช่นนั้น ทางสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จะปกป้องเกียรติยศและชื่อเสียงของสมาคมที่ได้ก่อตั้งมายาวนานถึง 69 ปี ด้วยการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป” แถลงการณ์ระบุ

‘ษิทรา’ แถลงว่าอย่างไร?

ทั้งนี้ Friends Talk ไลฟ์สดการแถลงข่าวถึงเรื่องตำรวจระดับนายพลเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บพนันในวันนี้ของ ษิทรา เบี้ยบังเกิด มีการเปิดเผยรายละเอียดเส้นทางการเงิน ภาพกล้องวงจรปิด สลิปโอนเงินและแชตข้อความที่นอกจากจะมีการเปิดเผยชื่อตำรวจที่เกี่ยวข้องแล้วยังกล่าวถึงนักข่าวที่ประจำอยู่กองบังคับการปราบปรามและองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนอีก 2 แห่ง

ษิทราได้ระบุว่า พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในปัจจุบัน เคยมีอำนาจในการดูแล 3 หน่วยงานได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.), กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และกองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (คอมมานโด) ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานนี้มีการเรียกรับผลประโยชน์จาก 18 ธุรกิจสีเทา ซึ่งในส่วนของ บช.สอท. เป็นหน่วยที่มีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ

ษิทราได้ระบุด้วยว่ามีการแบ่งพื้นที่ดูแลออกเป็นสายทั้ง 5 ภูมิภาคของไทยและสายจะมีหัวหน้าชุดดูแลเป็นระดับจ่าตำรวจและดาบตำรวจทำหน้าที่เก็บรวบรวมเงินผ่านบัญชีม้า 3 บัญชีหลักที่มีชื่อของคน 3 คนคือ “ณัฐพงศ์” “มงคล” และ “คชาชาญ” โดยทั้ง 3 บัญชีนี้มีตำรวจระดับสูงดูแล 2 คน โดยด.ต. อภิชาติ สุวรรณเพ็ชร กองกำกับการ 1 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (กก.1 บช.สอท.2) ดูแลบัญชีชื่อ “ณัฐพงศ์” และ “มงคล” พ.ต.ท. สุรกุล ธัญสิริดำรง รองผู้กำกับการ กองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ ของ บช.สอท.2 ดูแลบัญชีชื่อคชาชาญ และยังมีบัญชีอื่นๆ ที่บางบัญชีเจ้าของเสียชีวิตแล้ว

ษิทราอธิบายเส้นทางการเงินว่าผู้ดูแลแต่ละสายจะโอนเงินเข้าบัญชีม้าในชื่อ “ณัฐพงศ์” และ “มงคล” ก่อนแล้วโอนไปที่บัญชีชื่อคชาชาญต่อ จากนั้นจึงโอนอีกทอดไปที่บัญชีของภรรยาพ.ต.ท. สุรกุล รวมถึงมีการโอนเงินไปยังบัญชีของบุคคลที่มีนามสกุลสุขวิมล 3 คนซึ่งเป็นคนในครอบครัวของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ โดยเงินที่มาจากแต่ละสายประมาณเดือนละ 8-9 ล้านบาทและรวมส่งไปยังระดับสูงสุดเดือนละกว่า 100 ล้านบาท

นอกจากรายชื่อตำรวจแล้ว ษิทรากล่าวด้วยว่ามีเงินที่ถูกโอนไปถึงสื่อมวลชนด้วย คือ นักข่าวของสำนักข่าวสยามรัฐประจำกองปราบฯ และสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

อีกทั้งหลังจากที่สมาคมนักข่าวฯ ออกมาแถลงตอบโต้แล้ว ษิทรายังได้ตั้งสเตตัสเฟซบุ๊กตอบโต้กลับว่าให้สมาคมนักข่าวฯ กลับไปตรวจสอบตัวเองก่อนว่ามี “คนใน” เกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมใบ้ตัวย่อชื่อ ตำแหน่ง และเลขบัญชีธนาคารของคนในสมาคมนักข่าวฯ ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net