Skip to main content
sharethis

'เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง' ขอนายกฯ ชะลอการดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองระหว่างที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอยู่ ในสภาฯ โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องคดี ที่ไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด และให้อัยการชะลอการสั่งคดี หรือถอนฟ้อง ถอนอุทธรณ์ หรือถอนฎีกา ไม่อุทธรณ์กรณีศาลชั้นต้นยกฟ้องหรือมีคำพิพากษาให้รอลงอาญา ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการดำเนินคดี คุมขังผู้ต้องหาและผู้ต้องขังคดีทางการเมืองแยกจากผู้ต้องหาและผู้ต้องขังคดีอื่น 

4 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลเรื่อง “ขอให้ดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองด้วยความเป็นธรรม” โดยยื่นหนังสือและหารือผ่านทาง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยมีรายละเอียดจดหมายเปิดผนึกดังนี้

เรื่อง ขอให้ดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองด้วยความเป็นธรรม
เรียน นายกรัฐมนตรี (ผ่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์)

สถานการณ์การเมืองไทยเหมือนกลับสู่สภาวะปกติ เพราะมีรัฐบาลพลเรือนบริหารประเทศมาเป็นเวลา 7 เดือนแล้ว อีกทั้งยังมีระบบรัฐสภาเป็นกลไกแก้ปัญหา แต่การดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองกลับไม่ได้กลับสู่สภาวะปกติตามไปด้วย นับตั้งแต่ในชั้นพนักงานสอบสวนที่มีการเร่งสอบสวนผู้ต้องหาและมีความเห็นควรสั่งฟ้องคดีโดยไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบว่าครบองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ขณะที่ในชั้นอัยการนอกจากมักมีการสั่งฟ้องคดีแม้จะเป็นคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ยังมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาคดีการแสดงออกทางการเมืองบางประเภทขึ้นมาเพื่อจะสามารถสั่งฟ้องได้สะดวกขึ้น ประการสำคัญคือในชั้นศาลที่ผู้ต้องหาถูกพรากสิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดีไปอย่างมาก โดยเฉพาะสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนในชั้นการลงทัณฑ์ ผู้ต้องขังในคดีถึงที่สุดยังไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเหมาะสม 

นอกจากนี้ การแก้ปัญหาด้วยการออกกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ยังคงถกเถียงกันว่าจะครอบคลุมความผิดประเภทใดและต้องใช้เวลาอีกมาก ส่วนการแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้าง เช่น การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังคงอยู่ในขั้นตอนการถกเถียงกันเรื่องการออกเสียงประชามติและยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเนื้อหารัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ทว่าสภาวการณ์ที่เกิดกับผู้แสดงออกทางการเมืองอยู่ในขั้นวิกฤติ ไม่สามารถรอกระบวนการรัฐสภาหรือฝ่ายนิติบัญญัติได้ ประกอบกับหลายกรณีรัฐบาลหรือฝ่ายบริหารมีอำนาจหน้าที่ที่สามารถช่วยบรรเทาสภาวการณ์นี้ได้ 

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) รวมถึงกลุ่ม องค์กร และเครือข่ายต่างๆ จึงเรียกร้องนายกรัฐมนตรีรวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่เกี่ยวข้องให้มีนโยบายเกี่ยวกับการดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาดังนี้    

1. ชะลอการดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองระหว่างที่พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา โดยให้พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องคดีโดยเฉพาะกรณีที่ไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด และให้อัยการชะลอการสั่งคดี หรือถอนฟ้อง ถอนอุทธรณ์ หรือถอนฎีกา โดยเฉพาะในคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ หรือไม่อุทธรณ์กรณีศาลชั้นต้นยกฟ้องหรือมีคำพิพากษาให้รอลงอาญา      

2. เคารพสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของผู้ต้องหาตามรัฐธรรมนูญ กติการะหว่างประเทศ และหลักยุติธรรมทางอาญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาอย่างเป็นธรรม ปราศจากอคติหรือการแทรกแซงใด ๆ สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาโดยเปิดเผยและมีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือสิทธิที่จะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวที่จะต้องสันนิษฐานว่าผู้ต้องหาบริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด การไม่อนุญาตต้องเป็นข้อยกเว้นและกระทำอย่างเคร่งครัดและมีเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น และการกำหนดเงื่อนไขการปล่อยตัวต้องไม่เอื้อให้เกิดการถอนคำสั่งการปล่อยตัวอย่างผิดหลักการ 

3. ตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการดำเนินคดีผู้แสดงออกทางการเมืองในชั้นพนักงานสอบสวน และพิจารณายุบเลิกคณะกรรมการพิจารณาคดีผู้แสดงออกทางการเมืองในชั้นอัยการ   

4. คุมขังผู้ต้องหาและผู้ต้องขังคดีทางการเมืองแยกจากผู้ต้องหาและผู้ต้องขังคดีอื่น รวมถึงพิจารณาทางเลือกอื่นแก่ผู้ต้องขัง เช่น การกักบริเวณ และการควบคุมตัวในรูปแบบอื่น ตลอดจนปรับปรุงทัศนคติบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการคุมขังว่าผู้แสดงออกทางการเมืองไม่ใช่อาชญากร   

เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) เห็นว่าแม้ความขัดแย้งทางเมืองที่ดำเนินมากว่าทศวรรษดูเหมือนจะคลี่คลาย แต่ประชาชนที่ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งกลับยังต้องเผชิญกับผลที่ติดตามมาจนไม่สามารถหลุดไปจากความขัดแย้งนี้ได้ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลจึงจำเป็นต้องอาศัยอำนาจหน้าที่ที่มีในการช่วยคลี่คลายปัญหานี้ ควบคู่ไปกับกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่ในรัฐสภา เพื่อสังคมไทยจะก้าวไปข้างหน้าได้โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง   

ขอแสดงความนับถือ
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net