Skip to main content
sharethis

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกากำหนดจ่ายเงินเดือนข้าราชการ-ลูกจ้างประจำ 2 รอบ (เลือกตามความสมัครใจ) เริ่ม ม.ค. 2567 

19 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา การจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 6 ) พ.ศ.2566 ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ไว้ ณ วันที่ 14 ธ.ค. 2566 เป็นปีที่ 8 ในรัชกาลปัจจุบัน มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2518 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2566”

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป

มาตรา 3 ให้ยกเลิกความในบทนิยามคำว่า “เงินเดือน” ในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกา การจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2549 และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน

“เงินเดือน” หมายความว่า เงินเดือนและเงินอื่นที่มีกำหนดอัตราการจ่ายเป็นรายเดือน โดยจากงบประมาณรายจ่ายบุคลากรที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน”

มาตรา 4 ให้เพิ่มข้อความต่อไปนี้เป็นวรรคสองและวรรคสามของมาตรา 20 แห่งพระราชกฤษฎีกา การจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535

“ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้มีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการประจำเดือน เดือนละสองครั้ง ให้กรมบัญชีกลางกำหนดวันจ่ายให้สอดคล้องกับการจ่ายเงินเดือนดังกล้าว ให้ข้าราชการมีสิทธิเลือกรับเงินเดือนตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่กรมบัญชีกลางกำหนด”

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

อนึ่งก่อนหน้านี้ Thai PBS https://www.thaipbs.or.th/news/content/333482 รายงานว่า น.ส.ทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ จากเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ 

กรมบัญชีกลางได้แต่งตั้งคณะทำงานปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำ 2 รอบ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล หักรายจ่ายและข้อมูลหักหนี้ของส่วนราชการ เพื่อหารือในส่วนของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหน่วยงาน การส่งข้อมูลหักรายจ่ายและข้อมูลหักหนี้ให้กับส่วนราชการ

และการปรับระยะเวลาการปฏิบัติงานของส่วนราชการ โดยกรมบัญชีกลางได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับกระบวนการขั้นตอนการปฏิบัติงานของส่วนราชการ เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานของส่วนราชการ และได้รับผลกระทบในการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนกระบวนงานน้อยที่สุด

ซึ่งการจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำเป็น 2 รอบต่อเดือน เป็นทางเลือกตามความสมัครใจสำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำ หากมีความประสงค์จะรับเงิน 2 รอบจะต้องกรอกแบบแจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนแปลงการรับเงินเดือน/ค่าจ้างประจำ ตามแบบฟอร์มที่กรมบัญชีกลางกำหนด ยื่นต่อส่วนราชการของตนเองภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ คือ ข้าราชการให้ยื่นตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ธ.ค.2566

และลูกจ้างประจำให้ยื่นตั้งแต่วันที่ 1 - 15 ก.พ. 2567 สำหรับในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มโครงการ กรมบัญชีกลางจึงกำหนดให้ผู้ที่ไม่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงการรับเงินเดือน/ค่าจ้างประจำ (รับ 1 รอบเช่นเดิม) ไม่ต้องยื่นแบบแสดงความประสงค์แต่อย่างใด

ในส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กองคลังของส่วนราชการด้านการจัดทำข้อมูลเบิกจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำ ยังคงมีขั้นตอนการปฏิบัติงานเหมือนเดิม คือ การบันทึกข้อมูลเงินเดือน ข้อมูลรายจ่าย ข้อมูลหนี้ในระบบ e-Payroll รวมถึงการส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลาง เพื่อเบิกจ่ายเงินเป็น 1 ครั้งต่อเดือนเช่นเดิม

เพียงแต่ในการปฏิบัติงานดังกล่าว เจ้าหน้าที่กองคลังของส่วนราชการ จะต้องปฏิบัติงานให้เร็วขึ้นตามปฏิทินการปฏิบัติงานที่กรมบัญชีกลางกำหนดไว้ในแต่ละเดือน ส่วนการคำนวณเพื่อโอนเงินเข้าบัญชีข้าราชการและลูกจ้างประจำในแต่ละรอบ กรมบัญชีกลางจะเป็นผู้ดำเนินการ โดยระบบจะนำเงินเดือน รวมเงินอื่นที่จ่ายในลักษณะเดียวกับเงินเดือน (ถ้ามี) หักยอดข้อมูลรายจ่ายตามที่กฎหมายกำหนดให้หัก (ภาษี/เงินสะสม กบข./เงินสะสม กสจ./หนี้ กยศ. ฯลฯ) และยอดข้อมูลหนี้ตามที่มีหนังสือยินยอมให้หักเงิน (หนี้สหกรณ์ออมทรัพย์/หนี้สถาบันการเงิน ฯลฯ) จะได้เท่ากับ ยอดเงินสุทธิ

จากนั้นระบบจะแบ่งครึ่งยอดเงินสุทธิเป็น 2 ยอดเท่ากัน เพื่อโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้ข้าราชการและลูกจ้างประจำในรอบแรกและรอบสองตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนั้น การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่กองคลังของส่วนราชการจึงยังปฏิบัติงานเหมือนเดิม แต่ต้องปฏิบัติงานให้เร็วขึ้น และส่งข้อมูลให้กรมบัญชีกลางเร็วขึ้น

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า มติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเป็นทางเลือกสำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำที่รับเงินเดือนและค่าจ้างประจำผ่านระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำของกรมบัญชีกลาง (ระบบ e-Payroll) เท่านั้น และข้อมูล ณ เดือน ต.ค.2566 ปัจจุบันมีข้าราชการและลูกจ้างประจำในระบบ e-Payroll 1,335,818 คน เป็นข้าราชการ 1,291,212 คน และลูกจ้างประจำ 44,608 คน (ไม่รวมข้าราชการและลูกจ้างประจำของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ศาล องค์กรอัยการ องค์การมหาชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น)

กำหนดเริ่มจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบ ตั้งแต่เดือน ม.ค.2567 และจ่ายค่าจ้างลูกจ้างประจำ 2 รอบ ตั้งแต่เดือน มี.ค.2567 เป็นต้นไป วันจ่ายเงินรอบแรกกำหนดโอนเงินวันที่ 16 ของทุกเดือน หากวันที่ 16 ตรงกับวันหยุดราชการจะเลื่อนเป็นวันทำการก่อนวันที่ 16

สำหรับวันจ่ายเงินรอบสองกำหนดโอนเงินในวันทำการก่อนวันทำการสุดท้ายของเดือน 3 วันทำการ (กำหนดวันเดิม) ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางจะจัดฝึกอบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการงานด้านบุคลากร และงานด้านกองคลังในรูปแบบ Onsite และ Online ช่วงเดือน พ.ย. - ธ.ค.2566 และจะมีคู่มือการปฏิบัติงานเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงาน 

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวทิ้งท้ายว่า การปรับการจ่ายเงินเดือนและค่าจ้างประจำ 2 รอบ เป็นทางเลือกสำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำที่รับเงินเดือนและค่าจ้างประจำผ่านระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำของกรมบัญชีกลาง (ระบบ e-Payroll) เท่านั้น ไม่รวมการจ่ายเบี้ยหวัดบำนาญของผู้รับบำนาญ

ดังนั้น ขอเตือนภัยผู้รับบำนาญอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมบัญชีกลางหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โทรหาและแจ้งเรื่องการจ่ายเงินเดือนหรือบำนาญ 2 รอบ แล้วให้ดำเนินการต่างๆ เช่น สอบถามความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ แล้วให้กด 9 เป็นต้น อย่ากดและอย่าดำเนินการใดๆ เพราะกรมบัญชีกลางไม่มีนโยบายส่งข้อความหรือโทรศัพท์หาผู้รับบำนาญเพื่อให้ดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการจ่ายบำนาญ 2 รอบ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net