เพื่อไทย แถลงขอบคุณก้าวไกล ระบุมองว่าเรื่อง ม.112 เป็นประเด็นที่ทำให้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ พร้อมรับปากจะเดินหน้าหาเสียงเพิ่มจาก ส.ว. และพรรคอื่น โดยจะมีนัดคุยกันกับ 8 พรรคร่วม ขอให้รออัปเดต ช่วง 15.00 วันนี้ (21 ก.ค.)

21 ก.ค. 66 เวลา 13.30 น. ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส. บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรค และภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวประเด็นเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จากที่พรรคก้าวไกลแถลงเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

(จากซ้าย) ภูมิธรรม - ชลน่าน - ประเสริฐ

ที่มา: ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย

แถลงการณ์พรรคเพื่อไทย มีใจความดังนี้

1. พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่ส่งมอบภารกิจในการจัดตั้งรัฐบาลให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นไปตามวิถีทางทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้เงื่อนไขของการร่วมรัฐบาลจาก 8 พรรคการเมืองเดิม ตามที่พรรคก้าวไกลได้แถลงต่อสื่อมวลชนไปแล้ว เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะได้หารือกับ 8 พรรคการเมืองเดิมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลต่อไป

2. พรรคเพื่อไทยเห็นว่าภายใต้ข้อตกลงของ 8 พรรคการเมืองเดิม พรรคการเมืองทั้ง 8 พรรคสามารถรวมเสียงได้ 312 เสียง ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ในรัฐสภาไม่เห็นชอบเนื่องจากมีเงื่อนไขสำคัญที่เกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงส่งผลให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ 

3. พรรคเพื่อไทยจึงมีความจำเป็นต้องหาเสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้เสียงเกินกว่า 375 เสียง เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยจะขอเสียงสนับสนุนจาก สมาชิกวุฒิสภา และจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ในที่สุด

4. หากผลการดำเนินเป็นประการใด จะได้แจ้งให้ 8 พรรคการเมืองและสาธารณชนทราบต่อไปโดยเร็ว

มีผู้สื่อข่าวถามว่า การหาเสียงเพิ่มจะหารือกับขั้วรัฐบาลเดิมที่รักษาการอยู่หรือไม่ 

ชลน่าน ตอบว่า ช่วง 15.00 น. วันนี้ (21 ก.ค.) จะมีนัดคุยกัน 8 พรรคร่วมเดิมก่อนถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ขอให้รออัปเดต

มีผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องข้อเสนอแก้ไข ม.112 ที่เป็นประเด็นทำให้พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ เมื่อเพื่อไทยรับภารกิจนี้ต่อ พรรคเพื่อไทยจะหาเสียงเพิ่มอย่างไร

ภูมิธรรม รองหัวหน้าพรรค มองว่า ม.112 เป็นเพียงประเด็นหนึ่ง แต่อาจมีประเด็นอื่นๆ ด้วยก็ได้ จึงต้องรอหารือ 8 พรรคร่วมเดิมก่อน ประเด็นสำคัญคือการตั้งรัฐบาลให้ได้ และฝ่าเงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ ไปให้ได้มากที่สุด เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นช่องทางที่นำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าได้ตั้งรัฐบาลมติ ครม. วันแรก จะให้มีการทำประชามติ โดยการตั้ง สสร. โดยทันที เพราะหากต้องเป็นฝ่ายค้าน เสนอไปฝ่ายรัฐบาลที่เป็นขั้วอำนาจเดิมก็คงไม่ให้ผ่านอีกตามเคย ครั้งนี้มีเวลาไม่มากแล้ว เราจึงต้องได้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 27 ก.ค. ที่จะถึงนี้ให้ได้