ศาลปกครองรับฟ้องปมกรรมการแพทยสภาและ 5 ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอสั่งเพิกถอนประกาศ สธ.ฉบับปล่อยกัญชาเสรี 'วิษณุ' เชื่อประกาศสธ.ควบคุมกัญชา อุดช่องโหว่ใช้ในทางที่ผิดได้ หลัง 'อนุทิน' ชี้แจงรายละเอียดแล้ว - 'ภูมิใจไทย'  ไม่เห็นด้วยนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ขอรัฐสภาเร่งผลักดันกฎหมายให้ใช้บังคับโดยเร็ว - ‘เพื่อไทย’ คาด ‘กัญชาเสรี’ ล้ม เหตุภาคประชาสังคมไม่ยอมรับ ยันกัญชาต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 ว่าจากกรณี ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย  พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล  นายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนชาวไทย  ยื่นฟ้องนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2  ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีการออกประกาศฉบับดังกล่าว และให้กัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ธันวาคม  2563 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ. 2563 ดังเดิม  

ขอให้ศาลมีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราว ด้วยการทุเลาการบังคับ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายดำที่ 2417/65 และอธิบดีศาลปกครองกลางได้มีการจ่ายสำนวนให้องค์คณะ และแต่งตั้งตุลาการผู้แถลงคดีแล้ว ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกระบวนการพิจารณาคดี

'วิษณุ' เชื่อประกาศสธ.ควบคุมกัญชา อุดช่องโหว่ใช้ในทางที่ผิดได้ หลัง 'อนุทิน' ชี้แจงรายละเอียดแล้ว

22 พ.ย. 2565 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวานนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือชี้แจงเกี่ยวกับรายละเอียดของประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุมกัญชา ฉบับใหม่ ควบคุมช่อดอกกัญชา โดยเป็นการพูดคุยเป็นการภายใน ก่อนจะมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือบอร์ดป.ป.ส.) ช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งในหลักการจะไม่มีการเบรกประกาศของกระทรวงสาธารณสุข หรือดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด เพราะประกาศดังกล่าวเป็นอำนาจของคณะกรรมการแพทย์แผนไทย และเมื่อได้รับฟังคำชี้แจงจากนายอนุทิน ก็จะได้ไปชี้แจงกับบอร์ดปปส. ถึงประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมา ไม่ได้เป็นประกาศตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่เป็นประกาศตามพ.ร.บ.คุ้มครองภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ซึ่งใช้มา 23 ปีแล้ว สำหรับควบคุมพืชบางชนิด ไม่ให้เล็ดลอดออกไปต่างประเทศ หรือนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งครั้งนี้นำมาใช้กับกัญชา และเชื่อว่า เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด เพื่ออุดช่องโหว่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้

ส่วนเมื่อถามว่า หากพบการทำผิด ตำรวจมีอำนาจจับได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ตามขั้นตอนจะมีทั้งจับ และใช้การเตือน หากกระทำผิด” พร้อมระบุว่าประเด็นเรื่องกัญชา ไม่ได้มีการพูดคุยในที่ประชุม ครม.ในวันนี้

'ภูมิใจไทย' ไม่เห็นด้วยนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่านายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายคารม พลพรกลาง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมกันเเถลงข่าวกรณีที่มีการพยายามนำกัญชากลับไปเป็นพืชยาเสพติด ทั้งที่ได้มีการนำกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดแล้ว และขณะนี้เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างที่รัฐสภากำลังร่วมกันพิจารณาออกกฏหมายเพื่อนำมาควบคุมการใช้กัญชาอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการใช้เป็นพืชเศรษฐกิจ อีกทั้งหากมองในบริบทของการใช้กัญชานั้น คนไทยจำนวนมากมีการใช้กัญชาภายในครัวเรือนทั้งในการประกอบอาหารและรักษาโรคมานานแล้ว ซึ่งผลจากการวิจัย พบว่าประโยชน์จากกัญชาทำให้ผู้ป่วยลดการใช้ยาแผนปัจจุบันในการรักษาโรคบางโรคลงอย่างชัดเจน แต่นักการเมืองบางกลุ่มกลับมีความพยายามที่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 อีกครั้ง โดยไปยื่นคดีต่อศาลปกครองกลางเพื่อให้มีการคุ้มครองชั่วคราว เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ยังไม่ใช้บังคับและให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ชั่วคราว ก่อนจะมีกฎหมายออกมาบังคับใช้

ทั้งนี้ในฐานะที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและนักกฏหมายจึงมองว่าการนำพืชกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ผลในทางกฎหมายย่อมทำให้ผู้ครอบครองกัญชามีความผิดตามกฏหมายทั้งโทษจำคุกและปรับ จะทำให้ประชาชนที่ครอบครองกัญชาทั่วประเทศถูกจับกุมด้วย ดังนั้นจึงขอคัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และขอสนับสนุนให้ฝ่ายนิติบัญญัติได้มีความรับผิดชอบต่อประชาชน โดยร่วมกันผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ออกมาบังคับใช้โดยเร็ว 

‘เพื่อไทย’ คาด ‘กัญชาเสรี’ ล้ม เหตุภาคประชาสังคมไม่ยอมรับ ยันกัญชาต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย แจ้งข่าวว่านางสาวตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ปัญหานโยบายกัญชาเสรีที่เกิดความขัดแย้งอย่างหนัก โดยไม่มีวี่แววว่าจะยุติได้ง่าย เพราะยังมีพรรคการเมืองอีกหลายพรรคและภาคส่วนอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยเพราะห่วงใยผลกระทบต่อสังคม ในส่วนของคณะรัฐมนตรีก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่รับผิดชอบร่วมกัน ตรงกันข้ามกลับขัดแย้งกันเอง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องฝ่า 3 ด่านที่หากตัดสินใจผิดพลาดจะเกิดผลเสียหายร้ายแรงและสร้างปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น

ด่านแรก คือ ในวันอังคารที่ 22 พ.ย. 2565 นี้ ตอนเช้ามีประชุมครม. พิจารณาเรื่องสมุนไพรควบคุมเฉพาะช่อดอกกัญชา ที่ปรับปรุงประกาศฯลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 อีกครั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะต้องอธิบายให้ครม.ฟังอีกครั้ง ซึ่งตนได้ข่าวมาจากว่า กองประกาศิต สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตีกลับประกาศ ไม่นำไปลงในราชกิจจานุเบกษา จึงทำให้ยังไม่มีผลบังคับ นี่คือ สิ่งที่ผิดปกติของรัฐบาลที่ควรจะชี้แจงให้สังคมได้รับทราบว่าจริงหรือไม่ รวมทั้งในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 จะมีการประชุมคณะกรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรี จะมีมติอย่างไรต่อกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุขสสมุนไพรควบคุม (กัญชา)

ด่านที่ 2 คือ ล่าสุดศาลปกครองกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายดำที่ 2417/65 และอธิบดีศาลปกครองกลางได้มีการจ่ายสำนวนให้องค์คณะและแต่งตั้งตุลาการผู้แถลงคดีแล้ว ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกระบวนการพิจารณากรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านและน.พ.สมิทธิ์ ศรีสนธ์ กรรมการแพทยสภาและนายกสมาคมนิติเวชแห่งประเทศไทยยื่นฟ้องยื่นฟ้องนายอนุทิน เพื่อขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ก.พ.2565 เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 ขอให้เพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษหลังปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด

ด่านที่ 3 คือร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญไปพิจารณาแปรญัตติที่จากเดิมมีเพียง 45 มาตรากลับเพิ่มขึ้นมาเป็น 95 มาตราจะเข้าสภาวาระ 2 ได้เมื่อไร จะเข้าพิจารณาในสภาช้าหรือเร็ว และกระบวนการพิจารณาทีละมาตราที่จะมีส.ส.อภิปรายกันเต็มที่แล้วลงมติกันทีละมาตรา นอกจากจะใช้เวลานานมากกว่าจะครบ 95 มาตรา

“สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นสภาวะอลเวง การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนร่างพ.ร.บ.นี้ เท่ากับรัฐบาลแตกกันเอง โอกาสร่างพ.ร.บ.จะถูกคว่ำเป็นไปได้สูง หรือถ้ารอดผ่านพ้นไปได้ก็ทุลักทุเล พรรคเพื่อไทยพร้อมจับตารัฐบาลผสมเรือแป๊ะที่ตกอยู่ในสภาพเหมือนเมากัญชา จะถูลู่ถูกังไปได้สักกี่น้ำ กัญชาที่ควรเป็นยาเสพติด เรายังยืนยันเหมือนเดิมว่าต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น” นางสาวตรีชฎากล่าว