Skip to main content
sharethis

หลังสลายชุมนุมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูงที่ผสมสารเคมีวันที่ 16 ต.ค. การชุมนุมยังคงดำเนินต่อในวันรุ่งขึ้น คลิปไวรัลหนึ่งถือกำเนิด ฉายภาพการชุมนุมอย่างสันติที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ร่วมมือร่วมใจ ปราศจากความกลัว คนทำคลิปกล่าว “วิดีโอนี้ผมยกให้เป็นของราษฎรทุกคน ใครทำให้มันไปได้ไกลยิ่งขึ้นก็ทำไปเลย"


ภาพจากคลิปการชุมนุมวันที่ 17 ต.ค. 2563 ถ่ายโดย โสภณัฐ โสมขันเงิน

ภาพบรรยากาศม็อบตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. จนถึงวันนี้ 20 ต.ค. มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วภายหลังจากที่แกนนำแทบทั้งหมดทยอยถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 

หลังการสลายการชุมนุมในเช้ามืดของวันที่ 15 ต.ค. สิ่งที่ไม่คาดคิดสำหรับรัฐคือการชุมนุมใหญ่ต่อในเย็นเดียวกันที่แยกราชประสงค์ เป็นการชุมนุมครั้งแรกที่ปราศจากแกนนำชัดเจน มีผู้มาร่วมนับหมื่นคน และเป็นไปอย่างสงบ ยุติชุมนุมราว 22.00 น. 

16 ต.ค. พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงห้ามผู้ชุมนุมมาร่วมชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ขณะที่ผู้จัดเปลี่ยนสถานที่นัดหมายมาเป็นแยกปทุมวัน เริ่มปักหลักตั้งแต่เวลา 15.00 น. ตั้งแต่แยกปทุมวันจนถึงบริเวณหน้าห้างมาบุญครอง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและนักเรียน 

18.20 น. ขณะที่สายฝนโปรยหนัก ตำรวจประกาศให้ผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม และอ่านข้อกำหนด 3 ข้อตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ห้ามชุมนุมเกิน 5 คน จากนั้นสั่งให้ตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมโล่และกระบอง เคลื่อนขบวนสู่แยกปทุมวัน ตำรวจได้ประกาศผ่านรถเครื่องขยายเสียงให้ผู้ชุมนุมกลับบ้านทันที พร้อมเคลื่อนรถฉีดน้ำแรงดันสูงอย่างน้อย 3 คันเข้ามาใช้ในปฏิบัติการกระชับพื้นที่

18.50 น. ตำรวจใช้รถฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุมที่กางร่มใต้บีทีเอสสยาม หลังจากนั้นได้ประกาศออกคำสั่งทิ้งโล่และจับกุม หลังฉีดน้ำแรงดันสูงที่ผสมสีและเพิ่มระดับความแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนน้ำผสมสีน้ำเงินที่ฉีดใส่ผู้ชุมนุมเป็นสารเคมีที่ติดทนาน

แม้ต่อมาจะมีการประกาศยุติการชุมนุม แต่การรุกไล่ขอคืนพื้นที่ของเจ้าหน้าที่มิได้หยุดลง ตำรวจฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุมที่แตกกระจาย ก่อนตำรวจยึดพื้นที่แยกปทุมวันไว้ได้ และยึดพื้นที่ชุมนุมเบ็ดเสร็จในเวลาประมาณ 23.00น. การปฏิบัติการสลายการชุมนุม ครั้งนี้ใช้เวลามากว่า 4 ชั่วโมง และเป็นปฏิบัติการสลายการชุมนุมที่เกิดขึ้นรวดเร็ว หลังการรวมตัวของผู้ชุมนุมเพียงชั่วโมงเศษๆเท่านั้น 

ใครจะคาดคิดว่าความพ่ายแพ้ของกลุ่มผู้ชุมนุมในวันนั้น จะทำให้วันรุ่งขึ้น 17 ต.ค. ปรากฎม็อบไร้แกนนำที่กระจายไปตามจุดต่างๆ ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ไม่หวั่นแม้จะมีการปิด MRT และ BTS ตลอดสายที่คาดว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะไปรวมตัว

แล้วคลิปไวรัลของเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊ค ‘Sopanat Somkhanngoen’ ก็ปรากฎ ฉายภาพการชุมนุมอย่างสันติที่ห้าแยกลาดพร้าว เป็นการชุมนุมที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไร้ความหวาดหวั่น ปราศการแกนนำ แต่ใช้สัญญาณมือ การส่งอุปกรณ์ป้องกันตัวต่อกันไปเรื่อยๆ และการตะโกนบอกต่อกันไป เพราะไม่มีเครื่องเสียง คำตะโกนในคลิปกลายเป็นแฮชแท็ก #อย่าหยุดเดิน ย้ำความหมายของการไม่หยุดยั้งที่จะสู้ต่อไปเพื่อความเปลี่ยนแปลง

คลิปดังกล่าวมียอดผู้ชมอยู่ที่ 2,000,000 กว่า มียอดแชร์อีก 100,000 กว่า รวมทั้งได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษา และโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวชาวฮ่องกงชื่อดังก็แชร์ในทวิตเตอร์ของเขา รวมทั้งสื่อหลายเจ้าก็ได้นำคลิปนี้ไปเปิดเช่นเดียวกัน 

 

 


โสภณัฐ โสมขันเงิน

ประชาไทคุยกับ โสภณัฐ โสมขันเงิน นักทำหนังอิสระ อายุ 26 ปี ผู้เป็นคนทำคลิปวิดีโอไวรัลดังกล่าว

โสภณัฐเล่าว่าไปใช้เวลาว่างของตนไปถ่ายม็อบในครั้งนี้ โดยถ่ายครั้งแรกในวันชุมนุมใหญ่ 19-20 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นวันที่ 14-17 ต.ค. ตนก็ได้ไปถ่ายอีก 

“ผมใช้อุปกรณ์ของตัวเองทั้งหมด แล้วก็มาตัดต่อเอง ทำตามใจอยาก ไม่ได้รับเงินจากใครเลย หลังจากนี้ก็ตั้งใจจะทำอีกถ้าหากว่าง” โสภณัฐกล่าว

เขาเล่าว่า คิดที่จะทำคลิปเพราะสื่อหลักนำเสนอแต่เรื่องของแกนนำ แต่ไม่นำเสนอม็อบในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะสื่อทีวีบ้างช่องจะเน้นการนำเสนอแค่ว่าม็อบสร้างความเดือดร้อนอย่างไร มากกว่าจะเล่าแง่มุมอื่น

โดยคลิปไวรัลที่เขาถ่ายที่ห้าแยกลาดพร้าวนั้น เป็นม็อบหลังสลายการชุมนุม เขาเห็นว่าคนเริ่มเรียนรู้จากการสลายการชุมนุม ทุกคนเตรียมอุปกรณ์มาพร้อม มีการส่งของ การให้สัญญาณมือ การตะโกนบอกต่อกัน 

โสภณัฐเปรียบเทียบกับม็อบ กปปส. ซึ่งตนก็เคยถ่ายตั้งแต่เรียนตอนปี 1 ว่า ตอนกปปส. มีวิธีการที่แตกต่างกันมาก เมื่อก่อนเป็นม็อบมีแกนนำ มีแต่ผู้ใหญ่ ม็อบนี้มีชนชั้นกลางจำนวนหนึ่ง แต่มีนักศึกษาเพิ่มขึ้น 

“ที่เห็นได้ชัดคือทุกคนรู้หน้าที่ตัวเองโดยไม่ต้องมีใครบอก ไม่ต้องฟังแกนนำอย่างเดียว อย่างผมรู้ตัวว่าถนัดทำสื่อ ก็ทำสื่อ ไม่มีใครมาสั่ง ผมเห็นคนที่เดินเข้าร้านสะดวกซื้อ ก็เดินมาถามผู้ชุมนุมที่ไม่รู้จักว่าต้องการอะไรไหม เขาอยากซื้อของไปแจกผู้ชุมนุม”

เมื่อถามว่าเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของม็อบในครั้งนี้ไหม โสภณัฐตอบว่าเห็นด้วยทั้งหมด 

“ผมมาเข้าร่วมม็อบเพราะรู้สึกว่ามันต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงสักที ประเทศไทยมีม็อบมาตลอด ทุกครั้งที่มีม็อบมันก็จบไม่สวย หรือจบวนลูปอยู่อย่างนั้น ซึ่งครั้งนี้ปัญหาที่พูดถึงมันไปไกลกว่าครั้งก่อนๆ มันมีความหวัง แต่ขณะเดียวกันมันก็ยาก แต่ก็มีคนพูดว่าเราแพ้กี่ครั้งก็ได้ แต่เขาแพ้ได้ครั้งเดียว ซึ่งผมเห็นด้วยมากๆ” โสภณัฐกล่าว

โสภณัฐยังกล่าวว่า ช่วงที่หยุดจากการถ่ายม็อบ ก็คือไปถ่ายงานที่หาเงินมาเลี้ยงตัวเอง หลังจากนี้หากมีโอกาสก็จะไปถ่ายอีก

“ดีใจที่ได้ทำ ดีใจที่มันเป็นที่สนใจ ดีใจที่คนชื่นชอบเยอะ มีสื่อพูดถึง อยากบอกว่าวิดีโอนี้ผมยกให้เป็นของราษฎรทุกคน ใครทำให้มันไปได้ไกลยิ่งขึ้นก็ทำไปเลย” โสภณัฐกล่าวทิ้งท้าย 


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net