Skip to main content
sharethis

ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีต พนง.ธกส. ร้อง ปธ.สภาฯ ขอความเป็นธรรมกรณีถูกเลิกจ้างหลังจากเผยแพร่ข้อมูลการทุจริตการจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวและโครงการมันสำปะหลัง เผยเจอกลั่นแกล้งสารพัด แถมโดนดักทำร้าย จี้ 'ประยุทธ์-สมคิด' ให้ความเป็นธรรม

10 ก.ค.2562 ผู้จัดการออนไลน์ และสื่ออีกหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ชญาดา ตระกูลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงานวิเคราะห์สินเชื่อ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ยื่นหนังสือถึง ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ผ่าน สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกเลิกจ้างหลังจากเผยแพร่ข้อมูลการทุจริตกับสื่อมวลชน โดยตนได้ร้องขอความเป็นธรรมไปที่ทำเนียบรัฐบาล และยื่นชี้มูลไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตั้งแต่ถูกเลิกจ้างเดือน ก.ย. 61 จนถึงวันนี้ ไม่เคยได้รับความเป็นธรรมหรือช่วยเหลือจากรัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐ ตนจึงเดินทางมาที่รัฐสภา ตอนนี้เราได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแล้วและทุกรัฐบาลก็ยึดมั่นหลักการเหมือนกันว่าปราบโกรง ต่อต้านทุจริต ไม่มีเส้นสาย ตนไม่มีอะไรเลยนอกจากหลักฐานประกอบคำกล่าวอ้างวันนี้จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดมามอบให้กับประธานสภาได้รับทราบข้อมูล

ชญาดา ชี้แจงว่า ตนได้พบการทุจริตหลายรูปแบบเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยโครงการรับจำนำข้าวและโครงการมันสำปะหลัง ทั้งการจ่ายเงินซ้ำซ้อน การนำเงินในโครงการมันสำปะหลังมาหักชำระในโครงการจำนำข้าว ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดก่อนการทุจริตระบายข้าวจีทูจีที่ศาลตัดสินไปแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับโดน ผู้บริหาร ธกส. กล่าวหาว่ามีปัญหาทางจิตเวช และส่งไป ร.พ.สมเด็จเจ้าพระยา แต่เมื่อผลตรวจของหมอยืนยันว่าตนปกติก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนถึง 4 ครั้ง และยังขอคืนเอกสารเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวทั้งหมด นอกจากนี้ยังเสนอให้ตนเออร์ลี่ไทร์ ทั้งที่ตนอายุแค่ 29 ปี ไม่สามารถเข้าในเกณฑ์ได้ รวมถึงถูกทำร้ายร่างกายในที่จอดรถจนต้องผ่าตัด จนในที่สุดถูกเลิกจ้างเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2561 และได้รับผลกระทบว่างงานเป็นเวลากว่า 10 เดือนแล้ว เนื่องจากโดนหน่วยงานรัฐเลิกจ้าง ซึ่งขณะนี้ก็ได้ร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้สอบข้อเท็จจริง ส่วน ธกส. ก็ฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท


“ดิฉันจึงขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ชี้มูล เพราะ 10 เดือนที่ดิฉันตกงานเพราะถูกรัฐเลิกจ้างจนถูกแบล็กลิสต์ แล้วเราประกาศว่าจะคุ้มครองพยาน ที่ประกาศว่าจะต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ไม่มีเส้นสาย วันนี้จะขอพิสูจน์ทางรัฐสภาอีกทางหนึ่ง” ชญาดากล่าว

ขณะที่ เมื่อเวลา 21.30 น. ที่ผ่านมา ชญาดา ยังโพสต์ข้อความสรุปประเด็นผ่านเฟสบุ๊คเธอ 'Chayada Trakulrungrot' ด้วยว่า กรณีที่ยื่นเรื่องถึงประธานรัฐสภาวันนี้ ในส่วนของประเด็นทั้งหมด 1. การสรุปบัญชีกรณีมีการเบิกวงเงินซ้ำซ้อน เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีการจ่ายและขายข้าวแล้ว ซึ่งเกิดก่อนการรัฐประหาร

2. การตรวจพบวงเงินโอนออกผิดปกติ ก็มีการโอนออกมาตั้งแต่เริ่มโครงการ ซึ่งตนยืนยันเมื่อตรวจพบแล้วได้แจ้งผู้บริหารตั้งแต่ปลายปี 2558 แต่ผู้บริหารพยายามปกปิด ตนคิดว่าเหตุที่ปกปิด เพราะทางผู้บริหาร ธ.ก.ส.เกรงว่าจะตกเป็นจำเลยร่วม 3. กรณีตนตรวจพบมูลค่าความเสียหายผิดปกติ หากไม่นำเงินจากการระบายมันสำปะหลังมาหักชำระ มูลค่าความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ก็จะสูงกว่าที่แสดงในชั้นศาล

ชญาดา กล่าวต่อว่า เมื่อตนพิจารณาข้อมูลหลักฐานโดยละเอียดจึงโต้แย้ง และหากมีใครคนใดคนหนึ่งใน ธ.ก.ส.จงใจกลั่นแกล้งตนเพื่อมิให้เรื่องนี้ถูกเปิดโปง ก็อาจเชื่อได้ว่า บุคคลเหล่านั้นร่วมทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่มีการปล่อยเงินให้แก่ชาวนา สิ่งที่อยากร้องขอยังคงเหมือนเดิม โปรดอย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่มีใครลบล้างความผิดให้ใครได้ แต่อาจจะมีคนผิดเพิ่มหากตรวจสอบโดยละเอียด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net