Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


ภาพประกอบ: www.matichon.co.th

ตามที่ปรากฏเป็นข่าวที่ศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยคำร้องของอัยการสูงสุด (นายเข็มชัย ชุติวงศ์) ได้ยกคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตขึ้นพิจารณาใหม่ ย้อนหลังไปก่อนที่กฎหมายใหม่จะใช้บังคับ โดยไม่ต้องมีตัวจำเลยมาศาลก็ได้ เพื่อให้ศาลมีอำนาจพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้อีกด้วย ผมจึงเข้าใจได้ไม่ยากว่าที่อดีตนายกทักษิณฯ ไม่เห็นด้วยและไม่ยอมรับระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่อาศัยกฎหมายล้าหลังใช้บังคับนี้ เป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักนิติธรรมสากลจริงๆ

การที่ศาลฎีกาฯออกหมายจับอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ฐานความผิด เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานกรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิต เพื่อให้ได้ตัวมาเข้าสู่การพิจารณาคดีนั้น ก็ไม่น่าจะใช่เรื่องที่จะวิตกอะไร สบายๆก็ว่าได้

บางคนบอกว่า การลงโทษคนโกงชาติต้องทำได้ แล้วที่ว่าใครเป็นคนโกง ผู้ใดชี้ว่าโกง แล้วแค่ไหนที่จะยอมรับกันว่าโกง บ้านเมืองนี้ขนาดความโกงยังไม่เท่าเทียมกัน แค่บอกยืมมาแล้วคืนไป ยังไม่โกงเลย เพียงแค่นี้ สาระสำคัญที่อ้างมากำจัดการโกงก็ไม่น่าเชื่อถือแล้ว

ที่พูดมา ผมก็แสดงออกว่าไม่เห็นด้วยในแง่ของความยุติธรรมที่ควรจะมีในแผ่นดิน ก็คือ

โกงกันตั้งแต่ออกกฎหมายไหมล่ะ เช่น กฎหมายใหม่ที่ให้ใช้กับคดีที่ฟ้องมาก่อน เช่น คดีของอดีตนายกฯ การฟ้องคดีอาญาทางการเมืองไม่ต้องมีตัวจำเลยมาปรากฏตัวที่ศาล ศาลก็มีอำนาจพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ โกงความยุติธรรมไหม?

แม้แต่คดีอาญาทั่วไปไม่ว่าจะมีโทษสูงสุดประหารชีวิต หรือจำคุกกี่ปี คดีเหล่านั้นยังให้โอกาสจำเลยต่อสู้คดีอย่างเต็มที่และพิจารณาเปิดเผยต่อหน้าจำเลย แต่คดีอาญาทางการเมืองกลับพิจารณาคดีย้อนหลังได้ วิญญูชนทั่วไปคงเห็นว่าระบบกฎหมายเช่นนี้เสมือนว่าเป็นการมุ่งใช้บังคับเป็นเฉพาะบางคนแต่ไม่ได้บังคับใช้ทั่วไป

ประการต่อมา เมื่อเห็นว่าจำเลยไม่มาศาลจึงเชื่อว่าหลบหนีคดี กฎหมายใหม่นี้ก็ยังไม่ให้เอาระยะเวลาที่หลบหนีนำมานับรวมระยะเวลาเป็นอายุความ การหลบหนีจึงไม่เป็นเหตุให้ขาดอายุความตามที่กฎหมายใหม่บัญญัติไว้ อย่างนี้โกงด้วยเวลาที่ควรจะเสมอภาคบังคับใช้ให้เป็นการทั่วไปไหม?

ที่ท่านรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย ให้ความเห็นว่า “ช่วยไม่ได้...” ผมเองก็เห็นชัด นักกฎหมายระดับกูรู เป็นอาจารย์สอนกฎหมาย เคยเป็นไอดอลของผมมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะมาเรียนกฎหมายด้วยซ้ำ ท่านไม่ได้ช่วยอะไรต่อการพัฒนาระบบกฎหมายเลยจริงๆ (ผิดหวังนะ)  กฎหมายบ้านเราจึงมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศอื่นๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่า ทำไมจึงไม่เป็นที่ยอมรับ

รวมความแล้วเห็นว่า กฎหมายที่ออกมาให้ย้อนหลังไปฟ้องคดีก่อนหน้านี้ แล้วสามารถพิจารณาคดีลับหลังได้ จึงเป็นระบบกฎหมายที่ถอยหลังลงคลอง.


 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net