15 ก.ค.2559 จากกรณีที่ พุทธะอิสระ ให้สัมภาษณ์ ผ่านรายงานเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า ทางมูลนิธิธรรมะอิสระของวัดอ้อน้อย ได้ร่วมกับ บ.พฤกชเวช ซื้อที่ดินเนินเขา บริเวณบ้านใหม่วังผาปูน ต.แม่วิน อ.แม่วาง เชียงใหม่ จริง โดยซื้อในนาม มูลนิธิธรรมมะอิสระของวัดอ้อน้อย กับ บ.พฤกชเวช เมื่อปี 2556-2557 ในราคา 3 ล้านกว่าบาท เนื้อที่เพียง 300 กว่าไร่ ไม่ใช่ 3,000 ไร่ อย่างที่มีการเสนอข่าวผ่านสื่อโซเชี่ยล โดยพุทธอิสระอ้างว่าตัวเขาเองไม่มีรายชื่อเป็นกรรมการมูลนิธิธรรมมะอิสระ (แต่เป็นเจ้าของวัด)พร้อมยอมรับด้วยว่า บริเวณดังกล่าวเป็นเป็นพื้นที่เขตป่าสงวนหวงห้ามจริง ประชาชนทั่วไปไม่สามารถครอบครองได้ แต่ที่มูลนิธิไปซื้อไว้ ก็เพื่อนำมาปลูกป่า เพื่อมอบให้หลวง โดยมีหน่วยงานและข้าราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้ความเห็นชอบ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)
ล่าสุดวันนี้ (15 ก.ค.59) สำนักข่าวไทย รายงานว่า พระพุทธะอิสระ พร้อมด้วยผู้แทนมูลนิธิธรรมอิสระ และ บ.พฤกชเวช จำกัด เดินทางเข้าพบ ชลธิส สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมนำเอกสาร ภาพถ่ายการเข้าไปปลูกป่าในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ขาน-แม่วาง จ.เชียงใหม่ รวมพื้นที่กว่า 300 ไร่ มามอบให้กับกรมป่าไม้เพื่อแสดงเจตนาบริสุทธิ์ ให้กรมป่าไม้ชี้มูลความผิดดำเนินคดีกับตัวเองโดยไม่ละเว้น โดยมี สุขุม มิตรตัดสา ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางและผู้แทนกรมป่าไม้ เป็นผู้แทนรับเรื่องเพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป
พระพุทธอิสระ กล่าวว่า เข้าไปปลูกป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง เกือบทั่วประเทศ นับพันๆไร่ ตั้งแต่ปี 2532 แต่ไม่ได้มีการซื้อหรือการออกเอกสารสิทธิ์ใดๆ ไม่มีชื่อของพระพุทธอิสระเป็นคนครอบครอง เป็นเพียงการเข้าไปปลูกป่าเท่านั้น เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่หัวโล้นและเสื่อมโทรมเลยอยากเข้าไปพัฒนา หากกรมป่าไม้ตรวจสอบพบว่าตัวเองผิดจริงพร้อมให้ดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ยอมถอดจีวรนอนคุกเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการตรวจสอบ ยึดคืนผืนป่าทั่วประเทศ กับผู้บุกรุกป่าสงวนอย่างผิดกฏหมาย โดยเฉพาะกรณีของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่เข้าไปรุกที่ป่าสร้างเป็นอาคาร รีสอร์ท
ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปสร้างอาคาร สถานที่ อย่างที่ถูกกล่าวหาแน่นอน เพียงแค่เข้าไปปลูกป่าเท่านั้น แล้วมีข้าราชการกรมป่าไม้ไปร่วมและอำนวยความสะดวกในพิธีปลูกป่าที่แม่วางด้วย
นอกจากนี้ยังยื่นคำขออนุญาตทำการปลูกสร้างสวนป่า หรือ ปลูกไม้ยืนต้นภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบกรมป่าไม้ ว่าด้วย การอนุญาตให้ทำการปลูกสร้างสวนป่า หรือปลูกต้นไม้ยืนต้นภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2548
สุขุม มิตรตัดสา ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง กรมป่าไม้ กล่าวว่า จะรับเรื่องเรียนอธิบดีกรมป่าไม้และให้ส่วนที่เกี่ยวข้องตรวสอบโดยเร็วที่สุดแต่ไม่สามารถระบุได้ว่าใช้เวลากี่วัน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)