Skip to main content
sharethis

ไทยพีบีเอสแจงเสนอข้อเท็จจริงเพื่อสร้างการตระหนักรู้ภัยแล้ง หลังประยุทธ์ตำหนิไม่เสนอผลงานรัฐบาล ด้านอดีตกก.นโยบาย ย้ำสื่อสาธารณะต้องไม่ใช่เครื่องมือรัฐบาล

18 มี.ค. 2559 กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี วิจารณ์การเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส วานนี้ระหว่างปาฐกถาพิเศษเรื่อง การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารกับความโปร่งใสในการบริหารงานภาครัฐ โดยกล่าวถึงการนำเสนอสื่อโทรทัศน์ที่เป็นของรัฐว่า สื่อที่มีประโยชน์ นำเสนอวิชาการ ปัญหาต่างๆ ไม่ค่อยดูกัน แต่กลับไปดูแต่เรื่องความขัดแย้ง ดูแต่ช่องไทยพีบีเอสที่เอาแต่ปัญหาความเดือดร้อน มานำเสนอแต่ที่มันแล้ง แต่กลับไม่นำเสนอในสิ่งที่รัฐบาลทำอะไรอยู่

“ผมไม่ได้ว่า แต่ก็ต้องรู้ว่าช่องไทยพีบีเอส ใช้งบประมาณภาษีของรัฐ ต้องช่วยกันสร้างความเข้าใจ อย่านำเสนอข้างเดียว ทำข้างเดียวก็ตายกันพอดี ถ่ายแต่ที่น้ำแล้ง แต่ที่ที่เขาทำนาดี ปลูกพืชดีกลับไม่ถ่าย ถ่ายแต่เหล่านี้มาให้คนด่ารัฐบาล แล้วแบบนี้สมควรจะใช้เงินของรัฐบาลหรือไม่ มันต้องใช้เงินของรัฐให้เกิดความคุ้มค่า ให้ประเทศชาติปลอดภัย ให้ทุกคนในประเทศมีความเข้าใจ สื่อจะต้องเป็นแบบนี้ ไปดูช่อง 11 วันนี้ผมให้เขาปรับผังหมดตามที่ผมต้องการ แต่ก็ยิ่งไม่มีคนดูใหญ่ เพราะมีแต่เรื่องวิชาการ ปลูกพืช น้ำแล้ง แต่กลับไม่ดูกัน คะแนนก็ตกใหญ่ ก็ได้สั่งให้ไปปรับทั้งหมดแล้ว เผลอๆ ช่อง 5 ก็คะแนนตกด้วย ทั้งนี้ช่อง11 ทำอะไรไม่ได้ในเชิงธุรกิจเพราะต้นทุนต่ำ จะทำละครเหมือนช่องพาณิชย์ก็ไม่ได้ หากทำตอนยาวไม่ได้ ก็ทำตอนสันไป ทำให้ดีๆ มีสาระ ทำให้คนรักกัน”

อนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) ยืนยันว่า ไทยพีบีเอสทำหน้าที่อย่างรอบด้านตามข้อมูลและข้อเท็จจริงที่ได้รับ ตามเจตนารมณ์สร้างการตระหนักรู้ให้กับสังคม

"ในภาคของการนำเสนอข่าวในต่างจังหวัด เน้นเสนอข้อเท็จจริง และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ไทยพีบีเอส ได้ลงไปร่วมทำกิจกรรมร่วมกับ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ไปที่ อ.หนองหญ้าไทร และมีทหารจากมณฑลทหารบกที่ 17 รวมทั้งตัวแทนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และชาวบ้านที่หนองกระโดนมน ร่วมกันสร้างอ่างเก็บน้ำเล็กๆ เพื่อใช้ในชุมชน" อนุพงษ์ กล่าว

ด้าน สุวรรณา จิตประภัสสร์ อดีตกรรมการนโยบาย และอดีตสมาชิกสภาผู้ชมผู้ฟัง ไทยพีบีเอส เขียนจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีผ่านเฟซบุ๊กว่า ในฐานะที่เป็นประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียภาษีให้กับรัฐตลอดมา เช่นเดียวกับประชาชนผู้เสียภาษีทั้งประเทศ ขอเรียนท่านว่า "เงินของรัฐ" คือเงินภาษีที่รัฐได้มาจากประชาชน

"ไทยพีบีเอสในฐานะที่เป็นสื่อสาธารณะได้รับงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนอาชีพอย่างถูกต้อง ได้นำเสนอปัญหาที่แท้จริงของประชาชนที่สามารถสะท้อนปัญหานี้ไปสู่ระดับนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพ" สุวรรณา ระบุและว่า คาดหวังว่าหัวหน้ารัฐบาลจะรับฟังเสียงจากคนที่ทุกข์ยากเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง

"อันที่จริงแล้ว ดิฉันอยากเห็นท่านนายกสั่งการให้สื่อของรัฐที่ใช้เงินภาษีเช่นเดียวกัน นำเสนอข่าวปัญหาประชาชนให้มากกว่านี้ ครอบคลุมกว่านี้ เพื่อทำให้กลไกทุกภาคส่วนของรัฐได้ทำงานเพื่อตอบสนองกับสถานการณ์ที่เป็นจริง" สุวรรณาระบุ

"การที่ท่านอาจพิจารณาตัดงบประมาณไทยพีบีเอสเพียงเพราะไทยพีบีเอสสะท้อนปัญหาประชาชนด้านเดียว ทำให้ดิฉันนึกถึงกลุ่มทุนการเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยใช้อำนาจเงินโฆษณามาปิดปากสื่อมวลชนเพื่อให้การทำงานของตนเองและพรรคพวกราบรื่น ปราศจากความคิดเห็นที่แตกต่าง ดิฉันหวังว่าท่านจะให้ความสำคัญคุณค่าสื่อสาธารณะที่ต้องไม่กลายเป็นเครื่องมือของรัฐบาลอีกช่องทางหนึ่ง แต่เป็นเครื่องมือของประชาชนที่สามารถสื่อกับรัฐได้อย่างอิสระ ปราศจากการกดดันของภาครัฐหรือทุน"

 

ที่มา: มติชนออนไลน์, ไทยพีบีเอส, เฟซบุ๊กสุวรรณา จิตประภัสสร์

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net