Skip to main content
sharethis

ชาวสวนนครปฐมเรียกร้องรัฐเดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ควรรีบประกาศการสิ้นสุดของหายนะภัย เพียงเพราะภัยพิบัติเริ่มถอยออกจากพื้นที่เมืองหลวง จี้ปกป้องพื้นที่เกษตร ขอความช่วยเหลือให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยกู้สวน ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ก่อนต้นไม้จะต้องตายทั้งหมด 19 พ.ย. 54 – กลุ่มเกษตรกร จ.นครปฐม นำโดยสภาลุ่มน้ำท่าจีน และเครือข่ายสวนส้มโอ ได้ออกแถลงการณ์ด่วน เรื่อง “เกษตรกรไทยเรียกร้องรัฐให้ปกป้องพื้นที่เกษตรสำคัญ จ.ว. นครปฐม คุ้มครองวัฒนธรรมการทำสวน ไม้ยืนต้น บนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์โดยทันที” โดยมีรายละเอียดดังนี้ แถลงการณ์ด่วน เกษตรกรไทยเรียกร้องรัฐให้ปกป้องพื้นที่เกษตรสำคัญ จ.ว. นครปฐม คุ้มครองวัฒนธรรมการทำสวน ไม้ยืนต้น บนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์โดยทันที หลายคนมองว่าสถานการณ์ใน กทม. อยุธยา และจังหวัดอื่นๆ ดีขึ้นมาก และทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลาย กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว แต่หารู้ไม่ว่าน้ำจำนวนมหาศาลซึ่งท่วมในแหล่งอาหารทางการเกษตร และท่วมที่ นครปฐมตั้งแต่วันที่ 28 เดือนที่แล้ว มันสร้างความเสียหายมหาศาล ให้ชาวสวนนับหมื่นไร่ โดยเฉพาะสวนส้มโอ ที่ดีที่สุดในโลก ย่านสามพราน นครชัยศรี นับพันๆไร่ และพื้นที่อื่นๆ ที่น้ำท่วมสูง และขังต้นพันธุ์ส้มโอ มะม่วง ไม้ยืนต้นมากมาย ที่กำลังจะตายบนพื้นที่ ถึง5000 ไร่ รัฐคงไม่ทราบเลยว่าขณะนี้นครปฐมจะสูญเสียวัฒนธรรมการทำสวนแบบผสมผสาน อย่างน่าเสียดาย และน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาทุกคนย่อมเห็นอกเห็นใจภาคอุตสาหกรรม และคนไทยทุกคนก็เห็นใจนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศที่เสียหายย่อยยับในครั้งนี้ แต่ความสำคัญของภาคเกษตรกรรม ทั้งทางน้ำและทางบก ควรได้รับการดูแล ช่วยเหลือ ไม่ยิ่งหย่อนกัน ทั้งนี้เป็นเพราะอาหารในจังหวัดชายขอบอ่าวไทยที่ติดกับ กทม. มีความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจมหาศาล เป็นสินค้าส่งออก ที่สร้างรายได้ให้ประเทศชาติปีละ 500 ล้านบาท และมีความหมายทางวัฒนธรรม ซึ่งยากเกินกว่าจะพรรณนา เกษตรกรในย่านดังกล่าวไม่สามารถยอมรับคำประกาศของรัฐที่มองว่าสถานการณ์ ของประเทศดีขึ้นได้ ในเมื่อสิ่งที่เห็นนั้นมันเป็นภาพของการเปลี่ยนพื้นที่ภัยพิบัติจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเท่านั้น ผู้ประสบภัยในจังหวัดที่น้ำแห้งเริ่มรับรู้กับมูลค่าความเสียหายที่เป็นตัวเงินหลังน้ำลด ยังต้องเผชิญชะตากรรมกับอนาคตที่ไม่แน่นอนอีกนาน ขณะเดียวกันพื้นที่น้ำท่วมขังที่นครปฐมยังอยู่ในสภาวะที่สาหัสสากรร ซึ่งสื่อมวลชนเองก็เข้าไม่ถึง ไม่เป็นภาพข่าว และไม่ได้รับการดูแล ในที่สุดประชาชนชาวเกษตรกรในย่านดังกล่าว อดสงสัยไม่ได้ว่า 90 วันที่ผ่านไป ยังให้เวลารัฐบาลปกป้องพื้นที่อาหารไม่มากพอหรือ ไม่สามารถบรรเทาความเสียหายได้เชียวหรือ มันเป็นการปล่อยให้น้ำท่วมแบบเลยตามเลย ด้วยข้ออ้างที่หลายคนมักพูดว่า “ต้องปล่อยให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ อย่าไปกั้นมัน” แต่นั่นหมายถึงปล่อยให้เกษตรกรเสียหาย อย่าไปสนใจพวกมันด้วยหรือเปล่า ชาวสวนของจังหวัดนครปฐม จึงเรียกร้องมายังรัฐ ให้เดินหน้าแก้ปัญหาอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ควรรีบประกาศการสิ้นสุดของหายนะภัย เพียงเพราะภัยพิบัติเริ่มถอยออกจากพื้นที่เมืองหลวงเท่านั้น ความหายนะยังเดินหน้าต่อไปและหนักหนาสาหัสในพื้นที่อื่นๆ มากเกินกว่าที่ท่านคาดต่างหาก จึงเรียนมาเพื่อขอความเห็นใจ ความช่วยเหลือ เพื่อหาทางให้น้ำลด ขอบรรดาอาสาสมัครเข้ามาช่วยเกษตรกรในการนำกระสอบทรายเข้ามาช่วยชาวสวนส้มโอทำคันกั้นน้ำ และดูดน้ำออกไปโดยด่วน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านต้องประสบภัยหรือหมดกำลังใจไปมากกว่านี้ การสูญเสียครั้งนี้อาจจะเรียกคืนวัฒนธรรมการทำสวนในพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไม่ได้อีกแล้ว และเมื่อนั้นเราจะเรียกหาความมั่นใจให้คนรุ่นต่อไปให้ทำสวนเลี้ยงคนทั่งประเทศคงจะยากแล้วครับ ณ วันนี้ ชาวสวนส้มโอต่างขอความช่วยเหลือให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยกู้สวน ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์เท่านั้นที่ต้นไม้จะต้องตายทั้งหมด ชาวสวนจำนวนมากยอมเสียสละพื้นที่สวนที่อยู่ระดับต่ำให้เป็นที่ผันน้ำลงมา เพื่อรักษาพื้นที่สวนระดับสูงไว้ให้ได้ เมื่อน้ำลดเมื่อใด ชาวสวนที่รอดตายก็จะยอมมอบพันธ์ส้มโอ ให้ชาวสวนที่ไม่สามารถกู้ต้นส้มโอได้ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ นาย กมล เปี่ยมสมบูรณ์ ประธานสภาลุ่มน้ำท่าจีน 081 8045160 นายประวิต บุญมี ประธานเครือข่ายสวนส้มโอ 081 3402867 และ ดร. มนตรี ค้ำชู 081 6185901

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net