Skip to main content
sharethis

"นคร ชมภูชาติ จากสภาทนายความ ในฐานะทนายความของน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์"

คดีที่ฟ้องทางแพ่งครั้งนี้มีเนื้อความเหมือนคดีอาญาที่เคยถูกฟ้องมาแล้วก่อนหน้านี้แต่เป็นการเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมโดยโจทก์ระบุสาเหตุของความเสียหายว่ามาจาก 4 ข้อ ข้อละ 100 ล้านบาท คือ

1.ทำให้โจทก์ซึ่งประกอบกิจการโดยเฉพาะโทรคมนาคมที่มีชื่อเสียงมาโดยตลอดต้องได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง เกียรติคุณ

2.จำเลยทำให้โจทก์เสียหายในทางทำกิน รวมทั้งทางเจริญเติบโตของธุรกิจ ที่คาดว่าจะมีความเจริญอย่างต่อเนื่องเพราะผู้ใช้บริการขาดความไว้วางใจ

3.โจทก์อ้างว่าเลขาฯคปส.ทำให้กิจการที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีกำไรมาโดยตลอดต้องเสียหายถูกคณะกรรมการกำกับตลอดหลักทรัพย์เรียกไปตรวจสอบจนทำให้มูลค่าหุ้นลดน้อยลงทำให้โจทก์ต้องชี้แจงและประกาศโฆษณากับนักลงทุน และ

4.โจทก์อ้างว่าได้รับความเสียหายในด้านความน่าเชื่อถือในการระดมทุนจากที่เคยมีฐานะที่มั่นคง แต่ปัจจุบันโจทก์ต้องถูกทบทวนเครดิต

ขณะที่ผมยังไม่สามารถพูดได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิดหรือถูกและไม่ต้องการสร้างกระแสกดดันการพิจารณาของศาล แต่คปส.เองสามารถยืนยันเจตนาว่าการกระทำทั้งหมดไม่ใช่ต้องการมุ่งหวังกับตัวบุคคลใดโดยเฉพาะแต่เป็นเรื่องที่ปรากฎในสังคมว่ามีกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม กับนักการเมืองใหญ่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนซึ่งประชาชนก็รับรู้และกระบวนการตรวจสอบก็เป็นสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ

ถ้าโจทก์ไม่เข้าใจเจตนานี้เมื่อเห็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ก็สามารถสอบทานเพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนกับน.ส.สุภิญญา ได้โดยตรง ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดปัญหาแต่ในความเป็นจริงน.ส.สุภิญญา ไม่เคยได้รับการติดต่อแต่อย่างใด มารู้ตัวอีกครั้งก็ถูกฟ้องแล้ว ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต และยุ่งยากซึ่งสุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่าคดีจะจบอย่างไร

รายงานโดย : ศูนย์ข่าวประชาไท

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net