Skip to main content
sharethis

สื่อต่างชาติเริ่มตั้งข้อสังเกตว่าทางการจีนกำลังพยายามแบนตัวการ์ตูน 'วินนี่ เดอะ พูห์' หรือที่เรียกกันว่า 'หมีพูห์' หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการทำมีมตัวการ์ตูนตัวนี้เปรียบเทียบกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน พวกเขาสั่งห้ามการแสดงความคิดเห็นว่า "เจ้าหมีน้อยวินนี" ในโซเชียลมีเดียและนำสติกเกอร์ลายหมีพูห์ออก

18 ก.ค. 2560 "ไม่รู้ว่าวินนีเดอะพูห์ไปทำอะไรให้กองเซนเซอร์ของจีนโกรธ" เดอะการ์เดียนนำเสนอในข่าวของพวกเขา ทางการจีนก็ยังไม่มีคำอธิบายใดๆ เกี่ยวกับการเซนเซอร์ตัวการ์ตูนตัวนี้

โดยถึงแม้ว่าในช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (17 ก.ค.) จะยังคงโพสต์รูปและเขียนคำว่าวินนีเดอะพูห์ในภาษาจีนได้ทางโซเชียลมีเดียอย่างเว่ยป๋อ แต่การแสดงความคิดเห็นด้วยคำว่า "เจ้าหมีน้อยวินนี" ซึ่งเป็นคำที่จีนใช้เรียกหมีพูห์จะทำให้เกิดข้อความระบุว่าไม่สามารถดำเนินการต่อได้เพราะ "เนื้อหานี้ผิดกฎหมาย" ในวีแช็ตก็มีการนำสติกเกอร์หมีพูห์ออก แต่ภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ แบบ gifs ยังคงสามารถใช้ได้ 

มีการตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดถึงแบนการสื่อถึงหมีพูห์ไปบางส่วน สื่อต่างประเทศมองว่าน่าจะเป็นเพราะหมีพูห์เคยถูกนำมาเปรียบเทียบเป็นประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมาก่อน

การเปรียบเทียบที่ว่านี้มีมาตั้งแต่ปี 2556 แล้ว เคยมีคนนำเสนอรูปของสีจิ้นผิงกำลังเดินคุยกับบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในยุคสมัยนั้น แล้วนำมาเทียบกับรูปของหมีพูห์เดินคุยกับเพื่อนเสือทิกเกอร์ ซึ่งหลังจากนั้นผู้ใช้โซเชียลมีเดียชาวจีนก็เริ่มแพร่กระจายภาพเหล่านี้ออกไปเรื่อยๆ

ในปี 2557 ก็เคยมีรูปของสีจิ้นผิงจับมือกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ก็มีคนนำรูปนี้มาเทียบกับหมีพูห์กำลังจับมือกับลาหน้าตาเศร้าสร้อยที่ชื่ออีออร์ ในปี 2558 ก็มีรูปของสีจิ้นผิงยืนแสดงตัวผ่านหลังคารับแดดของรถในขบวนพาเหรด มีคนนำรูปภาพนี้มาเทียบกับรูปของเล่นหมีพูห์กำลังนั่งรถ ซึ่งสื่อวิเคราะห์การเมืองโกลบอลริสค์อินไซต์ระบุว่ารูปหลังนี้กลายเป็นรูปที่จีนเซนเซอร์บ่อยครั้งที่สุดในปีนั้น

เดอะการ์เดียนระบุว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีความอ่อนไหวมากต่อเรื่องการนำเสนอภาพในเชิงการ์ตูนของผู้นำโดยเฉพาะกับผู้นำสีจิ้นผิงที่พยายามรวบอำนาจไว้ในช่วงก่อนการประชุมประจำปีของพรรคหลังจากนี้

อย่างไรก็ตามมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียในจีนหลายคนพยายามทดสอบว่ามีการปิดกั้นการสื่อถึงหมีพูห์นี้มากแค่ไหน มีผู้ใช้เว่ยป๋อรายหนึ่งระบุว่า "เจ้าวินนี่น้อยผู้น่าสงสาร ... เจ้าหมีบ้าน้ำผึ้งที่น่ารักตัวนี้ไปทำอะไรที่เป็นการยุยงปลุกปั่นอะไรใครหรือไง"

แม้จะดูเป็นตัวการ์ตูนน่ารักแต่ผู้นำจีนคนปัจจุบันก็ดูจะเคร่งขรึมเสียจนไม่ยอมให้เอาภาพของตัวเองไปเทียบกับตัวการ์ตูนน่ารักๆ ที่ไม่มีพิษมีภัย นี่คือสิ่งที่สตีเฟน แมคโดเนลล์ นำเสนอมุมมองไว้ในบีบีซีระบุว่าสีจิ้นผิงรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูเป็นคนที่ไม่ทำอะไรไร้สาระ ดูไม่มีอะไรแปลกประหลาด พยายามทำตัวให้ตัวเองดูเหมือนไม่มีความผิดพลาด อยู่เหนือทุกคนโดยที่ไม่ต้องมีใครตั้งคำถามกับเขา

ทั้งนี้แมคโดเนลล์ ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าชาวเน็ตของจีนก็พยายามจะล้อเลียนเสียดสีรัฐบาลจีนในแบบที่พวกเขาพอจะทำได้ เช่นบล็อกเกอร์บางคนเวลาถูกเซนเซอร์พวกเขาจะใช้คำว่า "ถูกทำให้ปรองดอง" ซึ่งเป็นการเสียดสีคำพูดติดปากของผู้นำจีนคนก่อนหน้านี้หูจินเทาที่ชอบใช้คำว่า "เสริมสร้างสังคมที่ปรองดอง" อดีตผู้นำอีกคนหนึ่งคือเจียงเจ๋อหมินก็เคยเสนอทฤษฎี "สามตัวแทน" ซึ่งมีคนนำมาสลับตัวอักษรกลายเป็นนาฬิกาข้อมือสามเรือน หลังจากนั้นก็มีคนแสดงออกในเชิงเสียดสีด้วยการสวมนาฬิกาสามเรือนเพื่ออ้างว่ากำลัง "ช่วยเกื้อหนุนสังคมนิยมแบบจีน"

นอกจากนี้ยังมีกรณีการพยายามปิดกั้นการพูดถึงนักต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย หลิวเสี่ยวโป หลังจากที่เขาเสียชีวิตเมื่อไม่นานนี้โดยการบล็อกข้อความหรือรูปภาพที่ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับตัวเขา

แมคโดนเนลล์วิเคราะห์ถึงสีจิ้นผิงอีกว่าการที่เขาพยายามบล็อกแม้กระทั่งหมีพูห์สะท้อนความพยายามควบคุมอำนาจของสีจิ้นผิงเองในการเข้าสู่ตำแหน่งสมัยที่ 2 จากการส่งเสริมคนที่ดูเป็นพันธมิตรกับเขาและกีดกันคนที่ดูเป็นภัยสำหรับเขา แต่สีจิ้นผิงเองก็สร้างศัตรูเอาไว้ภายในพรรคมากเช่นกันในช่วงที่มีการปราบปรามคอร์รัปชัน สีจิ้นผิงจังพยายามไม่ยอมให้มีช่องโหว่ใดๆ ในการจะเล่นงานเขาได้ เรื่องนี้ถึงทำให้เกิดบรรยากาศปิดกั้นในประเทศขึ้น

 

เรียบเรียงจาก

‘Oh, bother’: Winnie the Pooh falls foul of Chinese internet censors, The Guardian, 17-07-2017

https://www.theguardian.com/world/2017/jul/17/winnie-the-pooh-chinese-internet-censors-xi-jinping

Why China censors banned Winnie the Pooh, Stephen McDonell, BBC, 17-07-2017

http://www.bbc.com/news/blogs-china-blog-40627855

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net