Skip to main content
sharethis

ทหารไปบ้านขอคุยกับชลธิชา แจ้งเร็ว นักกิจกรรมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อขอพูดคุยให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง และห้ามออกนอกประเทศ ระบุเคยทำ MOU กับ คสช. ไว้ตั้งแต่ปี 2557 แต่ไม่พบเจ้าตัว ทหารย้ำจะมาอีกจนกว่าจะได้คุย

7 มิ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. มีเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่เขตลาดหลุมแก้ว ได้เดินทางเข้าไปที่บ้านพักของชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด สมาชิกกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกรณีที่ชลธิชา ได้เคยทำข้อตกลงเรื่องการไม่เคลือนไหวทางการเมืองไว้กับ คสช. เมื่อปี 2557 ทั้งนี้การทำข้อตกลงดังกล่าวเกิดจากการถูกควบคุมตัวจากการจัดกิจกรรมกินแซนวิชต้านรัฐประหาร และในเวลานั้นลูกเกด และเพื่อนอีกหลายคนภายใต้การควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ทหาร (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ชลธิชล ให้ข้อมูลว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร แต่งกายในเครื่องแบบทหารจำนวนประมาณ 4-5 คน ไปขอพบเธอที่บ้านพัก แต่ในเวลานั้นเธอไม่อยู่ที่บ้าน เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้พูดคุยกับแม่ของเธอแทน โดยเจ้าหน้าที่ทหารชี้แจงว่า ที่มาในวันนี้เพราะต้องการที่จะพูดคุยทำความเข้าใจกับเธอ เนื่องจากเธอได้เคยข้อตกลงกับ คสช. ไว้เมื่อปี 2557 โดยตกลงว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมือง และจะไม่ออกนอกประเทศ

ชลธิชา เล่าต่อไปว่า นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร และเธอเริ่มออกไปเคลื่อนไหวแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลทหาร นอกจากจะถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว เธอยังถูกเจ้าหน้าที่ทหารมาหาที่บ้านอยู่หลายครั้ง ซึ่งประมาณได้ว่าไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง โดยการมาแต่ละครั้งของเจ้าหน้าที่ทหารส่วนมาก จะเป็นเพียงการมาถ่ายรูปบริเวณหน้าบ้านแล้วกลับไป ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่ใส่เครื่องแบบทหารมา และจะมีเพียงบางครั้งที่เข้ามาพูดคุยกับครอบครัวของเธอ แต่สำหรับครั้งนี้มีลักษณะที่แปลกไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทหารได้อ้าง MOU กับ คสช. ว่าจะไม่เคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงเวลาหลังการรัฐประหาร เพื่อเข้ามาพูดคุยกับเธอ

ทั้งนี้ ชลธิชา ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทหารมีคำถามเป็นพิเศษกรณีที่เธอ สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ โดยต้องการรู้ว่าเพราะอะไรเธอจึงสามารถออกจากประเทศไทยได้ทั้งที่ยังมี MOU ดังกล่าวอยู่ อย่างไรก็ตามเธอเล่าว่าการเดินทางออกไปต่างประเทศนั้นเป็นการเดินทางไปร่วมวงเสวนาเชิงวิชาการเพียงเท่านั้น ไม่เป็นการเคลื่อนทางการเมืองแต่อย่างใด และกิจกรรมที่เธอยังทำอยู่ในปัจจุบันก็มีเพียงการจัดเวทีเสวนาเชิงวิชาการ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

ชลธิชา เล่าด้วยว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารไม่พบว่าเธออยู่ที่บ้านพัก เขาได้ฝากเบอร์โทรติดต่อกลับ เพื่อให้เธอโทรหาเพื่อนัดหมายวันเวลา เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับเขา และระบุในลักษณะว่า จะมาหาอีกครั้งจนกว่าจะได้คุย

“เราก็เพิ่งคุยกับเพื่อนนะว่าทำไมเขาถึงหยิบเรื่อง MOU ของปี 2557 มาอ้าง ซึ่งมันแปลกมากเพราะก่อนหน้านี้เวลามาบ้านก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ สำหรับเราเห็นว่าตัว MOU มันไม่น่าจะมีสภาพบังคับแล้วนะ เพราะในตอนที่ทำเข้าใจว่า คสช. ต้องการขอเวลาทำงานตามโรดแมปที่วางไว้ แต่ตอนนี้มันเลยเวลาตรงนั้นมาแล้ว” ชลธิชากล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net