Skip to main content
sharethis

ครม.สั่งคลังศึกษาเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ ประยุทธ์ แนะหาแนวทางให้ผู้สูงวัยสละสิทธิเบี้ยผู้สูงอายุ โดย รัฐบาลออกใบประกาศ-เหรียญตราให้เพื่อนำเงินส่วนน้ไปให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน สรรเสริญชี้ผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเยอะ เพราะคนเชื่อมั่น 

ภาพจาก เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล

23 พ.ค. 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึง ข้อเสนอของกระทรวงการคลังในการเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,000 ถึง 1,500 บาทต่อเดือน ว่า การดำเนินการในเรื่องนี้จะต้องพิจารณาใน 3 มิติ ทั้งเรื่องของจำนวนผู้สูงอายุ ที่จะเพิ่มขึ้นภายใน 4-5 ปีข้างหน้า ควบคู่กับการจัดเตรียมงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ และต้องพิจารณาในเรื่องของคนที่อยู่ในวัยทำงาน ซึ่งจากข้อมูลพบว่าคนในวัยแรงงานลดลง รัฐบาลจึงจำเป็นต้องผลิตคนให้ทันต่อความต้องการในตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณากรณีที่อัตราการเกิดของคนไทยน้อยลง

“ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ ให้มีการศึกษาปัจจัยทั้งหมด เพื่อประกอบการพิจารณาปรับขึ้นเบี้ยยังชีพให้กับผู้สูงอายุ และได้ฝากประเด็นการพิจารณาเพิ่มเติม โดยให้มีการตรวจสอบรายชื่อผู้สูงอายุ ที่จะต้องยึดโยงกับข้อมูลของประชาชน ที่ได้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยกว่า 14 ล้านคน เพื่อใช้ในการกำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม และตรงความต้องการ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

"ถ้าทุกคนคำนึงถึงว่าต้องเท่ากันเท่ากันทั้งหมด มันไปไม่ได้ทั้งหมด เพราะต้องใช้จ่ายเงินตั้งหลายอย่างไง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันว่า เบี้ยยังชีพที่ได้ให้กับผู้สูงอายุไปแล้ว ยังคงดำเนินการตามเดิม ไม่มีการลดเงินช่วยเหลือ แต่คนใหม่จะมาดูเป็นพิเศษหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกทีว่าจะดูแลอย่างไร ต้องมาพิจารณาร่วมกัน ไม่เช่นนั้นการขึ้นบัญชีผู้มีรายได้น้อยไม่รู้จะทำมาทำไม เพราะนี่เป็นการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล และได้ฝากให้นำแนวคิดของกระทรวงการคลังไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจ ถึงแนวทางสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้เพียงพอ และต้องการสละสิทธิ์ เพื่อนำเงินส่วนดังกล่าว ไปช่วยเหลือผู้สูงอายุในกลุ่มที่มีรายได้น้อย โดยอาจพิจารณาให้รางวัลเป็นการแสดงความขอบคุณ 

"บางท่านผมคิดว่าคนไทยนี่นะ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อยู่แล้ว ก็ดูสิครับ ถ้าผู้สูงวัยที่มีรายได้เพียงพออยู่แล้ว ท่านอาจจะสละสิทธิมา แล้วรัฐบาลก็มีใบประกาศ มีเหรียญตราอะไรให้ได้ไหม ว่าเขาเสียสละมาแล้ว เอาเงินจากตรงนั้นลดลงมาเพิ่มตรงนี้ได้ไหม ในส่วนที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน ต้องคิดแบบนี้มันถึงจะเรียกการเผื่อแผ่แบ่งปันนะ ถ้าทุกคนเอาแต่สิทธิ แต่สิทธิ แต่รัฐบาลจะเอาที่ไหนมาล่ะ รัฐบาลไม่มีสิทธิที่จะขึ้นภาษีไม่มีสิทธิอะไรสักอย่างเลยตอนนี้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ชี้ผู้ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยเยอะ เพราะคนเชื่อมั่น

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม คสช.วันนี้ (23 พ.ค.)นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐปีนี้มียอดรวมกว่า 14 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากการลงทะเบียนปีที่ผ่านมาที่มียอด 8 ล้านคน ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พบว่าจำนวนผู้มีรายได้น้อยในประเทศไทยมี 13-14 ล้านคน แต่การลงทะเบียนครั้งแรกมีเพียง 8 ล้านคน เป็นไปได้ว่ามีผู้พยายามบิดเบือนข้อมูลว่าถ้าหากไปลงทะเบียนจะเป็นการแบ่งชนชั้นคนรวยคนจน หรือมีการระบุว่าอย่าไปลง หากลงทะเบียนรัฐบาลจะล้วงความลับจะมาไล่เก็บภาษี เป็นต้น ทั้งหมดไม่เป็นความจริง 

ดังนั้น ตัวเลขลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยครั้งนี้ จึงเป็นตัวเลขสะท้อนความเป็นจริง อีกปัจจัยคนเชื่อมั่นและมาลงทะเบียนมากขึ้น คือ การประชาสัมพันธ์ที่ค่อนข้างกว้างขวางทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับ ประชาชนเห็นตัวอย่างการช่วยเหลือประชาชนในผู้ที่ลงทะเบียนรอบแรก จึงไว้วางใจมาลงทะเบียนมากถึง 14 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลจะนำข้อมูลไปพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีนโยบายว่าต่อจากนี้โครงการที่รัฐบาลต้องการเร่งรัดให้เกิดผลรวดเร็ว เพื่อขับเคลื่อนสู่ประเทศไทย 4.0 และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน หากติดขัดข้อกฎหมายใดจะต้องปลดล็อคให้ได้ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องประสานกันอย่างใกล้ชิดและทำข้อเสนอว่าต้องการให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปลดล็อคเรื่องใดบ้าง

ที่มา : ยูทูบ 'ทำเนียบ รัฐบาล'  และสำนักข่าวไทย 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net