ประวิตร แจงที่ไม่แถลงซื้อเรือดำน้ำ เหตุเป็นเอกสารลับ ย้ำดำเนินการโปร่งใส

พล.อ.ประวิตร แจงที่ไม่แถลงซื้อเรือดำน้ำ เหตุเป็นเอกสารลับ ย้ำดำเนินการอย่างโปร่งใส จัดซื้อแบบ G TO Gเหตุที่เลือกเรือดำน้ำจากจีนเพราะว่าราคาถูกมาก ขณะที่สรรเสริญ แจงไม่แถลง เพราะเป็นชั้นความลับ ด้าน อดีต รองเลขาธิการ สมช. ชี้ยามปรกติเรือยามฝั่งก็พอ

25 เม.ย. 2560 รายงานข่าวระบุว่า วันนี้ (25 เม.ย.60) เมื่อเวลา 9.00 น. ณ บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีผลการประชุมคณะรัฐมนตรีในการจัดซื้อเรือดำน้ำซึ่งเป็นเอกสารลับว่า ทางคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติจัดซื้อเรือดำน้ำมานานแล้ว  ซึ่งไม่ได้เป็นการอนุมัติเงียบอย่างที่กล่าวอ้างกันแต่อย่างใด โดยการจัดซื้อเรือดำน้ำนั้นมีความจำเป็นอย่างมาก เพราะทางกองทัพเรือมีความต้องการมานานแล้ว เพื่อจะได้ใช้เป็นยุทธศาสตร์ 200 ไมล์ทะเลทางทะเลฝั่งทะเลอันดามันของประเทศไทย เพื่อปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนิเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศติดกับทะเลต่าง ๆ ก็ต้องจัดหาเรือดำน้ำไว้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศ เช่นกัน

พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่า ในส่วนการจัดชื้อเรือดำน้ำนั้นดำเนินการอย่างโปร่งใส โดยจัดซื้อแบบ G TO G สาเหตุที่เลือกเรือดำน้ำจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเพราะว่าราคาถูกมาก รวมถึงฟังค์ชั่นพิเศษที่ทางการจีนมอบให้ก็มากกว่าประเทศอื่น ๆ  ซึ่งมีราคาแพงกว่าและไม่มีฟั่งคชั่นเสริมให้เรือดำน้ำเลย ซึ่งเรือดำน้ำนั้นจำเป็นต้องมี ยุทโธปรณ์ เครื่องมือที่ใช้โดยเฉพาะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือดำน้ำลำหนึ่งจะใช้เวลาส่งมอบโดยประมาณ 5-6 ปีต่อ 1 ลำและกว่าจะได้รับมอบรวม 3 ลำ ก็ใช่เวลาประมาณ 11 ปี โดยงบประมาณการจัดชื้อเป็นงบผูกพันต่อเนื่องของกองทัพเรืออยู่แล้วที่ใช้ในแผนการพัฒนาของกองทัพเรือไม่ใช่งบประมาณพิเศษแต่อย่างใด

ต่อกรณีคำถามว่าหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวเมื่อผ่านการเห็นชอบ ครม. แล้วไม่มีการแถลงอย่างเป็นทางการ นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “เพราะว่าเอกสารนี้เป็นเอกสารลับ เขาไม่เปิดเผยกัน ทุกเรื่องที่เป็นเอกสารลับ ไม่ว่าจะเป็น ครม.ไหนก็เหมือนกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นเอกสารทางด้านยุทธศาสตร์ เรื่องยุทธวิธีเป็นเอกสารลับทั้งหมดอยู่แล้ว ทุกกระทรวง ทบวง กรม มีเอกสารลับทั้งหมด”

เมื่อถามว่า สรุป ครม.อนุมัติเมื่อวันที่ 18 เม.ย. หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ผมจำไม่ได้ ผ่านไปนานแล้ว เอาเป็นว่าผมอยู่ในที่ประชุมแล้วกัน พวกสื่อจะรู้ไปทำไม หรือจะต้องถามด้วยว่าจะหายใจอย่างไร จะต้องถามกันอย่างไร จะเกิดประโยชน์อะไรกับประเทศบ้าง ในเมื่ออนุมัติแล้ว แล้วเป็นอย่างไร ก็ให้รู้ว่าอนุมัติแล้วก็จบ ไม่ต้องไปลงว่าอนุมัติวันที่เท่าไร ในเมื่อเป็นเอกสารลับก็ต้องลับอย่างนี้ ดีก็แล้วกันไม่เห็นเป็นอะไรเลย และยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการอนุมัติเงียบ ครม.ทั้งคณะรู้ทั้งหมด ที่ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมไม่ชี้แจงให้ประชาชนทราบนั้น เดี๋ยวมันก็ทราบกันเอง ถึงเวลามันก็ทราบ อย่างเรื่องรถถังก็อนุมัติมา 1-2 เดือนแล้ว ก็เพิ่งทราบแล้วก็มาเขียน โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำใช้เวลาศึกษามา 9 ปีกว่าจะสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน กว่าจะมีการอนุมัติ ไม่ใช่คิดเพียงวันสองวัน ถือเป็นยุทธศาสตร์เก่า ซึ่งกองทัพเรือต้องการมานานแล้ว จึงได้วางยุทธศาสตร์และแผนพัฒนากองทัพไว้ มีการตั้งกองเรือดำน้ำมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีเรือ มีแต่คน”

เมื่อถามว่า พูดได้หรือไม่ว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ให้กำเนิดเรือดำน้ำ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่ใช่ พูดเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเรื่องนี้เป็นของเก่าที่กองทัพเรือเป็นผู้ริเริ่ม ตนไม่ใช่ผู้เริ่ม ถ้าบอกว่าตนเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดเรื่องนี้ ก็ต้องบอกว่านายกรัฐมนตรีเป็นผู้สนับสนุนเหมือนกัน ครม.ทุกคนก็สนับสนุนทั้งหมด

สรรเสริญ แจงไม่แถลง เพราะเป็นชั้นความลับ

ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ Yuan Class S26T จากจีน จำนวน 1 ลำ วงเงิน 13,500 ล้านบาท ที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไม่มีการแถลงข่าว ว่า การที่ไม่ได้มีการแถลงข่าวในเรื่องนี้ เนื่องจากในการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละสัปดาห์ มีเรื่องในการพิจารณาจำนวนมาก และจะแถลงเฉพาะเรื่องสำคัญ และในสัปดาห์นั้นไม่มีข้อซักถามถึงเรื่องของเรือดำน้ำ ประกอบกับหน่วยงานที่เป็นต้นเรื่องในการเสนอเข้ามา คือกองทัพเรือและกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดเป็นชั้นความลับ หรือที่เป็นเอกสารมุมแดง ซึ่งหมายความว่า เมื่อแจกให้กับคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้ว ก็จากขอเก็บเอกสารคืน จึงไม่ได้นำเรื่องดังกล่าวมาแถลง 

“แต่ขอยืนยันว่า ไม่มีการปกปิดหรือซ่อนเร้นแต่อย่างใด เพราะเอกสารมุมแดงก็มีหลายเรื่อง และเมื่อเป็นความลับ ก็ไม่ได้ลับตลอดไป จะลับในช่วงเวลาหนึ่ง และเมื่อผ่านไปก็จะไม่ลับ เพราะเรื่องก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการและขั้นตอน  และในการจัดซื้อจัดจ้าง ก็ดำเนินการอย่างโปร่งใส แบบรัฐต่อรัฐ เป็นการใช้งบประมาณแบบผูกพันของกองทัพเรือ”  พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

อดีต รองเลขาธิการ สมช. ชี้ยามปรกติเรือยามฝั่งก็พอ

การวางแผนสั่งซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีนโดยกองทัพเรือ พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ให้สัมภาษณ์ Thaivoice ตั้งแต่ ปลายมี.ค.ที่ผ่านมา ว่า กองทัพเรือมีความสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจในอนาคต เพราะธุรกิจของไทยไปไกลถึงแอฟริกาแล้ว

“จำเป็นต้องมีเรือที่แข็งแรง แต่เรือดำน้ำเนี่ยใช้กันตอนใกล้จะรบกัน ซึ่งไม่จำเป็น ปรกติเรือยามฝั่ง เรือลาดตระเวนระยะไกลใช้ประโยชน์ได้เยอะ น่าจะใช้ตรงนั้นก่อน เรือดำน้ำค่อยว่ากันทีหลังก็ได้ แล้วก็ต้องถามต่อไปว่า ทำไมไม่สร้างเอง เรามีกรมอู่ทหารเรือ มีการดูแลเรือของเราดีพอสมควร เราต้องทุ่มทุนในการดูแลตรงนี้ ให้งบประมาณในการสร้างเอง ไม่งั้นเราจะซื้อไม่จบ” อดีตรองเลขาธิการ สมช. กล่าว

 

ที่มา : เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล, มติชนออนไลน์สำนักข่าวไทย และ Thaivoice 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท