นักเขียนซีไรต์เรียกร้องเพื่อนนักเขียนลองเยี่ยม 'ไผ่ ดาวดิน' ดูสักครั้ง

'บินหลา สันกาลาคีรี' ออกจดหมายเปิดผนึกผ่านเพจ Writer Thailand เรียกร้องพี่น้องนักเขียนไม่ว่าจะอยู่ในสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม ให้ลองไปเยี่ยม 'ไผ่ ดาวดิน' ดูสักครั้ง ระบุถึงเวลาที่เราต้องถามตัวเองอย่างจริงจังว่ากรณีไผ่ ดาวดินได้รับการปฏิบัติโดยกระบวนการยุติธรรมอย่างไร และในฐานะนักเขียนสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง

 
15 ม.ค. 2560 เพจ Writer Thailand เผยแพร่จดหมายเปิดผนึกลงชื่อโดย 'บินหลา สันกาลาคีรี' ซึ่งเป็นนามปากกาของนายวุฒิชาติ ชุ่มสนิท เจ้าของรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2548 โดยเนื้อหาในจดหมายเปิดผนึกได้เรียกร้องให้นักเขียนลองไปเยี่ยม 'ไผ่ ดาวดิน' หรือ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นอกจากนั้นยังเรียกร้องให้นักเขียนถามตัวเองอย่างจริงจังว่ากรณี 'ไผ่ ดาวดิน' ได้รับการปฏิบัติโดยกระบวนการยุติธรรมอย่างไร และในฐานะนักเขียน เราสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง
 
โดยเนื้อหาของจดหมายเปิดผนึกทั้งหมดมีดังต่อไปนี้
 
 
15 มกราคม 2560
เรียน พี่น้องนักเขียนทุกท่าน 
ไม่ว่าท่านจะอยู่ในสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม
ครั้งที่ศรีบูรพา, จิตร ภูมิศักดิ์ ตลอดจนนักเขียนและนักข่าวหลายคนถูกจับเข้าคุกในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ผ่านมา หลายคนยังไม่เกิด ขณะที่หลายคนที่เกิดแล้วแต่อยู่ในวัยไร้เดียงสา ใช่ไหมครับ
ผมเองก็ยังไม่เกิด
แต่เรารู้ว่าอะไรเกิดขึ้น
เราอ่าน เราศึกษา เราจึงเขียน จึงจดจำมาบอกเล่าต่อ
เราเล่าว่าพวกเขาต้องเผชิญความอยุติธรรมอย่างไร เราชื่นชมในความกล้าหาญ แน่วแน่ ของพวกเขา (ถ้าใครยังไม่รู้จักสองคนนี้อาจติดตามได้จากหนังสือ เรื่องของจิตร ภูมิศักดิ์ เป็นหนังสือหลายเล่ม รวมทั้งเพลงพี่หงา คาราวาน ศิลปินแห่งชาติ ประวัติศรีบูรพาแนะนำเล่มที่เขียนโดยชมัยภร แสงกระจ่าง ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งค้นคว้าละเอียด ราวสวมวิญญาณ ความกล้าหาญ และอุดมการณ์ศรีบูรพาจริงๆ)
แต่ประเด็นของผมคือ 50 กว่าปีผ่านไป วันนี้เรายังมีคนที่ถูกความยุติธรรมสีดำทำร้ายอยู่อีกครับ
ล่าสุดคือกรณีของไผ่ ดาวดิน
นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
หลายท่านคงทราบ ไผ่ติดคุกอีกครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว เพราะศาลเพิกถอนข้อตกลงให้ประกันตัว วันนี้ใกล้ครบ 1 เดือนที่เขาต้องอยู่ในเรือนจำแล้ว
ทางครอบครัวไผ่และทนายความได้ยื่นขอประกันตัวตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา เท่าที่ผมทราบได้ยื่นขอมา 4-5 ครั้งแล้ว ทุกครั้งถูกยกคำร้อง
คณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตลอดจนนักกฎหมายหลายคนได้ยื่นต่อศาล แสดงความไม่เห็นด้วยกับดุลยพินิจ โดยแสดงความรู้และทรรศนะทางกฎหมาย (เพื่อนนักเขียนคงติดตามค้นหาอ่านได้ไม่ยาก) ผมคิดว่านี่คือความสามารถที่พวกเราไม่สามารถทำได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าอย่างนั้น ผู้ที่ไม่เจนจัดเรื่องกฎหมายก็ควรนิ่งเฉย ไม่ต้องทำอะไรเลย
ผมคิดว่าถึงเวลาที่เราต้องถามตัวเองอย่างจริงจังแล้วว่า
ท่านคิดว่า ไผ่ ดาวดิน ได้รับการปฏิบัติโดยขบวนการยุติธรรม อย่างไร
และในฐานะนักเขียน เราสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง
ผมอยากตะโกนถาม แต่ไม่ทราบจะตะโกนถามจากใคร เรียกร้องจากใคร ก็เลยถามเพื่อนนักเขียนนี่แหละ
เช่นเดียวกับผู้คนทุกคน ทุกอาชีพในสังคม ครู อาจารย์ นักธุรกิจ ศิลปิน ชาวไร่ชาวนา เศรษฐี หรือกระทั่งผู้พิพากษาทุกท่านบนผืนแผ่นดิน ผมอยากบอกว่ากลับไปอ่านข่าวให้ละเอียด เอาข้อกฎหมายมาพลิกดู ถามใจตัวเองดู ตัดอคติทั้งมวลทิ้ง เก็บทรรศนะทางการเมืองที่ทำให้ขุ่นมัวด้วยความรักความชังออกไป มองดูเพียงว่ากรณีของเขานี้ เขาได้รับสิ่งที่ควรหรือไม่
เราจะเรียกหาความยุติธรรมได้จากที่ไหน หากไม่เริ่มที่ใจเรา
ความขลาดหวาดกลัว ความเพิกเฉย ความเกลียดชัง มีผลให้อนาคตของเด็กหนุ่มคนหนึ่งสูญเสียไปตลอดกาล อย่าว่าแค่อนาคตของประเทศชาติเลย
ผมขอร้องอีกครั้ง เพื่อนนักเขียนทุกคนครับ ทรรศนะทางการเมืองเป็นเรื่องที่ทำให้พวกเราแตกแยกและไม่พูดคุยกันเป็นเวลาร่วมๆ 10 ปีแล้ว เอาวางไว้ก่อน เรายังต้องถกเถียงต้องต่อสู้กันเรื่องนั้นแน่ๆ แต่วันนี้ นาทีนี้ ผมขอถามทรรศนะเรื่องความยุติธรรม เปิดอกกันให้ชัดๆ ว่าเรายังมีความยุติธรรมอยู่ในหัวใจหรือเปล่า
เราคิดเรื่องความยุติธรรมอย่างไร มองเห็นตรงกันไหม
ผมไปเยี่ยมไผ่มาครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 60 ด้วยความช่วยเหลือของคุณแม่และคนรักของเขา ผมไม่เคยรู้จักเด็กหนุ่มคนนี้ในทางส่วนตัว รู้แต่เรื่องงานสิ่งแวดล้อมที่เขาต่อสู้ ในวันนั้นเราไม่ได้คุยกันนัก ความจริงแล้ว เจอหน้าแล้ว ผมไม่ได้อยากคุย แต่อยากร้องไห้มากกว่า
ผมบอกแล้วว่าเกิดไม่ทันศรีบูรพา ไม่ทันจิตร ภูมิศักดิ์ แต่ผมเชื่อว่าแววตาคับแค้นที่โชนประกายตรงหน้านั้น เป็นแววตาเดียวกัน
มิพักต้องพูดหรอกครับว่า แล้วในที่สุด คนหนึ่งออกจากคุก เดินทางไปตายนอกประเทศ คนหนึ่งต้องตายในป่า อะไรคือเหตุที่ผลักให้พวกเขาต้องออกไป ถ้าไม่ใช่ความขี้ขลาดใจแคบของสังคมที่ไม่ปกป้องพวกเขาในครั้งนั้น
วันนี้ มันกำลังจะเกิดอีกครั้ง
แต่วันนี้ตัวเราไม่ได้เป็นเพียงอสุจิ และวันนี้เราไม่ไร้เดียงสาอีกแล้ว
ไม่ต้องเชื่อผมหรอกครับ ลองไปเยี่ยมไผ่ ดาวดิน ดูสักครั้ง ไปเพ่งดวงตาคู่นั้นสักครั้ง จะไปกันเองหรือไปพร้อมกับผมก็ได้ ยินดีครับ นัดหมายกันมาเลย
 
เคารพ
บินหลา สันกาลาคีรี
หมายเหตุ : จดหมายฉบับนี้ เดิมที ผมตั้งใจจะเขียนถึงพี่เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ในฐานะนักเขียนอาวุโส ศิลปินแห่งชาติ และสมาชิก สนช. เพราะอยากทราบทรรศนะเรื่องความยุติธรรมจากเขา แต่คิดว่าเขาอาจเข้าใจว่าผมต้องการแขวะหรือหาเรื่อง อันจะทำให้ไม่ได้รับคำตอบเปล่าๆ ผมจึงเขียนถึงนักเขียนทุกคนครับ และยินดีอย่างยิ่งถ้ามีใครจะให้คำตอบ โดยเฉพาะพี่เนาวรัตน์ อยากทราบทรรศนะเรื่องความยุติธรรมจริงๆ
อีกประการคือผมไม่รู้หรอกครับว่าจดหมายฉบับนี้จะมีที่ผิดกฎหมายหรือไม่ พยายามเขียนอย่างไตร่ตรองแล้วทุกตัวอักษร เพื่อสื่อสารให้เข้าใจกัน ถ้าผิด ก็ยินดีครับ มาจับไปเลย
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท