Skip to main content
sharethis

ชาวเลราไวย์ 200 คนบุกศาลากลาง จี้ผู้ว่าฯ ภูเก็ต แจงเหตุจังหวัดแถลงข่าวผิดจากข้อเท็จจริง ด้านผู้ว่าตอบจังหวัดไม่ได้แถลงข่าวตามที่ชาวเลระบุ ยังไม่แน่ใจว่าเอกสารที่ชาวเลพบ หลุดมาจากหน่วยงานใด

ภาพจาก Transborder News

29 พ.ย. 2559 Transborder News รายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชาวเลราไวย์จำนวนกว่า 200 คน เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ โชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อร้องทุกข์และขอให้ผู้ว่าฯ อธิบายข้อเท็จจริงภายหลังจากเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมาจังหวัดได้จัดแถลงข่าวและอ่านแถลงการณ์ร่วมของหน่วยงานต่างๆ ที่แก้ปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินของรัฐ โดยเนื้อหาในข้ออที่ 7 ระบุว่า “ปัญหาข้อพิพาทระหว่างบริษัทบารอนฯ กับชาวเลราไวย์ ผ่านกระบวนการตัดสินของศาลแต่ไม่สามารถบังคับคดีได้ เดิมพื้นที่ดังกล่าวชาวเลราไวย์อ้างว่าเป็นพื้นที่ฝังร่างบรรพบุรุษ และเป็นที่ประกอบพิธีกรรมบาลัย ซึ่งต่อมาบริษัทบารอนฯ ได้เข้ามาซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวเพื่อทำธุรกิจแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะถูกชาวเลขัดขวาง”

ทั้งนี้กลุ่มชาวเลเห็นว่าเนื้อหาของการแถลงดังกล่าวนั้นคาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ดังนั้นจึงได้ร่วมกันเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ โดยในหนังสือระบุว่า 1.ชุมชนชาวเลราไวย์ไม่เคยเข้าไปขัดขวางการพัฒนาพื้นที่ของบริษัทฯ แต่ได้ต่อสู้เฉพาะในส่วนของที่ดินสาธารณะหน้าชายหาดพื้นที่บาลัย และทางเดินสาธารณะที่มีมาแต่โบราณเท่านั้น 2.ชุมชนชาวเลราไวย์กับบริษัทได้มีคดีความกันตามข้อเท็จจริงในศาล และยังไม่มีการตัดสินในส่วนของคดีความแต่อย่างใด 3.การรักษาพื้นที่สาธารณะควรเป็นหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ตามที่ทางจังหวัดได้เปิดแถลงข่าวนั้นแตกต่างจากข้อเท็จจริงอย่างมาก เพราะความเป็นจริงที่เกิดขึ้นบริษัทเอกชนทำการถมคลองหลังโอน ชุมชนได้มีการร้องเรียนหน่วยงานรัฐเพื่อตรวจสอบแต่ไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบ 4.การชี้ว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะหรือไม่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานกลางของรัฐบาลโดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาชุมชนชาวเลที่มี พลเอกสุรินทร์ พิกุลทองที่ทางรัฐบาลได้แต่งตั้งและอยู่ระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันข้อมูลข้อเท็จจริงดังกล่าวได้ส่งถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว

“ชุมชนชาวเลราไวย์เห็นร่วมกันว่า ส่วนราชการในจังหวัดภูเก็ตอาจจะรับทราบข้อมูลบางส่วน แต่ละเลยข้อเท็จจริงในส่วนที่ชาวเลร่วมกันปกป้องที่สาธารณะเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันหน้าชายหาดของเอกชนสร้างเขื่อนกันคลื่น ซึ่งชาวเลร้องเรียนมานานกว่า 8 ปี จนสุดท้ายทราบว่าไม่มีการขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า จึงขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเร่งรัดดำเนินการด้วยจึงเรียนมาเพื่อทราบ” ในหนังสือของชาวเลราไวย์ระบุ

ด้าน นิรันดร์ หยังปาน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชาวเลราไวย์ กล่าวว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้ามารับหนังสือเอง และชี้แจงว่า ข่าวที่แถลงออกไปนั้นมีเพียง 5 ข้อ แต่เอกสารที่ชาวเลพบ ทางจังหวัดไม่แน่ใจว่าหลุดมาจากหน่วยงานใด แต่ยืนยันว่า ไม่ใช่จากทางจังหวัด และจะดำเนินการทุกอย่างเพื่อความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

นิรันดร์ กล่าวต่อว่า ภายหลังเจรจาเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จ ตัวแทนชาวเลราไวย์ได้นำส่งเอกสารของกรมเจ้าท่า ที่มีหนังสือสั่งการให้บริษัทเอกชนรื้อถอนเขื่อนกันคลื่นออก เนื่องจากมีการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่บริษัทฯ ได้ฟ้องร้องชาวเลข้อหาขัดขวางธุรกิจ โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินราว 31 ล้านบาท ชาวบ้านจึงได้ร้องทุกข์ต่อผู้ว่าฯ ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการเด็ดขาดในการรื้อถอนเขื่อนกันคลื่น

“เรื่องอื่นๆ ที่ผม และเพื่อนชาวเลเจรจาไปก็หลายประเด็น อย่างเรื่องความขัดแย้ง พิพาทที่ดินนั้นชาวเลทุกคนต่างเจ็บปวดกับเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น พวกเราถูกตีแล้ว ตีอีก ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน ที่ผ่านมาชาวเลต่อสู้เรียกร้องมาโดยตลอด แต่ไม่เป็นผล คดีความทำร้ายร่างกายก็ยังเงียบหายไป และคดีความก็ยังไม่คืบหน้า แต่ไม่มีการสรุปปัญหานี้เป็นปัญหาของจังหวัด ชาวเลไม่มีที่ทำกิน ไม่มีที่อยู่จะโดนไล่รื้อกันหมดหาดก็ไม่ถูกบรรจุเป็นปัญหา” นิรันดร์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net