เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2559 ที่ผ่านมาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้เปิดเผยรายงาน ASEAN in transformation: How technology is changing jobs and enterprises ของสำนักกิจกรรมนายจ้าง (ILO Bureau for Employers’ Activities) ระบุว่าคนทำงานประมาณ 137 ล้านคน หรือราวร้อยละ 56 ของแรงงานในกัมพูชา อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม มีความเสี่ยงสูงที่จะตกงานในอนาคต 

 

ในอุตสาหกรรมสิ่งทอเสื้อผ้าและรองเท้าของอาเซียนนั้นมีคนทำงานอยู่ในภาคนี้สูงถึง 9 ล้านคน พวกเขามีความเสี่ยงสูงที่จะสูญเสียงานจากการที่นายจ้างจะนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาแทนตำแหน่งงานที่พวกเขาทำอยู่ โดย ILO คาดการณ์ว่าคนทำงานในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอเสื้อผ้าและรองเท้านี้ร้อยละ 64 ที่อินโดนีเซีย ร้อยละ 86 ที่เวียดนาม และร้อยละ 88 ในกัมพูชาจะสูญเสียงานไปในอนาคต ซึ่งคนทำงานในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอเสื้อผ้าและรองเท้าที่กัมพูชามีประมาณ 6 แสนคน ส่วนใหญ่แล้วผลิตสินค้าส่งออกให้กับแบรนด์ Adidas, Marks and Spencer และผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าที่จำหน่ายใน Wal-Mart ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนามก็กำลังจะกลายเป็นผู้ส่งออกสินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าสู่สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 2 รองจากจีน ภายใต้ข้อตกลงการค้า TPP

 

ส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน คนทำงานก็มีความเสี่ยงสูงที่จะตกงานในอนาคตเนื่องจากการนำเทคโนโลยีมาแทนตำแหน่งงาน ในอินโดนีเซียคนทำงานในภาคนี้มีความเสี่ยงสูงถึงร้อยละ 60 ส่วนประเทศไทยของเราตัวเลขน่าตกใจกว่านั้นอยู่ที่ร้อยละ 70 ทั้งนี้ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนของอาเซียนนั้นสามารถผลิตยานยนต์ได้สูงเป็นอันดับ 7 ในตลาดโลกเมื่อปี 2558 โดยมีคนทำงานอยู่ในภาคนี้ถึงกว่า 8 แสนคน