จับอีก 2 คดีเตรียมป่วนกรุง -‘วิญญัติ’เผยข้อมูลหลังคุยผู้ต้องหา ห่วง ‘ติดเชื้อฯ’

27 พ.ย.2558 จากกรณีตำรวจนำตัวผู้ต้องหา 2 รายคือ จ.ส.ต.ประธินและนายณัฐพล (สงวนนามสกุล) มาแสดงตัวในงานแถลงข่าวการจับกุมเมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาพร้อมระบุว่าทั้ง 2 คน รวมทั้งพวกที่ออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวอยู่อีก 7 คน เป็นขบวนการที่เตรียมก่อเหตุป่วนงานสำคัญๆ ในกรุงเทพฯ และมีความต้องการจะลอบประทุษร้ายบุคคลสำคัญในรัฐบาล 2 คน จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปฝากขังที่ศาลทหารและควบคุมตัวที่เรือนจำชั่วคราวใน มทบ.11 ทั้งนี้ก่อนหน้าการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวทั้งคู่เพื่อสอบสวนในค่ายทหารแล้วตั้งแต่วันที่ 21 และ 23 พ.ย.ตามลำดับ

วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของผู้ต้องหา 2 รายให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่าเตรียมการจะก่อเหตุป่วนงาน Bike for Dad และในวันนี้เขาได้เข้าไปสอบถามพูดคุยกับทั้งคู่ภายในเรือนจำ มทบ.11 แล้ว นายประธินยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด พร้อมชี้แจงว่าไม่มีความคิดหมิ่นเบื้องสูงหรือจะไปทำร้ายบุคคลใดๆ หรือคนที่มาร่วมขี่จักรยานตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด รวมทั้งไม่มีศักยภาพด้วยเพราะลำพังแค่การดำรงชีพหลังจากได้รับประกันตัวมาในคดีขอนแก่นโมเดลก็ลำบากอยู่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่พยายามบังคับให้รับสารภาพในบางเรื่องที่เกี่ยวพันกับการพยายามลอบทำร้ายบุคคลสำคัญแต่เขายืนกรานปฏิเสธจึงทำให้ท้ายที่สุดถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 112

“เขาถูกจับวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน นำตัวมากรุงเทพฯ ทันที การสอบปากคำมีการปิดตา และบังคับให้รับสารภาพว่ากำลังมีแผนที่จะลอบทำร้ายคนสำคัญในงาน Bike for Dad แต่เขาบอกว่าเขาไม่ได้กระทำจึงยอมรับไม่ได้ เขาแจ้งว่ามีการเตะและตบที่ใบหน้าเพื่อให้รับด้วย” วิญญัติกล่าว

เขากล่าวอีกว่า ข้อกล่าวหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งคือ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ มาตรา 14(1) ของพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน ยังไม่มีข้อหาอื่นใด และพฤติการณ์ที่กล่าวหาในเวลานี้คือ ข้อความ 4 ข้อความที่ได้จากสมุดของประธินซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นข้อความหมิ่นเบื้องสูงที่ ผู้ต้องหาได้มาจากการฟังจากคลิปการเมืองที่จัดทำโดยผู้ที่อยู่ต่างประเทศหลายคน เป็นการจดไว้ส่วนตัวแต่ไม่เคยส่งให้ใคร

“ข้อกล่าวหาระบุว่า การหมิ่นมาจากเฟซบุ๊ก กูเกิลและยูทูบ โดยกล่าวหาว่าประธินจดข้อความแล้วเอาไปส่งในกลุ่มไลน์ต่อด้วย แต่ประธินบอกว่าเขาดูตามคลิปแล้วจดไว้ แต่ไม่ได้ส่งให้ใคร เหมือนคนอยากรู้อยากเห็น ฟังอะไร ใครพูดอะไรก็จดไว้ จดไว้หลายอย่างทั่วไป เป็นการช่วยจำเพราะอายุมาก แต่ไม่มีการจดเรื่องแผนการเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหาเลย” วิญญัติกล่าวและว่าข้อความที่จดเป็นลักษณะของวิธีคิดของคนอื่น ไม่ใช่ของประธิน

“สิ่งที่บอกว่าจะไปก่อเหตุ ไปป่วนนั้นไม่มีหลักฐาน แต่มันมีผู้ที่ทำคลิปยูทูบที่อยู่ต่างประเทศพูดเรื่องนี้ และประธินรับชมคลิป ซึ่งโดยปกติในระบบยูทูบ เขาสืบค้นย้อนหลังได้อยู่แล้วว่าใครที่รับชมบ้างโดยดูจากไอพีเอดเดรส มันเป็นการเปิดช่องให้เล่นงานได้ กลายเป็นว่าคนที่โดนเขาไม่ได้ทำอะไร แต่คนที่พูดเป็นคนที่อยู่ที่อื่นที่ยังไม่ได้ตัวมา” วิญญัติตั้งข้อสังเกต

ทนายความกล่าวถึงลักษณะการจับกุมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทหารมาขอตรวจค้นที่บ้านประธิน ยึดโทรศัพท์ไป 1 เครื่อง โน้ตบุ๊ก 2 เครื่องคือของเขาและของลูกชาย ส่วนข่าวว่ามีการยึดอาวุธได้ด้วยนั้นยืนยันว่าไม่มีการยึดอาวุธจากบ้านผู้ต้องหาทั้งสองแต่อย่างใด

สำหรับผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งคือณัฐพล วิญญัติกล่าวว่าเป็นชายหนุ่มอายุ 26 ปี มีลูกอายุ 9 ปี ปัจจุบันช่วยแม่ขายอาหารตามสั่งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น มีประวัติถูกจำคุกมา 1 ปี 10 เดือนเนื่องจากมียาบ้าเพื่อจำหน่าย 2 เม็ด พ้นโทษมาเมื่อประมาณเดือนพ.ค.2558 มาอยู่บ้านไม่กี่เดือนก็โดนคดีนี้ โดยที่ณัฐพลยืนยันว่าไม่รู้เรื่องทั้งยูทูป เฟซบุ๊ก หรือไลน์แต่อย่างใด นอนอยู่บ้านเฉยๆ ทหารก็เข้ามาตรวจค้นและนำตัวไปตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.คุมขังที่ขอนแก่น 2 วันก่อนนำตัวมากรุงเทพฯ

“ทหารมาสามสี่คันรถใช้เครื่องตรวจโลหะ ตรวจค้นอาวุธสงคราม มีสุนัขสงคราม มาตรวจสองวัน วันแรกไม่พบอะไรแต่เอาตัวไป วันที่สองก็มาอีกครั้ง ไม่พบอะไรอีก และมีการบอกแม่ว่า “ขอยืมลูกชายหน่อยเด้อ เดี๋ยวเอามาคืน” วิญญัติกล่าว

“ทั้งสองคนตกใจมาก ที่อยู่ๆ ไปคุมตัวมา ปิดตา แล้วก็นำตัวมาแถลงข่าวเรื่องนี้ ภาพออกมาสองคนนี้งงมาก” วิญญัติกล่าว

เมื่อถามว่าณัฐพลเกี่ยวพันกับผู้ต้องขอนแก่นโมเดลหรือไม่อย่างไร วิญญัติตอบว่า พวกเขารู้จักกันในเรือนจำ ช่วงที่ผู้ต้องหาขอนแก่นโมเดลถูกคุมขังในเรือนจำหลายเดือนและได้รู้จักกับณัฐพลซึ่งถูกขังอยู่ด้วยในคดียาเสพติด เมื่อณัฐพลออกมาก็ติดต่อกันนิดๆ หน่อยๆ ในฐานะที่รู้จักกันและณัฐพลยืนยันว่าเขาไม่เคยคุยกันเรื่องจะไปก่อเหตุแบบนี้แต่อย่างใด เขาไม่ได้สนใจการเมือง ไม่เคยไปร่วมชุมนุม ในช่วงวัยเด็กถึงวัยรุ่นเคยไปเป็นแรงงานกรีดยางในภาคใต้นับสิบปีและเพิ่งย้ายมาอยู่ขอนแก่นไม่กี่ปีก่อนโดนจับคดียาเสพติด

“ข้อเท็จจริงเรื่องหนึ่งที่มีความพยายามให้เขารับคือเรื่องกระสุนปืน เพราะเคยมีคนถามกับประธิน แต่ทั้งสองไม่เคยมีกระสุนปืน หรืออาวุธใดๆ” ทนายความกล่าว

วิญญัติกล่าวด้วยว่า ข้อกล่าวนี้เมื่อถูกกล่าวหาเมื่อไรก็จะสูญเสียอิสรภาพทันทีและน่ากังวลใจมากเมื่อถูกควบคุมตัวที่ มทบ.11

“เรากังวลใจมากเพราะมันอาจมีการสอบสวนเกิดขึ้นอีกตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น ไม่ได้สอบสวนเฉพาะกลางวันเฉพาะพนักงานสอบสวน เราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างสำหรับคนที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำในค่ายทหาร เราไม่รู้ว่าใครจะติดเชื้ออะไร เกิดขึ้น ณ เวลาใด เหตุการณ์ที่เคยเกิดแล้วทำให้เราวิตกกังวลมาก” วิญญัติกล่าว

“แนวทางที่จะร้องขอศาลทหารให้ย้ายผู้ต้องหามาคุมขังในเรือนจำปกติคงเป็นไปได้ยากมาก ผมแสดงตัวเป็นทนายที่ศาลทหารตอนที่พนักงานสอบสวนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังก็ยังถูกกีดกัน ได้คุยไม่ถึง 5 นาทีทั้งที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่าจะต้องเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหาพบทนายแม้ก่อนจะมีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ” วิญญัติกล่าว

ด้านศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนแจ้งข่าวผ่านทวิตเตอร์เมื่อช่วงค่ำวันนี้ (27 พ.ย.) ว่า  เบญจรัตน์ มีเทียน ทนายความเปิดเผยว่ามีการควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีนี้เพิ่มเติมตามหมายจับอีก 2 คน โดยควบคุมตัวมาจากจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดหนองคาย เจ้าหน้าที่นำตัวไปขอฝากขังยังศาลทหารแล้วนำไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราว มทบ.11 แล้ว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ทหารคุมตัว อดีต ตชด.1 คน พลเรือน 2 คนโดยหน่วยข่าวกรองได้นำตัวมาซักถามในค่ายทหารแห่งหนึ่งในกทม.และเข้าตรวจค้นห้องพักของ อดีต ตชด.ได้พยานหลักฐานเอกสารเตรียมการสร้างความปั่นป่วนหลายพื้นที่ และพบการสนทนาผ่านไลน์ โดยหนึ่งในแผนมีการเตรียมประทุษร้ายบุคคลสำคัญทางการเมือง 2 คนในรัฐบาลและอดีต ตชด.คนดังกล่าวยอมรับว่ามีการเตรียมการวางแผนสร้างความปั่นป่วนจริง ต่อมาวันที่ 26 พ.ย.โพสต์ทูเดย์รายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคง แถลงรายละเอียดว่ามีการออกหมายจับ 9 รายและจับกุมได้ 2 รายคือ ประธิน อดีต ตชด. และนายณัฐพล อายุ 26 ปี ที่เหลือยังหลบหนีอีก 7 ราย โดยประธินเป็นผู้วางแผนก่อเหตุ ณัฐพลเป็นผู้จัดหาอาวุธ

ขณะที่ผู้จัดการออนไลน์ระบุว่า พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม (ผบก.ผอ.) กล่าวว่าตำรวจได้รับการประสานข้อมูล จาก คสช.พบว่า จ.ส.ต. ประธิน ยังคงเคลื่อนไหวในพฤติการณ์เดิมๆ โดยมีผู้สั่งการเชื่อมโยงเครือข่ายในต่างประเทศ ทาง คสช.จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.วิจารณ์ จดแตง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงมีคำสั่ง ตร.ที่ 682/2558 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มี พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้า พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี (รองผบช.กมค.) เป็นรองหัวหน้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทหาร ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัดและเชื่อว่ามีผู้กระทำความผิด 9 คน

ผู้ต้องหาทั้ง 9 คนได้แก่ 1.จ.ส.ต.ประธิน อายุ 60 ปี 2.นายณัฐพล อายุ 26 ปี 3.นายพิษณุ อายุ 58 ปี 4.นายวัลลภ อายุ 33 ปี 5.นายฉัตรชัย อายุ 24 ปี 6.นายมีชัย อายุ 49 ปี 7.นายธนกฤต อายุ 49 ปี 8.นายวีรชัย อายุ 33 ปี 9.นายพาหิรัณ อายุ 44 ปี โดยศาลทหารได้ออกหมายจับศาลทหารกรุงเทพที่ 51/2558 กล่าวหาว่าร่วมกันก่อเหตุตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน เหตุเกิดที่บ้านของจ.ส.ต.ประธิน ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในจำนวนนี้มีอยู่ 4 รายที่เป็นผู้ต้องหาในคดีขอนแก่นโมเดล

       

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท